รายงาน: องค์กรนักศึกษา แรงงานมหาวิทยาลัยและความเป็ นประชาธิปไตยของนักศึกษา
Posted: 14 Feb 2017 02:48 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
องค์กรนักศึกษาถือว่าเป็นหน่ วยงานหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่เป็ นสถาบันในการฝึกความเป็นพลเมื องของสังคม มีการฝึกเรื่องสิทธิและหน้าที่ ของการอยู่ร่วมกันในมหาวิทยาลัย เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้มี ส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่ อเสริมสร้างประสบการณ์ ตลอดจนทำให้นิสิตนักศึกษาได้มี การแสดงออกในลักษณะต่างๆ และเรียกร้องสิทธิต่างๆผ่านหน้ าที่และความรับผิดชอบเพื่ อผลประโยชนต่อนักศึกษา
ในอดีต องค์กรนักศึกษา อย่างองค์การนักศึกษา สภานักศึกษา หรือสโมสรนักศึกษา มีความโดดเด่นและทรงพลั งทางการเมือง ทั้งภายในและนอกมหาวิทยาลั ยมากมาย นักศึกษากลายเป็นที่พึ่งอันสำคั ญต่อขบวนการการเรียกร้องสิทธิอั นพึงมีพึงได้ เมื่อเวลาเดินทางมาถึงในปัจจุบั นกลับมีคำถามอย่างกว้างที่ เราอาจได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่ าเมื่อสังคมเกิดวิกฤติปัญหาแล้ วนักศึกษาไปอยู่ที่ไหน อาจกล่าวได้ว่ามีนักศึ กษาออกมาเคลื่อนไหวประเด็นต่ างของสังคมการเมืองอยู่บ้าง หากแต่กลุ่มเหล่านั้นก็เป็นกลุ่ มอิสระของแต่ละมหาวิทยาลัยมิใช่ องค์กรอันเป็นทางการโดยตรงของนั กศึกษา อะไรคือสาเหตุที่ทำให้พลังของนั กศึกษาหายไป และองค์กรนักศึกษายังคงเป็นตั วแทนของนักศึกษาหรือเป็นเพี ยงแค่แรงงานของมหาวิทยาลัยเท่ านั้น เราจึงชวนคุยเรื่องนี้กับนักกิ จกรรมผู้นำนักศึกษาในมหาวิทยาลั ย
ในอดีต องค์กรนักศึกษา อย่างองค์การนักศึกษา สภานักศึกษา หรือสโมสรนักศึกษา มีความโดดเด่นและทรงพลั
ทำไมนักศึกษาถึงไม่สนใจองค์กรนั กศึกษา
นักศึกษาไม่ค่อยสนใจการเมืองและคิดว่าการเมืองเป็นเรื่ องที่ไกลตัวสำหรับนักศึกษา ส่วนหนึ่งจะมองว่าไม่ว่ าระบบการเมืองจะเป็นอย่ างไรเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลทหาร หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
หากมองไปในกิจกรรมที่โดดเด่ นขององค์กรนักศึกษาหลายกิ จกรรมที่ผู้คนคงจะนึกถึงอย่ างขาดไม่ได้คือการเลือกตั้ งขององค์กรนักศึกษาต่างๆ หากดูดังตัวเลขปรากฏในสถานที่ต่ างๆ ในมหาวิทยาลัยก็จะพบว่าการมาใช้ สิทธิเลือกตั้งมีจำนวนน้ อยและเป็นการให้ ความสนใจในเฉพาะกลุ่มๆ หนึ่ง ซ้ำร้ายกว่านั้น บางองค์กรในมหาวิทยาลัยไม่มี คนลงสมัครผู้แทนนักศึกษาเลยก็ยั งมี
