บีบีซีไทย - BBC Thai
ตุรกีคาดกลุ่มไอเอสเป็นผู้ก่อเหตุยิงและระเบิดสนามบินอตาเติร์ก
รัฐบาลตุรีเผยยอดผู้เสียชีวิตจากกรณีผู้ก่อเหตุ 3 รายบุกกราดยิงและจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตายที่สนามบินนานาชาติอตาเติร์กในนครอิสตันบูลเมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) เพิ่มจำนวนเป็น 36 ราย ผู้บาดเจ็บอีกราว 147 ราย รวมถึงชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่อาจระบุรายละเอียดเพิ่มเติมได้
นายเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ระบุว่าการก่อเหตุครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนด้านยุทธศาสตร์ของการต่อสู้กลุ่มก่อการร้ายในระดับโลก เพราะเหตุระเบิดแบบเดียวกับที่นครอิสตันบูลอาจเกิดขึ้นที่สนามบินอื่นๆ ในเมืองใหญ่อีกหลายแห่งทั่วโลกเช่นกัน ส่วนนายบินาลี ยิลดิรีม นายกรัฐมนตรีตุรกี เผยว่าเบาะแสเบื้องต้นบ่งชี้การก่อเหตุครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอเอส
รายงานข่าวระบุว่าภาพวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามบินอตาเติร์กถูกเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ แสดงให้เห็นผู้ก่อเหตุ 1 ใน 3 รายซึ่งสวมชุดดำใช้ปืนกลกราดยิงที่บริเวณทางเข้าอาคารผู้โดยสาร และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตอบโต้ ทำให้ผู้ก่อเหตุซึ่งทรุดลงไปนอนกับพื้นจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย ขณะที่การนำตัวผู้บาดเจ็บบางส่วนส่งโรงพยาบาลต้องอาศัยรถแท็กซี่บริเวณสนามบิน เพราะรถพยาบาลเข้าไม่ถึง
ทั้งนี้ สนามบินอตาเติร์กเคยถูกวิจารณ์มาก่อนว่าตกเป็นเป้าโจมตีได้ง่าย เพราะมีเครื่องเอ็กซเรย์ตรวจสอบอาวุธที่บริเวณประตูทางเข้าอาคารผู้โดยสารเท่านั้น แต่มาตรการตรวจสอบรถยนต์ที่เข้าและออกในอาคารไม่มีความเข้มงวดเพียงพอ และการก่อเหตุดังกล่าวทำให้เที่ยวบินเกือบทั้งหมดถูกระงับ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ เยอรมนี และเบลเยียม ต่างแถลงประณามการก่อเหตุครั้งนี้ และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าสหรัฐฯ พร้อมยืนเคียงข้างตุรกี




ยิ่งล่ำยิ่งมีโอกาสเป็นแชมป์เทนนิส
การแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดันในอังกฤษเริ่มขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย โวเลอร์แฮมพ์ตันในสหราชอาณาจักรชี้ว่านักเทนนิสชายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อจนร่างกายกำยำล่ำสันนั้นมักจะเป็นผู้คว้าชัย
นักวิจัยบอกว่าตลอดเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา สรีระร่างกายนักเทนนิสที่ร่วมแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน พัฒนาไปจากผู้ที่มีร่างกายผอมแต่แข็งแรง ไปเป็นผู้ที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรง และมีน้ำหนักตัวมากขึ้น ซึ่งจุดนี้ช่วยให้มีแรงหวดลูกสักหลาดได้ดีกว่า
นักวิจัยวิเคราะห์โครงสร้างร่างกายของนักเทนนิสในรายการต่าง ๆ อาทิ ออสเตรเลียน โอเพ่น เฟรนช์โอเพ่น วิมเบิลดันและยูเอสโอเพ่น ในช่วงปี 2525-2554 และพบแนวโน้มดังกล่าวในหมู่นักเทนนิสชายที่ผ่านเข้าถึงรอบที่ 3 หรือสูงกว่าในทุกรายการ
ศ.อลัน เนวิลล์ และนักศึกษาที่ร่วมในงานวิจัยพบว่านักเทนนิสที่ประสบชัยชนะส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจากการมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงไม่ใช่ไขมัน ศ.เนวิลล์ ยกตัวอย่างเมื่อครั้งแอนดี้ เมอร์เรย์ นักเทนนิสของสหราชอาณาจักร อยู่ในวัย 17 ปี เมอร์เรย์มีร่างกายผอมบาง แต่นับจากนั้นเมอร์เรย์เสริมสร้างร่างกายจนมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งและตัวหนาขึ้น “นี่เป็นเคล็ดลับที่ทำให้เมอร์เรย์ประสบความสำเร็จในช่วง 4-5 ปีมานี้”
อย่างไรก็ดี ศ.เนวิลล์ บอกว่านอกจากเมอร์เรย์แล้ว โนวัค ยอโควิช นักเทนนิสชาวเซอร์เบียก็มีโอกาสคว้าแชมป์วิมเบิลดันปีนี้ทั้งคู่
ทั้งนี้ งานวิจัยซึ่งตีพิมพ์อยู่ในวารสาร European Journal of Sports Scienceไม่ได้ศึกษาถึงสรีระร่างกายของนักเทนนิสหญิง แต่ ศ.เนวิลล์ เชื่อว่ามีจุดที่แตกต่างไปจากนักเทนนิสชาย โดยยกตัวอย่างเซเรนา วิลเลียมส์ นักเทนนิสสาวชาวอเมริกัน ซึ่งมีร่างกายแข็งแกร่ง แต่เขาเห็นว่าทักษะในการเล่นก็มีส่วนพอ ๆ กันกับความแข็งแกร่งของร่างกาย ซึ่งทำให้วิลเลียมส์ประสบชัยชนะมากกว่า
สำหรับกีฬาประเภทอื่นนั้น งานวิจัยพบว่านักวิ่งและนักฟุตบอลที่มีร่างกายผอม มักเป็นผู้ประสบความสำเร็จ ‪#‎TennisPlayer‬






