รายงานทบทวนด้านยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีต่อเกาหลีเหนือ ระบุว่าการใช้กำลังทหารยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกของสหรัฐฯ ในการตอบโต้ต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ และปกป้องพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชีย

Wall Street Journal รายงานว่า ที่ผ่านมาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้พยายามรับรองกับพันธมิตรของสหรัฐฯ ในเอเชียว่า สหรัฐฯ จะไม่ละทิ้งข้อตกลงที่ทำไว้กับพันธมิตรในเอเชีย

และผู้นำสหรัฐฯ ยังได้กล่าวว่าจะหยุดยั้งการทดสอบขีปนาวุธและหัวรบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือให้ได้ ซึ่งทำให้ประชาคมโลกต่างจับตามองถึงนโยบายของสหรัฐฯ ที่มีต่อเอเชีย ภายใต้ยุคสมัยของ โดนัลด์ ทรัมป์

ที่ผ่านมาสหรัฐฯ พยายามใช้แนวทางการทูตและมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ เพื่อกดดันเกาหลีเหนือให้ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ แต่ดูเหมือนวิธีดังกล่าวอาจใช้ไม่ได้ผล

A view of the test-fire of Pukguksong-2 guided by North Korean leader Kim Jong Un on the spot, in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA) in Pyongyang February 13, 2017.

การทบทวนด้านยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มีต่อเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในขณะที่มีเหตุการณ์หลายอย่างในภูมิภาคนี้ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว เกาหลีเหนือทดสอบยิงจรวดนำวิถีไปตกในทะเลญี่ปุ่น และไม่กี่วันต่อมา พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ถูกสังหารเสียชีวิตที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์

และขณะนี้ เจ้าหน้าที่จีนและเกาหลีเหนือได้จัดประชุมร่วมกันที่กรุงปักกิ่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 ปี

รายงานของ Wall Street Journal เผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เน้นย้ำถึงการใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือหลายครั้งระหว่างการประชุมกับประเทศพันธมิตรในเอเชีย รวมทั้งเมื่อคราวที่นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ เดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว

โดยมีการระบุว่าโดยแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า แนวโน้มการใช้กำลังทหารอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่เกาหลีเหนือเตรียมพร้อมทดสอบขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลแบบข้ามทวีป หรือ Inter-Continental Ballistic Missile (ICBM) ที่สามารถโจมตีได้ไกลกว่า 5,500 กม.

FILE : A new engine for an intercontinental ballistic missile (ICBM) is tested at a test site at Sohae Space Center in Cholsan County, North Pyongan province in North Korea in this undated photo released by North Korea's Korean Central News Agency (KCNA)

อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้นำญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ต่างมีความกังวลไม่น้อย หากสหรัฐฯ ใช้กำลังทหารต่อเกาหลีเหนือจริงๆ

คุณเท็ตสึโอะ โคทานิ แห่งสถาบันวิเคราะห์กิจการต่างประเทศของญี่ปุ่น ในกรุงโตเกียว กล่าวกับ Wall Street Journal ว่าญี่ปุ่นกำลังกลัวว่าจะถูกดึงเข้าไปในสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับ เกาหลีเหนือ

และความกังวลอีกอย่างหนึ่งคือ หากสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือสามารถเจรจาตกลงกันได้ ก็อาจส่งผลให้สหรัฐฯ ลดบทบาทในเอเชียลงไป ซึ่งก็จะไม่เป็นผลดีต่อญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรใกล้ชิดของสหรัฐฯ เช่นกัน

และยังอาจทำให้จีนซึ่งถือเป็นคู่แข่งสำคัญของญี่ปุ่นในเอเชีย มีอิทธิพลในภูมิภาคนี้มากขึ้นด้วย

คุณเท็ตสึโอะ โคทานิ ระบุว่า “การเจรจาโดยตรงระหว่าง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ ผู้นำคิม จอง อึน จะถือเป็นฝันร้ายของญี่ปุ่นเลยทีเดียว”

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.