ปมถูกฟ้อง ม.112 'พุทธะอิสระ' แจงกองปราบขออนุญาตปลุกเสกพระเครื่องแล้ว


Posted: 11 Apr 2017 11:05 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

กรณีถูกร้องเอาผิด ม.112 ใช้เลือดปลุกเสกพระ มีพระปรามาภิไธยภปร. 'พุทธะอิสระ' แจงกองปราบขออนุญาต ภปร.แล้ว ยันไม่ได้ผิดเป็นวิชาโบราณสืบทอดตั้งแต่สมัยอยุธยา ส่วนคดีรุกป่า จนท. แจง พุทธะอิสระ คืนที่ดินแล้ว ยังไม่ได้เป็นคดีทางกม. และถือว่ายังไม่ใช่ผู้กระทำผิด


ที่มาภาพ เพจ Issaradham

11 เม.ย. 2560 จากกรณีวานนี้ (10 เม.ย.60) วิชัย ประเสริฐสุดสิริ ผู้ประสานงานองค์กรส่งเสริมและปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา (อสคพ.) พร้อมคณะร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่ พระสุวิทย์ ธีรธฺมโม หรือ หลวงปู่พุทธอิสระได้ประกอบพิธีปลุกเสกพระเครื่อง “พระนาคปรก” รุ่น “หนึ่งในปฐพี” โดยที่ด้านหลังของพระเครื่อง มีการอันเชิญพระปรมาภิไธย ภปร. และมีการใช้เลือด หรือปะสะโลหิต ของหลวงปู่พุทธอิสระ ในการจัดพิธีด้วย ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น

ล่าสุดวันนี้ (11 เม.ย.60) เวลา 09.00 น. พระพุทธะอิสระ ได้ยื่นหลักฐานการขออนุญาตจัดสร้างพระนาคปรก รุ่น หนึ่งในปฐพี แก่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่ออำนวยความสะดวกในการตรวจสอบ

พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า ได้นำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการขอพระบรมราชานุญาตอัญเชิญพระปรมาภิไธยย่อมาใช้ด้านหลังพระเครื่องที่มีพิธีปลุกเสกจัดสร้าง “พระนาคปรก” รุ่นหนึ่งในปฐพี มามอบให้พนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบ อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าก่อนที่จะทำพิธีปลุกเสกพระเครื่องดังกล่าวนั้นได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร และเอ่ยด้วยวาจา ขออนุญาตจากนายแก้วขวัญ วัชโรทัย อดีตรองเลขาธิการพระราชวังแล้ว ส่วนกรณีที่ใช้เลือดในการประกอบพิธีนี้ด้วยนั้นยอมรับว่าทำจริง แต่เห็นว่าไม่ได้ผิดอะไรเพราะเป็นหนึ่งในวิชาปะสะโลหิตซึ่งเป็นวิชาโบราณ เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยาในการจัดสร้างวัตถุมงคล ส่วนที่ถูกแจ้งความก็เชื่อว่าน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งการที่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน บก.ป.ครั้งนี้ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แสดงตนให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าพร้อมจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย หากมีการพิจารณาดำเนินคดีก็จะได้ต่อสู้คดีในชั้นศาลต่อไป

พระพุทธะอิสระกล่าวอีกว่า นอกจากมาชี้แจงกรณีที่ถูกกล่าวหาแล้วนั้นก็ยังประสงค์จะร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่งที่กล่าวอ้างว่าได้จดทะเบียนจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองถูกต้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พบว่ายังไม่มีการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งเข้าข่ายนำความเท็จกราบบังคมทูลถวายฎีกาต่อพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เป็นการกระทำที่มีความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดตามกฎหมายพรรคการเมืองด้วย

พ.ต.ท.อนันต์ จริงจิตร รอง ผกก.(สอบสวน) กก.5 บก.ป. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวได้รับเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่หลวงปู่พุทธะอิสระนำมามอบให้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงประกอบคำให้การแล้ว โดยขณะนี้ยังไม่ได้มีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ และอยู่ระหว่างประมวลข้อมูลทั้งหมดเพื่อเสนอต่อผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาสั่งการต่อไป

จนท. แจงคดีรุกป่า พุทธะอิสระคืนที่ดินแล้ว ยังไม่ได้เป็นคดี

ขณะที่ วอยซ์ทีวี รายงานความคืบหน้าในการดำเนินคดีรุกป่า 315 ไร่ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขาน-แม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ที่พระพุทธอิสระ ได้ครอบครองบริเวณบ้านวังผาปูน หมู่ 15 ต.แม่วิน อ.แม่วาง โดยมีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง และได้ทำโครงการปลูกป่า เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลนั้น


ทีมข่าววอยซ์ทีวี ได้โทรศัพท์สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ รายงานว่า ได้ตรวจสอบพบว่ามีการซื้อขายผิดเงื่อนไข 17 แปลง จากทั้งหมด 53 แปลง พื้นที่ 315 ไร่ พบว่า มีเพียง 17 แปลงที่มีการซื้อขาย โดยถือว่ากระทำผิดเงือนไขที่ได้รับการรังวัดตามโครงการจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ขาม-แม่วาง ซึ่งห้ามซื้อขายที่ดิน โดยผู้ได้รับรังวัดจะต้องทำประโยชน์จากเกษตรกรรม

ทั้งนี้ ได้ส่งเรื่องต่อให้ส่วนการจัดการที่ดินเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2560 เพื่อทำการเพิกถอนการรังวัด ยึดคืนสู่สภาพป่า ซึ่งเป็นไปตามระเบียบ ทั้งนี้ ในส่วนของพระพุทธะอิสระได้คืนที่ดินให้กับกรมป่าไม้แล้ว โดยเรื่องนี้ยังไม่ได้เป็นคดีทางกฎหมาย ถือว่ายังไม่ใช่ผู้กระทำผิด



ที่มา : เพจ Issaradham วอยซ์ทีวี และ ผู้จัดการออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.