ชีวิตภายใต้การจองจำของอัลไคดา
เมื่อเดือน พ.ค. 2556 นายอาลี ไฮเดอร์ กิลานี บุตรชายของนายยูซุฟ ราซา กิลานี อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน ถูกกลุ่มอัลไคดาลักพาตัวไปขณะกำลังรณรงค์หาเสียงให้พรรคประชาชนปากีสถานในเมืองมูลตาน เพื่อแก้แค้นที่นายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้ากลุ่มอัลไคดา ถูกสังหารในสมัยที่พ่อของเขาเป็นผู้นำปากีสถาน และส่งกำลังไปเปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินในเขตเซาท์วาซิริสถาน
นายอาลี กิลานี ถูกคุมขังเป็นเวลา 3 ปี และเพิ่งได้รับการช่วยเหลือเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา เขาให้สัมภาษณ์บีบีซีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและเป็นครั้งแรกที่เขาเปิดเผยเรื่องราวสู่สาธารณะนับตั้งแต่รอดชีวิตกลับมา
นายกิลานีเล่าให้ผู้สื่อข่าวบีบีซีฟังว่า ถูกจับตัวไปไว้ที่เมืองไฟซาลาบัดในจังหวัดปัญจาบ ก่อนจะถูกพาไปยังดินแดนชนเผ่าในนอร์ทวาซิริสถาน ที่นั่นเขาถูกจับล่ามโซ่อยู่นาน 2 ปี โดยถูกขังไว้ในห้องแคบ ๆ ไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวันถึง 1 ปี 2 เดือน ในระหว่างนั้นเขาพยายามนับวันเวลาและเขียนบันทึกความรู้สึกของตัวเองทุกวัน เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน เขาละหมาดและนึกถึงแต่ลูกชายกับพร่ำบอกตัวเองว่าจะต้องกลับไปเห็นหน้าลูกให้ได้ ตอนที่เขาถูกจับตัวไปนั้นลูกชายยังอยู่ในวัยเตาะแตะ
นายกิลานีเล่าอีกว่า แม้กลุ่มอัลไคดาจะไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่กลับพยายามทำให้เขาเสียสติด้วยการพูดอยู่ตลอดเวลาว่าทั้งเขา และพ่อ ไม่ใช่คนมุสลิม ครอบครัวจะไม่มาช่วยเหลือเขา พวกเขาจะต้องตกนรก ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มอัลไคดาที่จับตัวเขาไป ได้เรียกร้องเงินค่าไถ่จำนวนหนึ่งและต้องการให้ปล่อยตัวนักโทษคนสำคัญของกลุ่มเป็นการแลกเปลี่ยน
นายกิลานีถูกคุมขังอยู่อย่างนั้นและเกรงว่าตัวเองจะต้องตายเข้าสักวัน ขณะที่กองทัพปากีสถาน ไล่ล่ากลุ่มตาลีบันและอัลไคดาอย่างหนักหน่วง กระทั่งเดือน ม.ค.ซึ่งเป็นช่วงที่มีการโจมตีด้วยโดรนอย่างไม่ขาดสาย ทำให้กลุ่มอัลไคดาตัดสินใจนำตัวเขาส่งต่อไปให้สมาชิกของกลุ่มตาลีบันในเขตชาวาล ในนอร์ทวาซิริสถาน แต่กองทัพปากีสถานยังไม่หยุดยั้ง ทำให้กลุ่มตาลีบันต้องพาเขาหนีข้ามชายแดนเข้าไปในจังหวัดพัคติกาในอัฟกานิสถาน
ขณะอยู่ในความควบคุมของกลุ่มตาลีบัน เขากลับมีความเป็นอยู่ดีขึ้น ไม่ถูกล่ามโซ่ ได้รับอนุญาตให้เดินเล่นและมีโอกาสเห็นเดือนเห็นตะวัน คนคุมยังยอมให้วิทยุตามคำขอ เพราะชอบฟังการแข่งขันคริกเก็ตเหมือนกัน และนั่นทำให้เขามีโอกาสเชื่อมต่อกับโลกภายนอกเป็นครั้งแรก
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางกลุ่มตาลีบันได้รับข้อมูลลับว่ากองทัพสหรัฐฯ จะบุกจู่โจมที่คุมขัง จึงพาเขาหลบหนีในช่วงกลางคืน หลังออกเดินได้ราว 3-4 ชั่วโมง เขาก็ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือศีรษะ ตามด้วยเสียงปืน เขาหมอบราบลงกับพื้น จนกระทั่งได้ยินเสียงใครคนหนึ่งบอกให้เขาถอดเสื้อออกและยกมือขึ้น เขาละล่ำละลักบอกว่าเขาคือ อาลี ไฮเดอร์ กิลานี เป็นบุตรชายของอดีตผู้นำปากีสถาน จากนั้นกองกำลังสหรัฐฯ ก็พาตัวเข้าขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไป และวันรุ่งขึ้น เขาก็ได้พบกับน้องชายของเขาเป็นครั้งแรกที่กรุงคาบูล
นายกิลานี ได้กลับมาพบครอบครัวอีกครั้งที่เมืองมูลตาน ได้พบกับแม่ที่ต่างโผกอดและร่ำไห้ เขาได้พบลูกชายซึ่งไม่ได้เห็นหน้ากันมา 3 ปี ลูกเปลี่ยนไปจนเขาจำไม่ได้ แต่ลูกชายบอกว่า “ผมจำพ่อได้”
ปัจจุบัน นายกิลานี เขากำลังเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของเขาขณะถูกคุมขัง และมีแผนจะกลับไปเล่นการเมือง เพราะการเมืองเป็นสิ่งที่ “อยู่ในสายเลือดของเขา”‪#‎AlQaeda‬ ‪#‎Taliban‬ ‪#‎Kidnap‬

การเล่นไพ่ช่วยให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองฟื้นตัวจากอัมพฤกษ์ได้ดีขึ้น

ทีมนักวิจัยจากแคนาดา ระบุว่า การเล่นเกมไพ่ง่ายๆ เช่น ไพ่จับคู่ สามารถช่วยฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตก ตีบ ตัน หรือฉีกขาด ที่มีอาการอัมพฤกษ์ได้ ส่งผลให้ผู้ป่วยเหล่านี้เคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้ตีพิมพ์ในวารสาร Lancet Neurology โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากโรงพยาบาลเซนต์ไมเคิล ในนครโทรอนโต ศึกษาคนไข้โรคหลอดเลือดสมอง 141 คนที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวแขนและมือ
นักวิจัยได้จัดให้คนไข้ครึ่งหนึ่งไปเล่นวิดีโอเกมวี (Wii) แล้วให้คนไข้ที่เหลือไปทำกิจกรรมสันทนาการง่ายๆ เช่น เล่นไพ่ เล่นเกมตัวต่อไม้เจงก้า (Jenga) และเล่นเกมบิงโก เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จำนวน 10 ครั้ง ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในระหว่างนี้พวกเขาจะเข้ารับการทำกายภาพบำบัดตามปกติสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองควบคู่ไปด้วย

ผลการศึกษาพบว่า การบำบัดฟื้นฟูด้วยการเล่นไพ่ เล่นเกมตัวต่อไม้เจงก้า และเล่นเกมบิงโกให้ประสิทธิภาพดีไม่ต่างไปจากการเล่นวิดีโอเกมวี โดยคนไข้ทั้งสองกลุ่มสามารถขยับแขนและมือได้ดีขึ้นราว 30% หลังจากเข้ารับการบำบัดไปได้ 2 สัปดาห์ และมีอาการดีขึ้น 40% หลังจากรับการบำบัดไป 4 สัปดาห์


บีบีซีไทย - BBC Thai
ที่ประชุมสภายุโรปตอบโต้กันเผ็ดร้อนกรณีผลประชามติสหราชอาณาจักร

ที่ประชุมสภายุโรปซึ่งอภิปรายกันเป็นครั้งแรกหลังจากผลการลงประชามติชี้ว่าสหราชอาณาจักรต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) มีการแลกเปลี่ยนถ้อยคำตอบโต้กันอย่างเผ็ดร้อน โดยหัวหน้าพรรคยูคิพของอังกฤษซึ่งรณรงค์ให้แยกตัวถูกโห่ ถูกต่อว่าเป็นพวกโกหกและถูกกล่าวหาว่าใช้แนวทางโฆษณาชวนเชื่อของพวกนาซี ด้านเจ้าตัวโต้กลับว่าอียูเป็นพวกไม่ยอมรับความจริง

การประชุมสภายุโรปวันนี้ มีนายฌอง คล้อด ยุงเกอร์ ประธานสภายุโรป กล่าวเปิดประชุม โดยระบุว่ารัฐบาลอังกฤษจะต้องสร้างความชัดเจน และว่าทุกฝ่ายควรให้ความเคารพการตัดสินใจของคนอังกฤษ ซึ่งเมื่อกล่าวถึงจุดนี้นายไนเจิล ฟาราจ หัวหน้าพรรคยูคิพ ได้ปรบมือและร้องตะโกน ขณะที่นายยุงเกอร์กล่าวต่อไปว่า “คุณต่อสู้เพื่อแยกตัวจากอียู และคนอังกฤษก็ออกเสียงตามนั้น แล้วคุณยังมาทำอะไรที่นี่?” นายยุงเกอร์ยังกล่าวหานายฟาราจว่าพูดโกหกในเรื่องที่ว่าจะนำเงินที่สหราชอาณาจักรสมทบเข้าอียูไปใช้ให้บริการสาธารณสุขแทน

