ผู้นำองค์กรมุสลิมในสหรัฐฯ แถลงต้านไอเอส เตือนนักการเมืองอย่าฉวยโอกาสหาเสียงจากเหตุกราดยิงคลับเกย์
เพิ่มเติมข้อมูลเมื่อ 11:52 น.
รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศภาวะฉุกเฉินในเมืองออร์แลนโดและเขตออเรนจ์เคาน์ตี้ในรัฐฟลอริดา หลังเกิดเหตุกราดยิงที่ไนต์คลับ Pulse ซึ่งเป็นไนต์คลับสำหรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกันในเมืองออร์แลนโด เมื่อเวลาประมาณ 2:00 น.วันที่ 12 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น และเป็นเหตุกราดยิงที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 25 ปีของสหรัฐฯ เพราะมีผู้เสียชีวิตแล้ว 50 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 53 ราย
สำนักข่าวอามัก ซึ่งเป็นสื่อของกลุ่มติดอาวุธที่เรียกตนเองว่ากองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส (IS) เผยแพร่แถลงการณ์ของกลุ่มไอเอสซึ่งอ้างว่ามือปืนผู้ก่อเหตุในเมืองออร์แลนโดเป็นนักรบของกลุ่มตน ด้านสำนักข่าวเอ็นบีซีของสหรัฐฯ รายงานว่านายโอมาร์ มาทีน ชาวอเมริกันเชื้อสายอัฟกัน วัย 29 ปี เป็นมือปืนผู้ก่อเหตุ โดยนายมาทีนได้โทรไปแจ้งหน่วยฉุกเฉิน 911 ก่อนลงมือกราดยิง และประกาศว่าตนจงรักภักดีกับกลุ่มไอเอส
นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศให้หน่วยงานรัฐบาลลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศในวันนี้ (13 มิ.ย.) เพื่อไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตในเหตุกราดยิงไนต์คลับพัลส์ พร้อมระบุว่าการฆาตกรรมอันร้ายแรงครั้งนี้ทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายสิบราย และเป็นโศกนาฎกรรมสำหรับกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน นายโอบามาจึงเรียกร้องให้พลเรือนชาวอเมริกันทบทวนเรื่องการควบคุมอาวุธปืนในประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาพยายามผลักดันมาตลอด
ขณะที่นางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ผู้ได้รับการสนับสนุนจากนายโอบามาให้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ต่อต้านการใช้อาวุธสงครามในสหรัฐฯ แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเก็งที่คาดว่าจะได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวโจมตีว่านายโอบามาควรถอนตัวจากตำแหน่ง เพราะไม่ยอมใช้คำว่า “อิสลามหัวรุนแรง” กล่าวประณามการก่อเหตุครั้งนี้ พร้อมระบุว่าหากไม่มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ฉลาด และรวดเร็ว อาจจะทำให้ไม่มีประเทศชาติอีกต่อไป
ด้านนายนิฮาด อาวาด ประธานสภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม แถลงเรียกร้องให้นักการเมืองอย่าฉวยโอกาสหาเสียงในช่วงหลังเหตุการณ์กราดยิง พร้อมกล่าวด้วยว่ากลุ่มไอเอสไม่ได้เป็นตัวแทนของชาวมุสลิม แต่เป็นพวกบิดเบือน
รายงานข่าวระบุด้วยว่านายโอมาร์ มาทีน มือปืนผู้ก่อเหตุกราดยิงไนต์คลับ มีประวัติการทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา ทั้งยังเคยถูกเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนสอบสวนกลาง (FBI) สอบปากคำช่วงปี 2556-2557 หลังนายมาทีนแสดงความคิดเห็นรุนแรงต่อเพื่อนร่วมงาน แต่เจ้าหน้าที่ปิดการสอบสวนโดยไม่ดำเนินคดีใด ส่วนอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุเป็นอาวุธที่นายมาทีนซื้อมาอย่างถูกกฎหมายก่อนลงมือก่อเหตุเพียงไม่กี่วัน ขณะที่บริษัทรักษาความปลอดภัย G4S ซึ่งว่าจ้างนายมาทีนมาตลอด 9 ปีระบุว่าการพกพาอาวุธของนายมาทีนเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน




แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.