นายกิตติพงศ์ พูนทิพย์ ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลั ยแม่โจ้ กล่าวว่า ปัญหาที่เป็นปัจจัยภายในของแม่ โจ้ เช่น การรับน้อง การบังคับให้ปี1 เข้าร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรม จะทำให้พอพวกเขาขึ้นปี 2 ก็ไม่ค่อยมาร่วมเพราะเคยโดนแล้ วอิ่มตัวแล้วคิดว่ากิจกรรมน่ าเบื่อ ซึ่งกิจกรรมจะมีตั้งแต่สาขาคณะ องค์กรนักศึกษาส่วนกลางไปจนถึ งงานใหญ่ของมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะเยอะเกินไปทำให้อิ่มตั ว ที่นักศึกษาไม่ให้ความสำคั ญเพราะว่าขาดแรงดึงดูดไม่รู้ว่ าทำไปแล้วจะได้อะไร สิ่งที่มหาวิทยาลัยควรทำก็คือต้ องให้เกียรติและศักดิ์ศรี เป็นแรงกระตุ้นเป็นแรงบันดาลใจ ซึ่งปัจจุบันไม่มี
อีกประการคือความเป็นห่วงจากเรื่ องเรียน เพราะว่าการเข้ามาทำองค์กรนักศึ กษาจะมีกิจกรรมมากจนกระทบการเรี ยนแน่นอนอย่างน้อยเรื่องเวลาเรี ยน บางคนเข้ามาทำกิจกรรมแล้วเกรดต่ำ ลงก็จะเอาไปพูดว่าทำกิจกรรมแล้ วเกรดตก ซึ่งข้อเท็จจริงอาจไม่ใช่อย่ างนั้น เป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคลซึ่ งหายาก ทำให้คนใหม่ๆ ที่อยากเข้ามาทำอาจลังเลและตั ดสินใจไม่มาทำ ทำให้สภาและองค์การอาจจะไม่ได้ คนที่มีประสิทธิภาพมาทำงานจริงๆ สองสามปีหลัง ที่แม่โจ้ เกิดเหตุการณ์ที่หลายคณะไม่มี คนลงสมัครนายกสโมสร ทำให้หลายคณะต้องไปขอร้องหรือบั งคับมาก็จะได้คนที่ไม่มี ใจมาทำงานทำให้งานออกมาไม่ดี รุ่นพี่บางส่วนที่มีทัศคติไม่ดี ต่อองค์กรและสภาก็จะปลูกฝังน้อง ว่าอย่าไปทำงานส่วนกลาง ให้ทำงานอยู่ในสโมสร เอาความเป็น Unity มาดึงคนที่มีความสามารถไว้ที่ คณะ ความสามารถขององค์กรก็ลดลง
นายพัทนินทร์ วิเศษรัมย์ ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลั ยธรรมศาสตร์ มองว่านักศึกษาไม่ค่ อยสนใจการเมืองและคิดว่าการเมื องเป็นเรื่องที่ไกลตัวสำหรับนั กศึกษา ส่วนหนึ่งจะมองว่าไม่ว่ าระบบการเมืองจะเป็นอย่ างไรเขาก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลทหาร หรือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เขาก็จะใช้ชีวิตอย่างนั้น ยิ่งการเมืองในมหาวิทยาลัยที่ส่ งผลกระทบต่อชีวิตของนักศึกษาน้ อยมากก็จะยิ่งสนใจกันน้อย
นายยศธร สถาพร อุปนายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี กล่าวว่า ก็มีคนที่ไม่สนใจก็ไม่สนใจเลย และคนที่ทำกิจกรรมก็มีจำนวนหนึ่ ง ถ้าดูความสนใจจากการเลือกตั้ งในปีนี้แล้วก็น่าจะประมาณ 50-60% คือ จากนักศึกษาราว 4,000-5,000 คนมาเลือกตั้ง 2,000 กว่า
นายกฤตเมธ เปรมนิยา นายกองค์การบริหาร องค์การนิสิตจุฬาฯ กล่าวว่า ปัญหาที่นิสิตไม่ให้ ความสนใจอาจอยู่ที่การประชาสั มพันธ์ของตัวองค์กร นิสิตหลายคนอาจไม่รู้ว่าองค์ การนิสิตมีผลต่อเขาขนาดไหน บางคนอาจะไม่รู้จักองค์กร เราก็ต้องประชาสัมพันธ์ การเลือกตั้งปกติก็จะจัดภายใน 1วัน ซึ่งวันนั้นไม่ใช่ทุกคนที่ จะมาเรียน หรือ ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัย การใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้ งของจุฬาจะอยู่ที่ประมาณ 40 % จริงๆ คนมีหลายประเภท บางคนเข้ามาเรียนอย่างเดียวไม่ สนใจกิจกรรมเลยก็มี