ด้านนายกี เวอร์โฮฟสตัดท์ อดีตนายกรัฐมนตรีเบลเยียม ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มเสรีในสภายุโรป กล่าวว่า นายฟาราจใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อของพวกนาซีในการรณรงค์ให้คนสนับสนุนการแยกตัวออกจากอียู นายเวอร์โฮฟสตัดท์อ้างอิงถึงโปสเตอร์ภาพผู้อพยพจำนวนมากกำลังเข้าคิวเหยียดยาวเพื่อเดินทางเข้ายุโรป เขากล่าวด้วยว่าท้ายที่สุดแล้วอียูก็จะไม่ต้องเสียงบประมาณไปจ่ายเงินเดือนให้คนอย่างนายฟาราจอีกต่อไป

ด้านนายฟาราจ กล่าวกลางที่ประชุมสภายุโรปว่าไม่เคยมีสมาชิกสภายุโรปคนใดที่ทำงานอย่างจริงจังหรือสร้างงานให้เกิดขึ้น เขากล่าวด้วยว่าเมื่อ 17 ปีที่แล้ว เขาเคยบอกกับสภายุโรปว่าจะรณรงค์ให้สหราชอาณาจักรออกจากอียู แต่ถูกหัวเราะเยาะใส่ มาถึงตอนนี้อียูหัวเราะไม่ออกเสียแล้ว และที่อียูกำลังแค้นเคืองอย่างหนักในตอนนี้ก็เพราะอียูเป็นพวกไม่ยอมรับความจริง เขากล่าวด้วยว่าสหราชอาณาจักรได้สร้างความหวังให้กับชาติอื่น ๆ ในยุโรปที่ต้องการหลุดพ้นจากอียู

ทั้งนี้ ที่ประชุมสภายุโรปได้ลงมติสนับสนุนการเรียกร้องให้สหราชอาณาจักรดำเนินการตามมาตรา 50 ภายใต้สนธิสัญญาลิสบอนเพื่อแยกตัวออกจากอียูโดยทันที

ด้านนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่าคนอังกฤษต้องไม่หันหลังให้อียู และเขายังหวังว่าการเจรจากับอียูในการประชุมฉุกเฉินร่วมกันจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่นางแองเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี กล่าวว่าหากอังกฤษต้องการเข้าร่วมตลาดเดียวของอียูก็จะต้องยอมให้ผู้คนได้เดินทางเข้าออกประเทศได้อย่างเสรี ‪#‎Brexit‬‪#‎EUreferendum‬



ผลการลงประชามติซึ่งชี้ว่าคนในสหราชอาณาจักรต้องการแยกตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเอาบรรยากาศทางการเมืองในสหราชอาณาจักรอึมครึม ข่าวนี้ได้รับการรายงานไปทั่วทุกมุมโลก ไม่เฉพาะเพียงการรายงานเนื้อหาทางหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ หรือโซเชียลมีเดีย แต่ในเวลาเดียวกันนักเขียนการ์ตูนล้อเลียนเชิงการเมืองทั่วโลกได้จังหวะอวดผลงานซึ่งสะท้อนถึงความวุ่นวายในสหราชอาณาจักรและยุโรป ผ่านภาพวาดการ์ตูนในรูปแบบแตกต่างกันไป โดยการ์ตูนหลายชิ้นมองว่าสหราชอาณาจักรทำร้ายตัวเอง ถึงแม้จะแค่เฉือนเนื้อไม่ถึงกระดูกก็ตาม
บีบีซีรวบรวมบางส่วนมาให้ชมค่ะ ‪#‎Brexit‬ ‪#‎EUreferendum‬


รัสเซียเผยตุรกีเสียใจกรณียิงเครื่องบินรัสเซียตกปีที่แล้ว

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่านายเรเจ็ป ทายยิป แอร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรกี ส่งจดหมายถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อแสดงความเสียใจกรณีเครื่องบินขับไล่ของตุรกียิงเครื่องบินรบรุ่น Su-24 ของรัสเซียตกลงแถบชายแดนซีเรียในวันที่ 24 พ.ย.2558 ทำให้นักบินชาวรัสเซียเสียชีวิต และเนวิเกเตอร์ประจำเครื่องบินได้รับบาดเจ็บ
นายเพสคอฟเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าประธานาธิบดีแอร์โดอันของตุรกีได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวนักบินผู้เสียชีวิต พร้อมระบุว่าต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซีย ขณะที่โฆษกรัฐบาลตุรกีไม่ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลของฝ่ายรัสเซียแต่อย่างใด

รายงานข่าวระบุว่าในวันเกิดเหตุเมื่อปีที่แล้ว ตุรกีแจ้งว่าเครื่องบินรบของรัสเซียรุกล้ำเข้ามาในเขตตุรกี และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมได้แจ้งเตือนให้นักบินรัสเซียเปลี่ยนเส้นทางบินรวม 10 ครั้งในเวลา 5 นาที แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง จึงส่งเครื่องบินขับไล่รุ่น F-16 เข้าประกบและยิงเครื่องบินรัสเซียตกลงในฝั่งประเทศซีเรีย นอกจากนี้ กองทัพตุรกียังได้ยิงใส่เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยของรัสเซียซึ่งถูกส่งไปค้นหาร่างของนักบิน Su-24 ทำให้นักบินของ ฮ.กู้ภัยเสียชีวิตอีก 1 รายด้วย

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียยืนยันว่าขณะเกิดเหตุ เครื่องบินรัสเซียอยู่ในฝั่งซีเรีย ทั้งยังไม่ได้รับแจ้งเตือนจากทางฝั่งตุรกีแต่อย่างใด ขณะที่ตุรกีไม่ยอมขอโทษรัสเซียอย่างเป็นทางการ และเหตุการณ์ดังกล่าวกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีและรัสเซียอย่างรุนแรง โดยประธานาธิบดีปูตินเปรียบว่าการกระทำของตุรกีเป็นการแทงข้างหลัง พร้อมทั้งสั่งตอบโต้ตุรกีด้วยการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ทั้งยกเลิกการนำเข้าสินค้าจากตุรกี และสั่งห้ามนักท่องเที่ยวของรัสเซียเดินทางไปยังตุรกี



งานคือเงิน
เด็กชายชาวอินเดียหาเลี้ยงชีพด้วยการงมเหรียญที่คนไปทำบุญที่วัดกาลีกัฎ ในเมืองกัลกัตตา โดยโยนลงไปในแม่น้ำเพื่อทำบุญ ทุก ๆ วันจะมีเด็กผู้ชายกว่าร้อยคนยอมเผชิญมลพิษในแม่น้ำที่เน่าเสียลงไปงมเหรียญกันด้วยมือเปล่า บ้างก็ใช้แม่เหล็กที่ผูกไว้กับเชือกหย่อนลงไปในน้ำเพื่อดูดเหรียญให้ติดขึ้นมา วันไหนโชคดีเด็ก ๆ อาจงมเหรียญได้เงินถึง 350 บาท แต่บางวันก็อาจจะได้แค่ 35 บาท






