กก.ปรองดอง ขีดเส้นระยะเวลาฟังความเห็นปรองดองต้องเสร็จภายใน 3 เดือน

Posted: 12 Feb 2017 07:38 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)


พีระศักดิ์ พอจิต คณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ระบุเชิญนักการเมืองให้ความเห็นตามหัวข้อที่กำหนด โดยไม่ให้แต่ละพรรคได้เจอกัน พร้อมดำเนินการในระดับภูมิภาค มอบแม่ทัพภาค ผู้ว่าฯ ผู้บัญชาการตำรวจระดับภาค ตั้งโต๊ะรับฟัง คาดสรุปความเห็นเสร็จภายใน 3 เดือน

12 ก.พ. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พีระศักดิ์ พอจิต รองประธาน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะคณะกรรมการเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ในคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความปรองดอง (ป.ย.ป.) กล่าวถึงการดำเนินการของคณะกรรมการว่า จะเริ่มเชิญพรรคการเมืองมาให้ความเห็นตามที่กำหนดหัวข้อไว้ทั้งหมด 11 ข้อ โดยเรียงลำดับการเชิญตามตัวอักษรของชื่อพรรคการเมือง และจะไม่ให้แต่ละพรรคการเมืองมาเจอกัน รวมถึงจะดำเนินการรับฟังความเห็นในคำถามชุดเดียวกันในระดับภูมิภาคต่างๆ ด้วยความร่วมมือของแม่ทัพภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจระดับภาคและระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินการ โดยคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นประธานอนุกรรมการฯ จากนั้น จะนำข้อมูลทั้งหมดมาเข้าสู่การพิจาณาโดยคณะอนุกรรมการพิจารณาบูรณาการข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง และเข้าสู่ขั้นตอนของคณะอนุกรรมการจัดทำข้อเสนอกระบวนการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์โดย คณะอนุกรรมการด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง แล้วจะสรุปผลทั้งหมดภายใน 3 เดือน ให้กับที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการ ป.ย.ป. แต่หากไม่แล้วเสร็จในกรอบเวลาก็ต้องยืดออกไปอีก

ส่วนการหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง พีระศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องผ่านขั้นตอนการรับฟังความเห็นทุกพรรคการเมืองซึ่งรวมถึงพรรคเล็กด้วย แล้วจึงมีขั้นตอนการหารือร่วมกันในขั้นตอนหลังจากนั้น

พีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า บทบาทหน้าที่ของ สนช.ในการสร้างความปรองดองนั้นตนเองได้เข้าไปในฐานะเสนอความเห็นในระดับนโยบาย ตามที่มีการกำหนดโครงสร้างให้มีรองประธาน สนช. อยู่ด้วย ประธานสนช. จึงมอบหมายให้มาทำงานด้านนี้ ขณะที่สนช.คนอื่นๆจะเข้าไปช่วยงานในคณะอนุกรรมการด้านอื่นๆ ด้วย ส่วนการดำเนินการสร้างความปรองดองของ สนช. ที่เคยดำเนินการศึกษาโดยคณะกรรมาธิการด้านการเมือง เกี่ยวกับร่างกฎหมายอำนวยความยุติธรรมทางอาญาเกี่ยวเนื่องกับมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ขณะนี้ยังเป็นเพียงหลักการ ยังไม่ได้มีการจัดทำร่างกฎหมายหรือสรุปข้อเสนอแนะ ซึ่งจะมีการศึกษาคู่ขนานไปกับการทำงานของคณะกรรมการ ป.ย.ป.

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.