น.ส. ปิยสิริ ภิราษร นักศึกษาจากมหาวิทยาลั ยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงราย มองว่า เวลาเราเลือกประธานนักศึ กษาเราก็เชื่อว่าเขาจะเป็นตั วแทนของเราในการออกความเห็น แต่สุดท้ายนโยบายที่เขาใช้หาเสี ยง ที่ทำให้เราเลือกเขาไปมันก็ขึ้ นอยู่กับผู้ใหญ่ หากเขาไม่เห็นด้วยมันก็ ทำอะไรไม่ได้ มันก็เลยพัฒนาขึ้นนิดหน่อยแต่มั นไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากจนไม่ รู้สึกว่ามันเปลี่ยนแปลง
น.ส.อนามิกา ยาวิชัย นักศึกษาจาก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง เขาก็จะจัดสรรเวลาให้ไปเลือกตั้ งบังคับทุกคนและเช็คชื่อ ที่ผ่านมาก็เลือกทุกปี ส่วนใหญ่รู้สึกเฉยๆ แต่ก็มีบ้างที่ส่งผลกับชีวิ ตเราเช่น สโมสรมีนโยบายบังคับให้คนนับถื อพุทธไหว้พระทุกวันจันทร์ สโมสรก็บอกเองให้เพิ่มวันสวด เราก็บอกเลยว่าเราไม่มีศาสนา เราก็อยากได้สโมสรที่มี นโยบายให้เลิก เพราะเวลาเราบอกว่าเราไม่นับถื อศาสนา เขาจะมาถามว่า มาจากไหนพ่อแม่เป็นใคร ทำไมไม่นับถือศาสนา
นายกิตติพงศ์ พูนทิพย์ ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลั
อีกประการคือความเป็นห่วงจากเรื่
นายพัทนินทร์ วิเศษรัมย์ ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลั
นายยศธร สถาพร อุปนายกสโมสรนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี กล่าวว่า ก็มีคนที่ไม่สนใจก็ไม่สนใจเลย และคนที่ทำกิจกรรมก็มีจำนวนหนึ่
นายกฤตเมธ เปรมนิยา นายกองค์การบริหาร องค์การนิสิตจุฬาฯ กล่าวว่า ปัญหาที่นิสิตไม่ให้
น.ส. ปิยสิริ ภิราษร นักศึกษาจากมหาวิทยาลั
น.ส.อนามิกา ยาวิชัย นักศึกษาจาก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง เขาก็จะจัดสรรเวลาให้ไปเลือกตั้
แรงงานมหาวิทยาลัย
แต่ถ้าไม่ไปเลือกตั้งก็ไม่เห็นเสียหายเพราะก็ไม่เห็นจะมี อะไรเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้ องไม่ได้สร้างประโยชน์ให้มหาลั ยเท่าไหร่ ไม่รู้สึกว่าเสียสิทธิ์ เฉยๆ มันไม่ได้รู้สึกว่ามี ผลกระทบอะไรกับเรา เลือกเสร็จ ตัวแทนก็ไปเที่ยวไปกินเลี้ยงนั่ นนี้ ทำกิจกรรมอะไร ส่วนใหญ่ที่เห็นก็สโมสรทำงาน อาจารย์ก็จะมาบอกว่าทำนั่นสิ ทำนี่สิ
ภายหลังจากที่กระแสของพลังนักศึ กษาอ่อนแรงลง บทบาทของนักศึกษากลับเข้าไปอยู่ ในมหาวิทยาลัยเหมือนเดิมภายใต้ โครงสร้างระบบระเบียบ ที่ทำให้นักศึกษามีสิทธิ จะสามารถตัดสินใจในการทำงานได้ เพียงในระดับหนึ่ง หลายงานก็เป็นงานที่มหาวิทยาลั ยคิดขึ้นแล้วโยนมาให้ “ขอความร่วมมือ” ชนิดที่ปฏิเสธไม่ได้ จึงเกิดคำถามกันขึ้นมาว่าจริ งแล้ว ตัวแทนนักศึกษาเป็นพนั กงานประจำหนึ่งในกลไกของมหาวิ ทยาลัย