ควีนเอลิซาเบธที่สองเสด็จฯเยือนไอร์แลนด์เหนือ
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง พร้อมด้วยเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระราชสวามี เสด็จพระราชดำเนินเยือนไอร์แลนด์เหนือ เพื่อปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นเวลา 2 วัน โดยในวันนี้ (28 มิ.ย.) ทรงพบกับคณะผู้นำไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งในระหว่างที่ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับนายมาร์ติน แม็คกินเนส รองนายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์เหนือนั้น สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองทรงมีกระแสพระราชดำรัสในเชิงติดตลกว่า พระองค์ยังมีพระชนม์ชีพอยู่ดี และทรงมีพระราชกรณียกิจมากมายในช่วงนี้
ทั้งนี้ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง และพระราชสวามี เสด็จฯเยือนไอร์แลนด์เหนือครั้งล่าสุดเมื่อเดือน มิ.ย. 2557



ธ.โลกประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.5% ต่ำสุดในอาเซียน
ธนาคารโลกเผยรายงานติดตามเศรษฐกิจไทยล่าสุดว่าปีนี้จะเติบโตร้อยละ 2.5% ต่ำกว่าเมื่อปีที่แล้วที่เติบโต 2.8% อย่างไรก็ดี เชื่อว่าไทยยังมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มั่นคง และนโยบายการเงินการคลังที่เข้มแข็ง ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจ แต่เตือนว่าไทยยังต้องเผชิญแรงต้านกว่าที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน โดยขณะนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังต่ำสุดในประเทศอาเซียน แนะให้หาหนทางรับมือประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น
นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวไม่เกินร้อยละ 3 ไปจนถึงปี 2561 แต่ไม่ถึงขั้นเศรษฐกิจถดถอย
ด้านนายอูริค ซาเกา ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มองว่าไทยยังต้องเตรียมรับมือสังคมผู้สูงอายุที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นถึง 7.5 ล้านคนในปีนี้ หรือคิดเป็น 11% ของประชากรทั้งประเทศ และในอีก 24 ปีข้างหน้า ประชากรไทยที่มีอายุเกิน 65 ปี จะมีถึง 27 ล้านคน หรือ
มากกว่า 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งสวนทางกับจำนวนประชากรวัยทำงานที่จะลดจาก 49 ล้านคนเหลือ 40.5 ล้านคน โดยไทยจะมีประชากรในวัยทำงานลดลงมากกว่าประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออก สิ่งนี้ถือเป็นแรงท้าทายสำคัญของไทยที่จะต้องเตรียมหาทางรับมือ ‪#‎ThaiEconomy‬ ‪#‎WorldBank‬





กกต. รับลูกโป่งรณรงค์ประชามติจากกลุ่มประชาธิปไตยใหม่

นายอำนวย น้อยโสภา รองผู้อำนวยการสำนักเลขานุการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับลูกโป่งเขียนข้อความ “รณรงค์ ไม่ผิด” จากตัวแทนกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ ที่มายื่นหนังสือเรียกร้องให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง รวมทั้งมอบเอกสารรณรงค์ของกลุ่มให้กับกกต. เพื่อให้นำไปแจกประชาชนต่อไป
นายปกรณ์ อารีกุล สมาชิกของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่กล่าวว่าต้องการเรียกร้องให้ กกต. ทำหน้าที่อย่างเป็นกลางไม่เป็นกระบอกเสียงของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือรัฐบาล และยืนยันว่าการรณรงค์เกี่ยวกับการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญควรเป็นสิ่งที่ทำได้ตามหลักการทำประชามติสากล และขอให้ กกต. พิจารณาเรื่องการใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติประชามติ พ.ศ. 2559 โดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้มีนักกิจกรรมที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีแล้ว 13 คนถูกตั้งข้อหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ. ดังกล่าว โดย 7 คนยังคงถูกคุมขังเนื่องจากไม่ขอประกันตัว ขณะที่อีก 6 คนยื่นขอประกันตัวไปแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจับกุมเนื่องจากรณรงค์ให้ประชาชนไปลงประชามติและรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
นายอำนวยรับเอกสารการรณรงค์ของกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และหนังสือร้องเรียนไว้ และแจ้งว่าวันนี้ กกต. ไม่มีการประชุม แต่จะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้กับคณะกรรมการเพื่อพิจารณาต่อไป
กลุ่มประชาธิปไตยใหม่เริ่มรณรงค์ปล่อยลูกโป่งที่ติดข้อความ “รณรงค์ ไม่ผิด” ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยนายปกรณ์ระบุว่า ต้องการปล่อยลูกโป่งเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนสามารถรณรงค์ประชามติร่างรัฐธรรมนูญได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อกลุ่มประชาธิปไตยใหม่นำลูกโป่งไปปล่อยบริเวณเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารไม่อนุญาตให้ปล่อยลูกโป่งและยึดลูกโป่งไป วันนี้จึง พยายามปล่อยลูกโป่งอีกครั้งที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำแจ้งให้ไปทำกิจกรรมนอกเขตเรือนจำ นักกิจกรรมจึงทำกิจกรรมปล่อยลูกโป่งได้






บีบีซีไทย - BBC Thai
ตลาดหุ้นอังกฤษเริ่มฟื้นตัว หลังดิ่งลงอย่างหนักจากผลประชามติให้แยกตัวจากอียู
แรงกดดันต่อตลาดหลักทรัพย์ในอังกฤษเริ่มผ่อนคลายลงแล้ว หลังจากปรับตัวลดลงอย่างหนักในการซื้อขายช่วง 2 วันหลังจากได้ผลการลงประชามติให้สหราชอาณาจักรถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากดิ่งลงอย่างรุนแรงจากข่าวการลงประชามติของสหราชอาณาจักร
ดัชนีฟุตซี่ 100 (FTSE 100) ตลาดหุ้นลอนดอนเปิดตลาดในวันนี้ (28 มิ.ย.) ปรับตัวสูงขึ้น 2% ไปอยู่ที่ 6,102.01 จุด ขณะที่ดัชนีฟุตซี่ 250 (FTSE 250) ปรับตัวสูงขึ้น 2.5%
ก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นดิ่งลงอย่างรุนแรงในการซื้อขายช่วง 2 วันหลังจากได้ผลการลงประชามติให้แยกตัวออกจากอียู โดยดัชนีฟุตซี่ 100 ปรับตัวลดลงไป 5.6% ขณะที่ดัชนีฟุตซี่ 250 ดิ่งลง 13.7%
ในส่วนของเงินปอนด์ก็ส่งสัญญาณของการฟื้นตัวเช่นกัน โดยค่าเงินปอนด์กระเตื้องขึ้น 0.7% ไปอยู่ที่ประมาณ 1.33 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากเมื่อวานนี้เงินปอนด์ทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 31 ปี
ในฟากของตลาดหุ้นเอเชียนั้น ตลาดหุ้นญี่ปุ่นยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในการซื้อขายวันนี้ ดัชนีนิเคอิ ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.1% ไปอยู่ที่ 15,323.14 จุด หลังจากเมื่อวานปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 2.4% ทั้งที่ในการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ ดัชนีนิเคอิดิ่งลงไปเกือบ 8% ส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นรีบออกมาสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนด้วยการประกาศจะเข้าไปควบคุมเงินเยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมหากจำเป็น
เมื่อวานนี้บริษัทจัดอันดับเครดิต “สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ส” (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหราชอาณาจักรลงจากระดับสูงสุดที่ AAA ลงเหลือ AA จากแนวโน้มว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะหยุดชะงักลงในช่วงสั้นๆ เช่นเดียวกับ “ฟิทช์เรตติงส์” ที่ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของสหราชอาณาจักรลงจาก AA+ ไปอยู่ที่ AA
ด้านนายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ให้สัมภาษณ์ในวันนี้ว่า อังกฤษอาจต้องปรับขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลงเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการแยกตัวออกจากอียู



บีบีซีไทย - BBC Thai
นักเรียนเผาหอพักในเคนยา เหตุไม่พอใจถูกห้ามดูบอลยูโร

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายเจมส์ อองเว ผู้ว่าการเมืองคิซี ทางตะวันตกของเคนยา มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุไฟไหม้หอพักนักเรียนชายของโรงเรียนมัธยมอิเทียโรเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. หลังมีรายงานว่านักเรียนชายกลุ่มหนึ่งเป็นผู้ก่อเหตุเพราะไม่พอใจที่ครูใหญ่สั่งห้ามดูการแข่งขันฟุตบอลยูโร2016 ระหว่างทีมโครเอเชียและทีมโปรตุเกส ซึ่งเผยแพร่เมื่อเวลา 22:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นเคนยา และนักเรียนชายกลุ่มหนึ่งยังขัดขวางเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงไม่ให้เข้าไปยังที่เกิดเหตุได้โดยง่ายอีกด้วย
รายงานข่าวระบุว่าผู้ก่อเหตุจะถูกลงโทษในข้อหาทำลายทรัพย์สินสาธารณะ แต่สื่อในท้องถิ่นไม่ปักใจเชื่อว่าเหตุผลในการเผาโรงเรียนเกิดจากนักเรียนถูกสั่งห้ามดูบอลจริง เพราะช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุเผาโรงเรียนในเมืองคิซีมาแล้วกว่า 20 แห่ง และเจ้าหน้าที่ยังไม่อาจจับกุมผู้กระทำความผิดได้
ด้านนายแอนดรูว์ โอทารา ครูใหญ่ของโรงเรียนอิเทียโร เผยว่าเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มนักเรียนชายขว้างปาก้อนหินและตะโกนเรียกร้องสิทธิของตน จากนั้นจึงมีผู้ก่อเหตุเผาหอพักนักเรียนชาย ทำให้มีอาคารถูกทำลายและได้รับความเสียหาย 7 หลัง ทั้งยังมีผู้พยายามจุดไฟเผาหอพักนักเรียนหญิงด้วย แต่ไม่สำเร็จ และข่าวไม่ได้ระบุว่าเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัยได้หรือไม่
ส่วนนายเฟร็ด มาทิอังกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของเคนยา ออกคำสั่งห้ามนักเรียนในโรงเรียนอิเทียโรย้ายโรงเรียนก่อนได้รับอนุญาต เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาหอพักรอดพ้นจากการถูกลงโทษ โดยนายมาทิอังกีระบุว่ารัฐบาลไม่ควรต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากการวางเพลิงแทนผู้ก่อเหตุ



บีบีซีไทย - BBC Thai
สหรัฐฯ เตรียมปรับลดเมียนมาอยู่กลุ่มเทียร์ 3 ในรายงานการค้ามนุษย์
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมเผยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ปี 2559 ในวันที่ 30 มิ.ย. และนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำด้วยว่าจะไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดจนกว่ารายงานดังกล่าวจะได้รับการเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในกรุงเทพฯ วันนี้ (28 มิ.ย.) โดยระบุว่าสหรัฐฯ เตรียมปรับลดสถานะสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จากกลุ่มประเทศเทียร์ 2 ที่เคยได้รับการจัดอันดับเมื่อปี 2558 ลงไปอยู่ระดับต่ำสุด คือ เทียร์ 3 ซึ่งหมายถึงกลุ่มประเทศที่ยังไม่ได้มาตรฐานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือประเทศที่ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง ซึ่งที่ผ่านมาไทยติดอยู่ในกลุ่มประเทศเทียร์ 3 พร้อมด้วยเกาหลีเหนือและซีเรีย
ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์เคยรายงานว่าคณะกรรมการพิจารณาและประเมินผลการจัดทำรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ถูกกลุ่มนักการทูตและเจ้าหน้าที่รัฐบาลแทรกแซงการจัดอันดับกลุ่มประเทศที่เป็นพันธมิตรในยุทธศาสตร์ด้านต่างๆ ของสหรัฐฯ ให้อยู่ในกลุ่มเทียร์ 2 แทนที่จะเป็นกลุ่มเทียร์ 3 เพื่อช่วยรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศดังกล่าว แต่หากมีการจัดอันดับให้เมียนมาอยู่ในกลุ่มเทียร์ 3 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ ปีนี้ อาจบ่งชี้ได้ว่าคณะกรรมการฯ สามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น
รายงานข่าวระบุด้วยว่าการปรับลดสถานะเมียนมาไปอยู่กลุ่มเทียร์ 3 จะไม่กระทบต่อรัฐบาลพลเรือนเมียนมาชุดปัจจุบัน ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา และหัวหน้าพรรครัฐบาลเอ็นแอลดี เนื่องจากการรวบรวมข้อมูลและประเมินผลเกิดขึ้นระหว่างเดือน เม.ย.2558-มี.ค.2559 ซึ่งยังอยู่ในช่วงการบริหารงานของอดีตรัฐบาลประธานาธิบดีเต็ง เส่ง
แหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ากองทัพเมียนมาได้รับคำชมเชยด้านการปลดทหารเด็กออกจากกองทัพและกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้าด้านการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ การลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการค้ามนุษย์และการบังคับใช้แรงงานเยี่ยงทาส รวมถึงการจัดการกับปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวโรฮิงญาซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในประเทศเมียนมา


บีบีซีไทย - BBC Thai
แฟนเพลงชาวจีนไม่พอใจ เลดี้กาก้า พบองค์ดาไล ลามะ

กลุ่มผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เว่ยป๋อของจีนแสดงความไม่พอใจกรณี เลดี้กาก้า นักร้องหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน เผยแพร่ภาพถ่ายคู่ระหว่างตนกับองค์ดาไล ลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบตพลัดถิ่นลงในอินสตาแกรม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ผู้ใช้เว่ยป๋อจำนวนหนึ่งระบุว่าเลดี้กาก้าไม่สนใจความรู้สึกของแฟนเพลงชาวจีน ขณะที่บางรายตำหนินักร้องดังอย่างรุนแรงว่าโง่ ทั้งยังไม่สนใจประเด็นอ่อนไหวทางการเมืองจีน เพราะรัฐบาลจีนและชาวจีนจำนวนมากมองว่าองค์ดาไล ลามะ เป็นผู้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนทิเบตออกจากจีน

ด้านเว็บไซต์ต่อต้านการปิดกั้นข้อมูลออนไลน์ “ฟรีเว่ยป๋อ” รายงานว่าภาพและลิงค์ซึ่งเชื่อมโยงไปยังบัญชีอินสตาแกรมของเลดี้กาก้าถูกเซ็นเซอร์ไม่ให้เผยแพร่ลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์เว่ยป๋อ ขณะที่สื่อกระแสหลักของจีนไม่รายงานข่าวการพบปะกันระหว่างเลดี้กาก้าและองค์ดาไลลามะ แต่ข้อความที่แฟนเพลงและกลุ่มผู้ไม่พอใจโจมตีเลดี้กาก้าผ่านเว่ยป๋อไม่ถูกเซ็นเซอร์

ก่อนหน้านี้ นักร้องและวงดนตรีต่างชาติหลายรายต้องยกเลิกการแสดงคอนเสิร์ตในจีนเพราะเคยพบปะกับองค์ดาไล ลามะ ไม่ว่าจะเป็น เซเลนา โกเมซ, บอง โจวี และวงมารูน 5 ทำให้แฟนเพลงจำนวนหนึ่งเกรงว่าเลดี้กาก้าอาจไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงคอนเสิร์ตที่จีนอีกในอนาคต



