ความคืบหน้าการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนวัดพระธรรมดายมารายงานตัวเพิ่มเติม พ.ต.ต. วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการศูนย์บริหารคดีพิเศษ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุว่า ที่ประชุมศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวและสถานการณ์วัดพระธรรมกาย มีแนวคิดเสนอไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พิจารณาสึกพระธัมมชโย อาจจะมองได้ว่าเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวพระธัมมชโยว่าจะออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

ล่าสุด มีการออกคำสั่งเรียกบุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม 7 คน ประกอบด้วย นายศรชัย โสภา, นายจำนงค์ วุฒิไกร, นายศรชัย กองแก้ว, นางศิริกานดา ศรีสุทธิพันธิพร, นายเฉลิมชัย ตั้งวัชรวิชัย, นางสาววีรดี ลิ้มศิริเศรษฐกุล และนายเอกรินทร์ ทานประสิทธิ์ โดยทั้ง 7 คนเป็นผู้สนับสนุนอาหารสิ่งของเครื่องใช้ให้กับกลุ่มศิษย์วัดพระธรรมกายที่ตลาดกลางคลองหลวง  โดยให้มารายงานตัวภายในวันที่ 14 มีนาคมนี้

ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบงานภายในอาคารบุญรักษา และอาคาร 100 ปีคุณยายอาจารย์ เข้ามารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ ขณะนี้เกือบครบ 19 คนแล้ว เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้มีการซักถาม ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และระบุว่ายังมีเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องระบบอื่นๆ อีก เจ้าหน้าที่จึงเตรียมออกคำสั่งเรียกมารายงานตัวเพิ่มเติม

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ตลาดกลางคลองหลวงเวลา 11.30 น. มีรถน้ำ 2 คัน เป็นรถน้ำของเอกชน จะเข้าไปภายในตลาดกลางคลองหลวง เพื่อเติมน้ำในห้องน้ำด้านหลังตลาด พ.ต.ต. วรณัน ระบุว่า เจ้าหน้าที่สามารถสกัดรถน้ำได้จำนวน 1 คัน แต่อีก 1 คัน มีพระสงฆ์ นำโดยพระปลัดเสกสรรค์ อัตตทโม ประธานศูนย์ส่งเสริมศีลธรรม จังหวัดชัยนาทและศิษย์ เข้ามาปิดล้อม เจ้าหน้าที่จึงได้เจรจานานกว่าครึ่งชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล และประเมินว่าสถานการณ์อาจจะบานปลายได้ เจ้าหน้าที่จึงยินยอม ให้รถคนน้ำคันดังกล่าวเข้าไปภายในบริเวณตลาดได้สถานการณ์จึงคลี่คลายลง

ขณะที่เวลาประมาณ 13:00 น. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) พร้อม พระวินยาธิการ เจ้าคณะตำบล ฯลฯ จำนวน 10 คน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ และ ทหาร ขอเข้าไปบริเวณโซนดี วัดพระธรรมกาย เพื่อขอตรวจสอบใบสุทธิสงฆ์ พ.ต.ต. วรณัน ระบุว่า ช่วงแรกได้ยินยอมให้พระเข้าไปเพียงเท่านั้นแต่ไม่ยินยอมให้ทหารและตำรวจเข้าไปด้วย  แต่เมื่อพระวินยาธิการ และเจ้าคณะตำบลเข้าไปได้เพียง 5 นาที ทางกลุ่มพระ ก็ได้ระบุว่าไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในพื้นที่อีก ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนชุดนำทีมเป็นทหาร หรือ ตำรวจ ในการตรวจค้นวัดพระธรรมกายแทนดีเอสไอ พ.ต.ต. วรณัน ระบุว่า ขณะนี้ทางอธิบดีดีเอสไอเป็นผู้รับผิดชอบ แต่เวลาปฏิบัติงานจริงจะมีการประชุมหารือร่วมกันทุกฝ่ายอยู่แล้ว  ในกรณีที่พระชาญณรงค์ อุตตโม พระอาจารย์ประจำศูนย์ปฏิบัติธรรมบาห์เรน เคยเป็นทหารมาก่อนนั้นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบซึ่งมีพระหลายรูปที่เคยเป็นข้าราชการตำรวจและทหาร ซึ่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอกำลังตรวจสอบอยู่ ว่าเป็นแกนนำส่วนหนึ่งในการใช้ยุทธวิธีรับมือกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ ทั้งนี้ในวันนี้ พระแสนพล เทพเทพา หรือ สิบเอกแสนพล เทพเทพา และพระถวัลศักดิ์ บุญศิริวัฒนกุล เดินทางมาที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จึงได้ออกคำสั่งให้พระทั้งสองรูปกลับเข้าไปในวัดและอยู่ภายในบริเวณวัด โดยให้เป็นผู้ประสานงานระหว่างเจ้าหน้าที่ภายในวัดและเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในการเข้าตรวจค้นอาคารสถานที่ตามที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้ร้องขอ

ส่วนกรณีที่ในวันพรุ่งนี้พระปลัดเสกสรรค์ จะเข้าไปรายงานตัวตามหมายเรียกที่ สภ. คลองหลวง โดยพระปลักเสกสรรค์ ได้มีการระบุในที่ประชุมว่าจะใช้เครื่องขยายเสียง เชิญชวนลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่ปักหลักอยู่ที่ตลาดกลางคลองหลวงไปที่ สภ. คลองหลวงพร้อมกัน พ.ต.ต. วรณัน กล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว และเตรียมความพร้อมรับมือ คาดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง  ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ทหารประเมินจำนวนประชาชนที่อยู่บริเวณตลาดกลางคลองหลวงประมาณ 300 คน และ พระสงฆ์ ประมาณ 160 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าสัปดาห์ที่แล้ว


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.