ตำรวจแถลงข่าว ปืนหาย 800 กระบอกจากค่ายตชด.อุดรฯ ไม่เกี่ยว “ขอนแก่นโมเดล”
Posted: 15 Feb 2017 07:50 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
จับ 7 คน แจ้งข้อหา 4 ปล่อย 3 คดีครอบครองอาวุธไม่ได้รับอนุ ญาตหลังจากทหารเข้าตรวจค้นบ้ านพัก ตำรวจแถลงคดีขโมยปืนจากค่ายตชด. เพื่อนำไปขายดำเนินคดีอาญาแล้ว ขณะนี้อยู่ใน ป.ป.ท. ยังไม่คืบหน้า ส่วนคดีนี้เป็นคดีครอบครองอาวุธ หนึ่งในผู้ต้องหาระบุ ขโมยปืนไม่เกี่ยวกับการเมือง
จากกรณีที่เว็บไซต์มติ ชนรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.พ.2560 อ้างแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่ นคงว่า มีการจับกุมและสอบสวนผู้ผู้ต้ องหา 7 รายที่ก่อเหตุขโมยปืนจำนวน 885 กระบอกจากค่าย ตชด.24 จังหวัดอุดรธานีตั้งแต่ปี 2555 อยู่ในค่าย มทบ.11 และจะมีการส่งมอบตัวผู้ต้ องหาให้กองบังคั บการปราบปรามในวันนี้ (15 ก.พ.) นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 17.30 น. ทหารนำตัว 7 ผู้ต้องหามายังกองบังคั บการปราบปราม และตำรวจได้แถลงข่าวโดยมี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เป็นประธาน โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ระบุว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นอดี ตตำรวจตชด. คดีนี้เป็นการขโมยปืนออกจากค่ ายตชด. ซึ่งผู้ต้องหารับว่าดำเนิ นการจริงอยู่ 20 กระบอก ปัจจุบันตามคืนมาได้ 1 กระบอก โดยตำรวจจากอุดรธานีเจ้าของพื้ นที่จะรับตัวผู้ต้องหาไปดำเนิ นคดีที่จังหวัดอุดรธานีในวันพรุ่ งนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับ “ขอนแก่นโมเดล” หรือไม่ พล.อ.ศรีวราห์ให้หนึ่งในผู้ต้ องหาเป็นผู้ตอบ เขายืนยัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกั บการเมืองแต่อย่างใดและรายละเอี ยดอื่นขอให้การในชั้นศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ผู้ต้องหาที่ถูกนำตัวมาแถลงข่ าวท่ามกลางสื่อมวลชนที่สนใจทำข่ าวจำนวนมากนั้น มี 4 คนที่มีหมายจับและถูกแจ้งข้อกล่ าวหา ส่วนอีก 3 คนนั้นจะได้รับการปล่อยตัวหลั งการแถลงข่าว โดยการดำเนินคดีครอบครองอาวุธปื นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งนี้เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ เกี่ยวข้องกับกรณีขโมยปืนในค่ ายไปจำหน่าย
ทั้งนี้ ขอนแก่นโมเดล หมายถึงคดีที่มีผู้ต้องหา 26 คนที่ถูกแจ้งข้อหาสบคบกันเพื่ อก่อการร้าย ผู้ต้องหาถูกจับกุม 1 วันหลังการรัฐประหารในเดื อนพฤษภาคม 2557 ในจำนวนนี้มีผู้หญิง 2 ราย ผู้ต้องหาส่วนใหญ่อายุ 50-60 ปี และอายุสูงสุดคือ 72 ปี โดยทหารแถลงข่าวว่าทั้ งหมดวางแผนร่วมกันเตรียมดำเนิ นการในจังหวัดขอนแก่น 4 ขั้นตอน คือ 1.ระดมมวลชนให้มากที่สุด 2. เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ 3. เจรจาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร 4. ทำลายสถาบันการเงินและนำเงิ นมาแจกจ่ายให้ประชาชน (ปฏิบัติการโรบินฮูด) “ทั่วปฐพีหนี้เป็นศูนย์” ผู้ต้องหาทั้งหมดถูกจำคุกเป็ นเวลาหลายเดือนก่อนจะได้ประกั นตัวเพื่อสู้คดีในศาลทหารขอนแก่ น ปัจจุบันเสียชีวิต 2 ราย และมี 3 รายถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเนื่ องจากถูกดำเนินคดีข้อหาเตรียมป่ วนกิจกรรม Bike for Dad
พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช อธิบายเพิ่มเติมว่า การขโมยปืนกว่า 800 กระบอกนั้นผู้กระทำผิดค่อยๆ ทยอยดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2552-2557 กระทำการโดยเจ้าหน้าที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่เป็นเจ้ าหน้าที่คลังอาวุธและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปจำหน่าย รายละเอียดเส้นทางการขายหรื อจะมีกี่คนที่ร่วมดำเนินการยั งอยู่ในระหว่างการสอบสวน อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีมาตั้งแต่ปี 2554 มีการลงโทษทางวินัยกับเจ้าหน้ าที่จำนวนหนึ่งในการไล่ ออกและปลดออกจากราชการ และยังมีการดำเนินคดีอาญาฐานเป็ นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ โดยทุจริต จำนวน 5 คดี ขณะนี้คดีอยู่ที่สำนักงานป้ องการและปราบปรามการทุจริ ตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 4 คดี และอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 1 คดี นอกจากนี้ยังมีการดำเนินคดีแพ่ งให้ตำรวจผู้เกี่ยวข้องจำนวน 10 นายชดใช้ค่าเสียหายประมาณ 38 ล้านบาท
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า การจับกุมตัวและดำเนินคดีที่ นำตัวมาแถลงข่าวในวันนี้เป็ นคนละคดีกับกรณีปืนหาย 800 กระบอก แต่สืบเนื่องมาจากฝ่ายความมั่ นคงเข้าตรวจค้นบ้านผู้กระทำผิ ดแล้วพบอาวุธปืนเครื่องกระสุนผิ ดกฎหมาย จึงร้องทุกข์กล่าวโทษที่สภ.เมื องอุดรธานี ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติ หมายจับ 4 ราย คือ 1.ด.ต.สุชาติ ใจตาง ฐานมีอาวุธปืนไว้ ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และมีอาวุธปืนที่เป็นของผู้อื่ นซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้ ตามกฎหมายไว้ในครอบครองโดยไม่ ได้รับอนุญาต 2.ร.ต.ท.จันทร์เพ็ชร บุญผ่องศรี ฐาน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปื นที่นายทะเบียนไม่ สามารถออกใบอนุญาตให้มีไว้ ในครอบครอง 3. ด.ต.กิตติชัย จุลเหลา ฐาน มีเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ ได้รับอนุญาต 4.ด.ต.นิมิต สานก้อย ฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุ นปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รั บอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจู่โจมตรวจค้นดังกล่าวเกิดขึ้ นสืบเนื่องมาจาก ในการประชุม ก.ตร.เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2560 มีรายงานว่าอาวุธปืนและเครื่ องกระสุนปืนของ ตชด.สูญหาย ผบ.ตร.จึงสั่งการด้วยวาจาให้พล. ต.อ.ศรีวราห์ ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ วรายงานให้ทราบและเร่งดำเนินการ
แสดงความคิดเห็น