เครือข่ายนักวิชาการ-องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องปล่อยตัวนักกิจกรรม เปิดกว้างรณรงค์ประชามติ
เช้านี้ นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยนักวิชาการจากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจำนวนหนึ่งเดินทางไปเยี่ยมนักกิจกรรม 7 รายที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมซึ่งส่วนใหญ่ยังเป็นนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ขณะที่เครือข่ายนักกฎหมายและองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐไทยเปิดโอกาสในการแสดงออกอย่างเสรีและเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก
ผู้ต้องขังทั้ง 7 ราย เป็นส่วนหนึ่งของนักกิจกรรม 13 คนที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมาเนื่องจากไปรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญที่บริเวณเขตอุตสาหกรรมบางพลี จ.สมุทรปราการ และถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดพระราชบัญญัติประชามติ พ.ศ. 2559 มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี รวมทั้งขัดคำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน โดยทั้ง 7 รายไม่ขอประกันตัวและถูกนำตัวมาฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ขณะที่นักกิจกรรมอีก 6 คนขอประกันตัวโดยวางหลักทรัพย์คนละ 50,000 บาท
นายอนุสรณ์อ่านแถลงการณ์ ซึ่งมีนักวิชาการ 292 คนจาก 35 สถาบันการศึกษาทั้งในและต่างประเทศร่วมลงชื่อเรียกร้องให้ คสช. ปล่อยตัวนักกิจกรรมทั้ง 7 คนโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และยุติการขัดขวาง คุกคาม จับกุมผู้ที่รณรงค์ประชามติและแสดงความคิดเห็นต่างในร่างรัฐธรรมนูญอย่างสงบ สันติ เปิดเผย พร้อมทั้งให้มีการเสนอความเห็นรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญในช่องทางต่างๆ ได้อย่างเสรี รวมถึงเรียกร้องให้คสช. ประกาศสัญญาประชาคมว่าจะให้การออกเสียงประชามติวันที่ 7 สิงหาคมเป็นไปอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยเปิดให้ทุกฝ่ายสามารถเสนอข้อมูลทั้งข้อดีและจุดอ่อนของร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่ถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่รัฐ
วันเดียวกัน สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLaw) ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และมูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชนได้ร่วมกันเรียกร้องให้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ ตลอดจนศาลทหารและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยุติการปิดกั้นการใช้เสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบ และปล่อยตัวผู้ถูกควบคุมตัวโดยทันที รวมถึงต้องทบทวนกฎหมายที่ให้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแต่ขาดการตรวจสอบ โดยเฉพาะคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 และยกเลิกการนำกระบวนการยุติธรรมทหารมาใช้กับพลเรือน และกลับไปใช้กระบวนการยุติธรรมปกติโดยทันที
บรรยากาศก่อนการลงประชามติที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.มีความร้อนแรงขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจห้ามแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. เปิดศูนย์ปราบโกงประชามติ ที่กำหนดเปิดพร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. โดยแกนนำในหลายจังหวัดถูกเชิญตัวไปพูดคุยเพื่อห้ามปราม และในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมนักศึกษาและนักกิจกรรมรวม 20 ราย
ในอีกด้านหนึ่ง วันพรุ่งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะนัดฟังคำวินิจฉัย คำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ มาตราที่ 61 วรรค 2 ของพ.ร.บ. ประชามติว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เนื่องจากมาตราดังกล่าวบัญญัติข้อความไว้อย่างคลุมเครือ ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนทั้งต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐในการตีความและบังคับใช้กฎหมาย โดยมาตราดังกล่าวระบุว่า “ผู้ที่ดําเนินการเผยแพร่ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือในช่องทางอื่นใด ที่ผิดไปจากข้อเท็จจริงหรือมีลักษณะรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดม หรือข่มขู่โดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียงไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง หรือออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ให้ถือว่าผู้นั้นกระทําการก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย”

ผู้นำอังกฤษร่วมประชุมอียูครั้งแรกหลังลงประชามติ
นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และเตรียมพบกับคณะผู้แทนจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) เพื่อชี้แจงผลการลงประชามติซึ่งประชาชนอังกฤษออกเสียงให้สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากอียู โดยเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างนายคาเมรอนและผู้นำประเทศสมาชิกอียูหลังสหราชอาณาจักรลงประชามติเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา และรัฐสภายุโรปมีกำหนดประชุมเพื่อหารือกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน
รายงานข่าวระบุว่านายคาเมรอนจะพบกับนายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานคณะมนตรียุโรป และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ระหว่างการรับประทานอาหารอย่างเป็นทางการซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงค่ำวันนี้ 28 มิ.ย. ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลี และนายฟรองซัวส์ โอลล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เผยว่าจะยังไม่พูดคุยอย่างเป็นทางการกับนายคาเมรอนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปหลังสหราชอาณาจักรโหวตออกจากอียู
ส่วนนายจอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอังกฤษ ซึ่งมีผู้คาดการณ์ว่าจะรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนนายคาเมรอนที่ประกาศลาออกหลังผลการลงประชามติ ยืนยันว่าตนไม่ขอรับตำแหน่งดังกล่าว เพราะไม่เห็นด้วยกับการออกจากอียู จึงไม่สามารถรับตำแหน่งที่จะต้องประสานกับผู้ที่สนับสนุนแนวคิดดังกล่าวในรัฐบาลได้
ทั้งนี้ กระบวนการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่จะเริ่มขึ้นในเดือน ก.ย. และพรรครัฐบาลคอนเซอร์เวทีฟของอังกฤษจะเตรียมจัดตั้งคณะทำงานเพื่อวางแนวทางก่อนสหราชอาณาจักรจะออกจากอียูอย่างเป็นทางการในอนาคต


บีบีซีไทย - BBC Thai
อัยการแถลงยอมรับคำสั่งนายกฯ ย้าย 3 อัยการ ด้วย ม. 44 เร่งดำเนินการสอบภายใน 30 วัน
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 33/2559ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 44 ย้ายข้าราชการอัยการ 3 รายเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. ระบุเป็นคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาของข้าราชการ ต้องปฏิบัติตาม และสำนักงานอัยการจะเร่งสอบกรณีที่อัยการทั้ง 3 ถูกกล่าวหาว่าทุจริต หรือละเลยการปฏิบัติหน้าที่ภายใน 30 วัน
อัยการที่ถูกสั่งย้ายด้วยม. 44 ได้แก่ นายวาทิต สุวรรณยิ่ง อัยการจังหวัดนาทวี นายมาโนช รัมมะสินธุ์ รองอัยการจังหวัดนาทวี และนายนันทวุธ อุตสาหตัน รองอัยการจังหวัดสมุทรสาคร ไปปฏิบัติราชการ ในสํานักงานอัยการสูงสุด
คำสั่งย้ายดังกล่าวระบุด้วยว่า ให้ศูนย์อํานวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) แจ้งข้อเท็จจริงในการตรวจสอบ การปฏิบัติราชการของผู้นั้นให้หน่วยงานทราบ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต้องปรากฏผลให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และหากผลการตรวจสอบพบว่าผู้ถูกตรวจสอบมีความผิด ให้ผู้บังคับบัญชาดําเนินการทางวินัยและกฎหมายต่อไป ในกรณีที่ไม่พบว่ามี การกระทําความผิดหรือไม่ถึงขั้นต้องดําเนินการทางวินัย ให้เยียวยาแก่ผู้ถูกตรวจสอบโดยให้ไปดํารงตําแหน่ง ในระดับเดิมตามความเหมาะสม แต่ให้อยู่นอกพื้นที่เดิมก่อนเข้าสู่กระบวนการแต่งตั้งโยกย้ายในคราวต่อไป
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่าขณะนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ศอตช. แต่อย่างใด ซึ่งหากได้รับข้อมูลแล้ว คณะกรรมการอัยการจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภาย 30 วัน โดยถือว่าคำสั่งของหัวหน้า คสช. ในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีด้วยนั้นเป็นคำสั่งของผู้บังคับบัญชาของข้าราชการทั้งหมด ต้องปฏิบัติตาม
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดยังกล่าวปฏิเสธกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าอัยการสูงสุดพยายามประสานไปยังนายกรัฐมตรีเพื่อชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบกรณีการย้ายข้าราชการแล้วพบว่าไม่มีความผิด โดยรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 33/2559 เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สั่งย้ายข้าราชการตำรวจ อัยการ และฝ่ายปกครอง รวม 23 ราย โดยระบุว่าเป็นกรณีที่ข้าราชการซึ่งถูกร้องเรียนหรือกล่าวหาว่าปล่อยปละละเลยให้มีการกระทําความผิดเกิดขึ้นในพื้นที่ของตน หรือมีการทุจริต หรือประพฤติมิชอบ หรือดําเนินการหรือไม่ดําเนินการตามอํานาจหน้าที่ จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการและมีมูลอันสมควรตรวจสอบ โดยให้ระงับการปฏิบัติราชการในพื้นที่เดิมและให้ไปปฏิบัติราชการในหน่วยงานอื่นในสังกัดเดิมเป็นการชั่วคราว