อุปนายกศิลปากรเพชรบุรี และ นายกองค์การนิสิตจุฬา กล่าวตรงกันว่า เรายังมีอิสรภาพในการทำกิ จกรรมในบทบาทของนิสิตนักศึ กษาอยู่ แต่ถ้าพูดว่าเป็นแรงงานก็กึ่งๆ มีบ้างในบางทีที่มีงานอาจารย์ก็ จะไหว้วานขอความร่วมมือให้ไปช่ วยงานของมหาวิทยาลัยที่เขาต้ องการคนเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งบางทีเวลามีปั ญหาเราก็สามารถเป็นเสียงของนั กศึกษาได้ในนามขององค์กร
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตัวขององค์กรนักศึกษา ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับปั ญหาของนักศึกษาแต่ในปัจจุบันนี้ ปัญหาของนักศึกษาค่อนข้างมีน้อย มีปัญหาครั้งหนึ่งก็ จะสนใจเฉพาะครั้งนั้นๆ พอทุกคนมองว่าการเมืองเป็นเรื่ องไกลตัวก็ทำให้การทำงานค่อนข้ างยากด้วย หลังจากปีพ.ศ.2522 องค์กรนักศึกษาถูกควบคุมกิ จกรรมมาโดยตลอด แม้จะมีการเลือกตั้งแต่ตัวของนั กศึกษาก็ไม่มีความกล้าที่จะต่ อสู้กับมหาวิทยาลัยว่าคุณไม่มี สิทธิที่จะมาสั่งหรือระงับกิ จกรรมของเรา ฉะนั้นหลังจากปีพ.ศ.2522 จนถึงปัจจุบันก็ซบเซามาตลอด เราเคยคุยกันว่าทำไมเราทำงานกั นเหมือนทำงานประจำเป็นพนั กงานมหาวิทยาลัยเลย ซึ่งในมุมหนึ่งเรายอมรับว่ าเราต้องทำงานแบบนี้ด้วย เกิดจากปัญหาสำคัญว่าเราไม่เป็ นอิสระ เพราะระบบงบประมาณองค์กรยังผู กพันกับมหาวิทยาลัย แม้จะบริหารกันเองแต่ระบบเบิกจ่ ายและการอนุมัติต้องอยู่ภายใต้ มหาวิทยาลัย
นักศึกษาจากมหาวิทยาลั ยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา กล่าวว่า มันเป็นแรงงานแน่ๆ องค์การนักศึกษาสภานักศึกษา ก็เป็นฉากหน้าไว้ให้กับผู้บริ หารบางคน ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมาก็ไม่ ได้รู้สึกว่าเขาจะมาปกป้องสิทธิ อะไร เวลาเราแสดงออกทางความเห็นแล้ วมันมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ตัวแทนนักศึกษาก็รับรู้แต่ก็ไม่ ได้มาช่วยปกป้องอะไร ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยเคยเลื อกแต่ตัวแทนของสโมสรคณะ ไม่เคยเลือกองค์การหรือสภานักศึ กษา ไม่เคยเลย เพราะสองปีที่ผ่านมาไม่มีเรี ยนแล้วอยู่บ้าน ถ้ามีปีนี้มีก็ขอดูก่อนว่ าใครสมัคร น่าเชื่อถือขนาดไหนว่ าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ถ้าไม่ไปเลือกตั้งก็ไม่เห็ นเสียหายเพราะก็ไม่เห็นจะมี อะไรเพราะไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้ องไม่ได้สร้างประโยชน์ให้มหาลั ยเท่าไหร่ ไม่รู้สึกว่าเสียสิทธิ์ เฉยๆ มันไม่ได้รู้สึกว่ามี ผลกระทบอะไรกับเรา เลือกเสร็จ ตัวแทนก็ไปเที่ยวไปกินเลี้ยงนั่ นนี้ ทำกิจกรรมอะไร ส่วนใหญ่ที่เห็นก็สโมสรทำงาน อาจารย์ก็จะมาบอกว่าทำนั่นสิ ทำนี่สิ
น.ส.ธมลวรรณ ยศทวี อุปนายกฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดแพร่ บอกว่า มันไม่เชิงที่จะตัดสินใจเองไม่ ได้มันก็ตัดสินใจเองได้ เวลาจะทำโครงการ เราก็แค่ไปบอกเขาก็จัดหามาให้ อันไหนที่ไม่ได้ตรงตามความต้ องการก็ไม่เป็นอะไรเราก็ สามารถเอามาปรับเปลี่ยนให้ได้ มันก็ไม่ได้แย่อะไร
อุปนายกศิลปากรเพชรบุรี และ นายกองค์การนิสิตจุฬา กล่าวตรงกันว่า เรายังมีอิสรภาพในการทำกิ
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตัวขององค์กรนักศึกษา ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับปั
นักศึกษาจากมหาวิทยาลั
น.ส.ธมลวรรณ ยศทวี อุปนายกฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดแพร่ บอกว่า มันไม่เชิงที่จะตัดสินใจเองไม่
ระบบราชการ/ระบบอาวุโสในองค์กร
เวลาเบิกเงินเบิกของมันก็จะยาก เวลาเราจะเอางบประมาณเราก็ต้องเขียนโครงการไปขอ เขาไม่ให้เงินอยู่ในมือนักศึ กษากลัวการทุจริต เงินที่เรามีกันเองก็อยู่ในฝ่ ายจัดหารายได้ เช่น การขายเสื้อ
นายกองค์การนิสิตจุฬากล่าวว่า สำหรับจุฬาฯ การเงินไม่ค่อยมีปัญหาแต่บางครั้
อุปนายกฝ่ายวิชาการ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี กล่าวว่า ด้วยระบบของทางวิทยาลั
ประธานสภาแม่โจ้บอกว่า คนที่จะอยู่ในตำแหน่งสำคั ญขององค์กรจะเป็นปี 3 ปี 4 โดยเฉพาะปี 4 อยู่ได้หนึ่งเทอมก็ต้องฝึกงาน พอรับวาระตำแหน่งทำโครงการเคลี ยร์เงินต่างๆ ก็เกือบ 2 เดือนแทบจะไม่ได้ทำอะไร ส่วนปี 3 ที่พอจะฝ่าฟันอุปสรรคและยังคงมี ใจกับสภาก็เหลือน้อยแทบไม่มี ส่วนอื่นก็ส่วนของการเรียน ทำวิจัย เตรียมหาที่ฝึกงาน สอนงาน ประชุม ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา จะเหลือปี1 ปี2 ส่วนใหญ่ก็ใหม่ ไม่กล้าโต้เถียงไม่รู้รายละเอี ยดเพราะเป็นน้องใหม่ ทำให้อาจทำหน้าที่พิทักษ์สิทธิ์ ไม่ได้มาก พอคนหลักต้องมาเขี ยนโครงการทำโครงการก็จะเหลื อคนไม่มากที่จะมีเวลาทำข้อมูลต่ างๆ เพื่อพิทักษ์สิทธิ์
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า บางมหาวิทยาลัยคนที่เป็ นประธานสภาก็มาด้วยระบบอาวุโส ได้เป็นเพราะอยู่นาน หลายๆ มหาวิทยาลัยที่เราเห็นก็จะเป็ นปี4 เพราะอาจจะอยู่นานอาจจะเชี่ ยวชาญ โอกาสที่ปีใหม่ๆ จะได้เป็นแกนนำในองค์กรก็น้อย แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาสำหรั บธรรมศาสตร์ อาจจะมีได้เช่นปีที่แล้ วประธานสภาธรรมศาสตร์เป็นหมอ ปี 6ต้องไปทำงาน ก็เป็นปัญหา เวลาเราเลือกเราก็ต้องประเมินปั จจัยต่างๆ ด้วย
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า บางมหาวิทยาลัยคนที่เป็
วาระการดำรงตำแหน่ง