บีบีซีไทย - BBC Thai
ตำรวจฝรั่งเศสนับแสนเสี่ยงภัย เหตุถูกเผยข้อมูลส่วนบุคคลออนไลน์

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. นายนิโกลาส์ ก็องเต โฆษกประจำสหภาพตำรวจฝรั่งเศส (MGP) เผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตำรวจ 112,000 นาย ทั้งผู้ที่ยังปฏิบัติหน้าที่และผู้ที่เกษียณไปแล้ว ถูกนำมาเผยแพร่ผ่านกูเกิลไดรฟ์ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลออนไลน์ และผู้ที่ทราบรหัสผ่านสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ทั้งหมด
สถานีโทรทัศน์ France TV ของฝรั่งเศสรายงานว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลรายหนึ่งเป็นผู้นำข้อมูลดังกล่าวมาเผยแพร่ แต่ข่าวระบุว่ามีการตั้งรหัสผ่านป้องกัน จึงยังไม่มีผู้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวออนไลน์
ด้านสถานีวิทยุ RTL เปิดเผยว่าข้อมูลที่นำมาเผยแพร่รวมถึงที่อยู่ของนายตำรวจและครอบครัว ทำให้หลายฝ่ายเกรงว่าอาจเกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ เพราะข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. หลังตำรวจฝรั่งเศส 2 นายถูกแทงเสียชีวิตที่บ้านพักของตนเอง โดยฝีมือของผู้สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธที่เรียกตนเองว่ากองกำลังรัฐอิสลาม (IS)


บัตรเครดิตเปลี่ยนความสัมพันธ์ของคนเรากับเงินตราไปเพียงใด

เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ธนาคารบาร์เคลย์สเป็นธนาคารแห่งแรกที่นำบัตรเครดิตมาให้บริการแก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักร โดยลูกค้าราว 1.25 ล้านคน ได้รับบัตรเครดิตจากธนาคารซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้เงินสดในการจับจ่ายใช้สอยและการชำระค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ของลูกค้า ไม่เฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางหรือใช้ชำระค่าอาหารในร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้จ่ายทั่ว ๆ ไป ขณะที่ผู้ค้าปลีกหรือภาคธุรกิจก็จะได้ประโยชน์เพราะไม่ต้องเสียเวลามาทำบัญชีลูกค้าอีกต่อไ

6 ปี หลังจากนั้นธนาคารคู่แข่งอื่น ๆ ของบาร์เคลย์ส ไม่ว่าจะเป็น ลอยด์ส แนทเวสต์ และมิดแลนด์ (เอชเอสบีซีในปัจจุบัน) ก็หันมาให้บริการบัตรเครดิตเช่นกัน แต่ตอนนั้นยอดผู้ใช้บัตรของบาร์เคลย์ส ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1.7 ล้านคน ปัจจุบันมีผู้ใช้บัตรเครดิตซึ่งเป็นทั้งลูกค้าเงินฝากทั่วไปและภาคธุรกิจราว 10.5 ล้านราย

ในปี 2509 ธนาคารบาร์เคลย์สคิดดอกเบี้ยในอัตรา 1.5% โดยลูกค้าจะต้องชำระเงินทุก ๆ สิ้นเดือน วงเงินบัตรเครดิตสูงสุดอยู่ที่ 100 ปอนด์ แต่ในปีถัดไปก็ขยายเวลาให้ชำระเงินภายใน 3 เดือน ปัจจุบันลูกค้าผู้ใช้บัตรสามารถเป็นหนี้ไปได้ตลอดชีวิต ขณะที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นไปอยู่ที่ 18.9% และวงเงินบัตรเครดิตอยู่ที่ 4,000 ปอนด์ (ประมาณ 200,000 บาท)

Payment UK ผู้ให้บริการชำระเงินวิเคราะห์ว่าภายในปี 2564 บัตรเครดิตจะกลายเป็นวิธีชำระเงินที่คนในสหราชอาณาจักรเลือกใช้มากที่สุด ขณะที่สมาคมบัตรเครดิตมองว่าลูกค้าซึ่งเป็นคนหนุ่มสาวจะเป็นกลุ่มคนที่นิยมใช้บัตรเครดิตประเภทคอนแทคเลส หรือชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ

อย่างไรก็ดี การใช้บัตรเครดิตก็มาพร้อมกับอันตรายจากการเป็นหนี้ คาเรน เวค วัย 55 ปี เล่าว่ามีบัตรเครดิตใบแรกตอนอายุ 18 ปี แต่พออายุได้ 25 ปี ก็มีหนี้พอกพูนถึง 30,000 ปอนด์ (ราว 1.5 ล้านบาท) และต้องทำงานหนักอยู่ 5-6 ปี กว่าจะชำระหนี้ได้หมด

ทุกวันนี้ หลายคนใช้บัตรเครดิตเพราะความสะดวกสบาย โดยชำระเงินคืนทุกสิ้นเดือนเพื่อเลี่ยงดอกเบี้ย และยังอาจได้รับเงินสดตอบแทนจากการใช้บัตรด้วย อย่างไรก็ดี นายไมค์ โอ คอนเนอร์ ผู้บริหารของ Step Change ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลให้คำปรึกษาด้านหนี้สิน บอกว่า เฉพาะปีที่แล้วปีเดียวต้องแก้ปัญหาให้ลูกค้าบัตรเครดิตถึง 200,000 ราย โดยแต่ละรายมียอดหนี้เฉลี่ย 8,403 ปอนด์ (ราว 400,000 บาท)

เขาเสนอว่าควรมีการปรับเปลี่ยนกฎเพื่อป้องกันไม่ให้คนตกอยู่ในห้วงแห่งการเป็นหนี้ อาทิ เพิ่มยอดชำระขั้นต่ำขึ้นอีก 1-2% ของยอดหนี้ หรือกำหนดอัตราชำระขั้นต่ำที่ตายตัวเพื่อไม่ให้คนสร้างหนี้เพิ่ม ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินให้ลูกค้าได้นับพันปอนด์และร่นระยะเวลาชำระหนี้คืนได้ด้วย ‪#‎CreditCard‬