ดูเหมือนจะเป็นปัญหาสำคัญที่สุ ดอีก 1 ประการขององค์กรนักศึกษา ที่อาจเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ ลดทอนความเข้มแข็งขององค์กรด้ วยความไม่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจทำให้องค์กรนักศึ กษากลายเป็นองค์กรปาหี่
นายกองค์การนิสิตจุฬา กล่าวว่า การทำงานในระยะเวลา 1 ปี สั้นไป ส่งผลให้เป้าหมายระยะยาวไปไม่ถึ งหรือไปถึงได้ยาก พอรับตำแหน่งมากว่าจะเรียนรู้ งาน ก็สักพักใหญ่กว่าอะไรต่างๆ จะนิ่งกว่าจะวางแผนได้ ก็จะได้ในรู ปแบบของโครงการระยะสั้น การส่งต่อนโยบายระยะยาวก็ทำให้ เกิดขึ้นได้ลำบาก
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ด้วยโครงสร้างการทำงานของสภานั กศึกษา ค่อนข้างซับซ้อนทำให้ การทำความเข้าใจค่อนข้ างยากและระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ ง 1 ปี กว่าเราจะทำความเข้าใจกั บคนและระบบก็เหลือเวลาอีกครึ่ งปี ซึ่งในครึ่งปีที่เหลือก็เป็ นการปิดเทอมไปแล้วสามเดือน เหลือเวลาทำงานจริงๆ ประมาณสามเดือน อย่างธรรมศาสตร์ใช้ ระบบพรรคการเมือง ก็จะมีการผลัดเปลี่ยนคนอยู่เรื่ อยๆ มันเลยไม่แน่ว่าคนเก่าที่อยู่ ในพรรคปีหน้าจะได้มาทำหรือไม่ ฉะนั้นจะมีบางปีที่อาจจะเปลี่ ยนตัวบุคลากรภายในทั้งหมด ทำให้ต้องมาเรียนรู้กันใหม่ทั้ งหมดอีก
ด้านประธานสภาแม่โจ้ กล่าวว่า การวางวาระในแต่ละปีที่ไม่ลงตั วเป็นปัญหาสำคัญมาก จากการปรับเปลี่ยนตารางเปิด/ปิ ดเทอมตามอาเซียน และนี่ก็จะเปลี่ยนเหมือนเดิมอีก ปีที่แล้วผมเป็นรองประธานทั้ งหมดสิบห้าเดือน ปีนี้ผมเป็นประธานเก้าเดือน ระยะเวลาที่จะสอนงานถ่ ายทอดงานต่อรุ่นจะทำให้น้อยลง ซึ่งทำให้เขาต้องมาสร้างงานใหม่ เองทำให้เริ่มงานใหม่ยาก เมื่อรับตำแหน่งมากว่าจะปรับที มงาน กว่าจะเขียนโครงการแก้ ไขโครงการก็ใช้เวลาเป็นเดือน ไหนจะฝ่ายงบประมาณ พอเริ่มจะคล่องตัวก็เตรียมจั ดการเลือกตั้งใหม่ เพราะจะหมดวาระ ถ้าไม่ได้ชุดทำงานเดิมก็ต้องเริ่ มกันใหม่
นายกองค์การนิสิตจุฬา กล่าวว่า การทำงานในระยะเวลา 1 ปี สั้นไป ส่งผลให้เป้าหมายระยะยาวไปไม่ถึ
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ด้วยโครงสร้างการทำงานของสภานั
ด้านประธานสภาแม่โจ้ กล่าวว่า การวางวาระในแต่ละปีที่ไม่ลงตั
ยังคงเป็นเสียงของนักศึกษา?
ถ้าพูดถึงสภาพโดยรวมแล้วองค์กรนักศึกษา ก็อาจจะเป็นองค์กรปาหี่ องค์กรนี้จึงอาจเป็ นแรงงานของมหาวิทยาลัยไม่ใช่ตั วแทนประชาธิปไตยของนักศึกษา ตอนนี้สภาพจริงๆ
ประธานสภานักศึกษา แม่โจ้ บอกว่า ผมสังเกตเห็นประธานหรื
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ปัจจุบันที่ผู้แทนนักศึกษาไม่
อุปนายกสโมสรนักศึกษาศิ
อุปนายกวิทยาลัยพยาบาล บอกว่า ถ้ามีนักศึกษาไม่พอใจกับกฎระเบี
นักศึกษาควรสนใจการเมืองไหม?
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ตอนนี้จริงๆ ผมก็ยังงงอยู่ว่าสภานักศึ กษาขอนแก่นทำไมถึงเงียบมาก บางครั้งอย่างกรณีราชภักดิ์ เราก็ออกแถลงการณ์ สภานิสิตจุฬาแสดงออกเร็วกว่ าเราด้วยซ้ำทำให้เราคิดว่ามั นอาจจะดีขึ้น แต่กรณีขอนแก่น มันผ่านหลายครั้งด้วยซ้ำที่นั กศึกษาถูกกระทำโดยรัฐ เราก็สงสัยว่าทำไมถึงเงียบ
อุปนายกศิลปากรเพชรบุรี กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้ องสนใจการเมืองเพราะมหาวิทยาลั ยของเรายังเป็นของรัฐอยู่ เราควรแสดงออกอย่างเหมาะสม น่าจะเป็นตามกำลังของนักศึกษา ถ้ามหาวิทยาลัยออกกฎมาแล้วมี คนไปประท้วง 2-3 คนก็คงไม่เป็นผล เราต้องเตรียมการให้ดีก่อน หากเป็นการเมืองนอกมหาวิทยาลั ยแล้วเราไม่เห็นด้วย เราก็จะหาวิธีแสดงออกอยู่ดี ยิ่งถ้าทั้งองค์กรเห็นตรงกันก็ น่าจะแสดงออกอะไรให้เขาเห็น เช่น ออกแถลงการณ์ แต่ตั้งแต่ผมเข้ามาเรียน 3 ปีก็ยังไม่ไม่เคยเห็น
อุปนายกศิลปากรเพชรบุรี กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้
ประธานสภาแม่โจ้ กล่าวว่า นักศึกษาควรจะต้องสนใจสั งคมการเมืองและการเปลี่ ยนแปลงของโลกว่าอะไรเป็นอะไรอย่ างน้อยเราควรรู้ไว้ แต่ในทางปฏิบัติเราก็ควรดูว่า เราสมควรแสดงออกมากน้อยแค่ไหน หรือ สิ่งที่เราจะไปร่วมด้วยเราเกี่ ยวข้องในส่วนนั้นมากน้อยเพียงใด สำหรับผมคิดว่าควรจะรู้ว่าบ้ านเมืองเราเกิดอะไรขึ้ นและแสดงความคิดเห็น
องค์กรนักศึกษาระดับประเทศที่ยั งมีอยู่?
ประธานสภานักศึกษาธรรมศาสตร์ บอกว่า แนวคิดในการริเริ่มที่ประชุ มสภานักศึกษานิสิตสัมพันธ์แห่ งประเทศไทย มาจาก จุฬาลงกรณ์ เราก็เข้ามาร่วมในปีแรกตั้งแต่ ปี 57 มองเห็นว่าเราที่รวมกลุ่มกันก็ ดี โดยตอนนี้เราก็รวมมหาวิทยาลั ยใหญ่ๆ ได้ค่อนข้างจะครบถ้วนแล้ว เราจะพยายามผลักดันองค์กรนี้ให้ เป็นองค์กรทางการ ปกติเวลามีปัญหาใดๆ เราก็จะออกแถลงการณ์แต่มหาวิ ทยาลัยอื่นอาจจะยังไม่กล้าต่ อกรกับมหาวิทยาลัยหรือรัฐ หากองค์กรนี้มันทำหน้าที่ต่ อไปได้มันจะโอเค กับหลายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ หมายความว่าคุณไม่ได้ ออกไปในนามตัวเอง แต่จะเป็นเกราะป้องกันสำคัญให้ สภานักศึกษา ปัญหาก็คือในการประชุมหลายมหาวิ ทยาลัยชอบสงวนความเห็น สงวนท่าทีในการอภิปรายต่างๆ ที่รู้สึกว่าเป็นการเมือง เลยทำให้มันอาจไม่ดำเนินการเท่ าที่ควร เราพยายามทำให้เป็นองค์กรกลางที่ จะร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ และแสดงความเห็นในรู ปแบบแถลงการณ์ไปสู่สังคม ตอนแรกผมค่อนข้างคาดหวังกับองค์ กรนี้มากๆ แต่หลังจากที่ผมประชุมสองสามครั้ ง แล้วรู้สึกเหมือนปาหี่ ที่จะทำให้ผู้แทนนักศึ กษามาเจอกัน เวลาอภิปรายก็ไม่ค่อยพูดกัน มีแต่จะมอบรางวัลอะไรต่างๆ ซึ่งผมมองว่ามันไม่ได้เป็ นประโยชน์
แสดงความคิดเห็น