ออกจาก (บอล) ยูโร
อังกฤษตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลยูโร 2016 รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมลาประกาศลาออกหลังพ่ายไอซ์แลนด์ 1 ประตูต่อ 2
นับเป็นความน่าอดสูครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทีมชาติอังกฤษเคยถูกสหรัฐฯ เขี่ยออกจากการแข่งขันฟุตบอลเวิล์ดคัพ ปี 1950 (พ.ศ.2493) ที่บราซิล เพราะในครั้งนี้ อังกฤษกลับพ่ายให้กับทีมซึ่งรั้งตำแหน่ง 34 ของโลก และเป็นทีมจากประเทศที่มีประชากรเพียง 330,000 คนเท่านั้น
ในการแข่งขันนัดนี้อังกฤษทำประตูนำไปก่อนจากลูกจุดโทษโดยเวย์น รูนีย์ หลังการแข่งขันเริ่มขึ้นไปได้เพียง 4 นาที แต่ไอซ์แลนด์ก็ทำประตูคืนมาได้ทันควันจากลูกทุ่มไกลซึ่งเพื่อนร่วมทีมส่งให้แร็กนา ซิเกิร์ดสัน จ่อเข้าประตูไป
ไอซ์แลนด์ปิดฉากความน่าอับอายของทีมชาติอังกฤษในนาทีที่ 18 หลังจากโจ ฮาร์ท ไม่สามารถกรองลูกจากฝีเท้าของโคลเบนน์ ซิกทอร์สสัน เอาไว้ได้
รอย ฮอดจ์สัน เปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายคน แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถต้านการรุกหนักของทีมรองบ่อนอย่างไอซ์แลนด์ได้ ดับหวังอังกฤษในการเข้าสู่การแข่งขันรอบต่อไป‪#‎Euro2016‬



ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูล ว่า มีการเปิดธุรกิจสำเร็จความใคร่ด้วยปาก หรือ ออรัลเซ็กซ์ ที่ย่านนานา แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติกลางกรุงเทพมหานคร โดยเปิดเป็นลักษณะร้านคล้ายคลินิก หรือ ร้านตัดผม โดยเปิดไฟสว่างไสวมีผู้หญิงคอยให้บริการ และแบ่งประเภทของผู้ให้บริการด้วยการใช้คำว่า "พยาบาล" และ "ที่ปรึกษา" โดยมีการกำหนดราคาของการใช้บริการอยู่ที่ 700 - 1,000 บาท และราคานอกสถานที่ นอกจากนี้ ยังพบว่ามีร้านในลักษณะเดียวกันตามเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งภูเก็ต พัทยา เป็นต้น 


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ของร้านดังกล่าว พบว่าเน้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีการระบุรายละเอียดการให้บริการไว้เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการเขียนรีวิวถึงสถานที่ดังกล่าวโดยชาวต่างชาติ โดยบล็อกเกอร์รายหนึ่ง ได้เขียนเรื่องราวของร้านดังกล่าวไว้ตั้งแต่ปี 2014 โดยให้ชื่อเรื่องว่า "I Went to a Blowjob Bar in Bangkok, Thailand" ซึ่งได้บรรยายถึงบรรยากาศของร้านว่า คล้ายคลินิกเพราะสว่างไสว มีอุปกรณ์คล้ายร้านทำผม รวมทั้งได้เข้ามาทดลองใช้บริการด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก ก็พบว่า ร้านดังกล่าวมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดและเพิ่งอัพภาพพนักงานเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา  






ตัวแทน 292 คณาจารย์เข้าเยี่ยม 7 นักโทษประชามติ พร้อมอ่านแถลงการณ์เรียกร้องปล่อยตัว-เปิดรณรงค์ประชามติเสรีเป็นธรรม








เฟซบุ๊ค Thapanee Ietsrichai รายงานเรื่องราวการค้นหาฮ.ตกที่เขาชะเมา โดยที่นาวาตรี กันตินันท์ เตชะเสน นายทหารประจำศูนย์ฝึกนาวิกโยธิน เป็นทหารเรือนาวิกโยธิน เป็นน้องชายของ นาวาอากาศตรี พสิษฐ์ เตชะเสน นักบินที่สูญหายพร้อมเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ




น.ต.กันตินันท์ เตชะเสน หรือหนุ่ย เดินเท้าตามหาพี่ชายมา 2 วันแล้ว ไม่คิดว่าหัวหน้าชุดทหารเรือที่เดินเท้าไปค้นหาด้วยกันกับแยมเมื่อวานนี้คือน้องชายของนักบินที่ 1 ที่สูญหาย น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน หรือหนุ่ม


เมื่อวาน 26 มิ.ย.เราเดินตั้งแต่เช้าจนถึงบ่าย น.ต.กันตินันท์ เตชะเสน กับทหารเรือนาวิกโยธิน มุ่งมั่นเดินเท้าไปค้นหาบริเวณเชิงเขาสถานีเรดาร์เขาชะเมา ตลอดเส้นทางแยมไม่รู้เลยว่า น.ต.กันตินันท์ คือน้องชายนักบิน เพราะหนุ่ยและทีมงานไม่ได้บอก และดูพวกเขามุ่งมั่นในการเดินค้นหามากๆ แยมก็ทั้งช่วยค้นหาและต้องส่งข่าวจนไม่มีเวลาได้สังเกตุนามสกุลที่ติดอยู่บนเครื่องแบบ


จนกระทั่งเย็นวันนี้ 27 มิ.ย.แยมเจอ น.ต.กันตินันท์ อีกครั้ง เขาก็ยังไม่บอกว่า เขาคือใคร เขาได้แต่บอกว่า วันนี้เขาไปค้นหาที่ผาดำมา เขาไปเจอชาวบ้าน ได้ข้อมูลมาน่าสนใจมาก ระหว่างนั้น ลูกน้องเขาคงอดใจไม่ไหวที่เห็นถึงความพยายามของน้องชาย จึงบอกแยมว่า น.ต.กันตินันท์ คือน้องชาย น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน นักบินที่ 1 ที่หายไป แยมได้แต่อึ้ง และได้แต่นึกภาพที่เดินค้นหาด้วยกันเมื่อวาน และพูดกับ น.ต.กันตินันท์ว่า ขอให้พรุ่งนี้เรามีข่าวดีนะ


น.ต.กันตินันท์ บอกว่า ข้อมูลของชาวบ้านที่กรีดยางบริเวณผาดำ เชิงเขาชะเมา จุดที่มีคนสงสัย และได้ยินเสียง ตุ้บ เหมื่อนเครื่องร่วง ในเวลาประมาณ 14.00 น.หลังเครื่องขึ้นบินเวลา 13.40 น.ทำให้เขามีความหวังว่า พี่ชายอาจยังปลอดภัย และหวังว่าพรุ่งนี้จะพาพี่ชายกลับบ้าน เพราะยังมีพ่อ แม่ ตัวเขา ภรรยา และลูกชาย วัย 6 ขวบ ของพี่หนุ่ม น.ต.พสิษฐ์ เตชะเสน รอคอยอยู่




อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่พบศพนักบินทั้ง 3 แล้ว น.ต.กันตินันท์ เตชะเสน น้องชายนักบินที่เดินเท้าค้นหาพี่ชายทราบข่าวแล้วบอกว่า "ไม่เป็นไรครับ เราเป็นทหาร" จากนี้จะเดินเท้ากลับไปที้ฐาน เพราะฝั่งที่พบไม่ใช่จุดรองเท้านารี อยู่ห่างจากฐานเรดาร์ 500 เมตร




ขับเคลื่อนโดย Blogger.