Atukkit Sawangsuk

รับจ็อบประชาชนผู้ใช้บัตรทอง มาพูดเรื่อง รพ.ขาดทุนซะหน่อย+ด้วยความสงสัย ประธาน กสม.เพี้ยนไปแล้วนะเออ มีอย่างที่ไหน เขียนถามเอง ตอบเอง ยังกะแก้วสรร ถาม “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องทำหน้าที่เพื่อสิทธิมนุษยชนที่ถูกต้องแท้จริง ถ้าประพฤติตนรับใช้ต่างชาติ บ่อนทำลายประเทศชาติของตน ย่อมเป็นที่เคียดแค้นชิงชังของประชาชน และอยู่ไม่ได้” ตอบ “เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้” นี่มันฮาราคีรีทั้งคณะเลยครับ

มีคนบอกว่า กสม. 7 คนน่ะไม่ได้แตกเป็น 2 เสี่ยง แต่สามก๊กเลยครับ ระบบคัดเลือกแบบองค์กรอิสระขุนนางก็เป็นอย่างนี้ มาเพื่อเกียรติศักดิ์ศรีวงศ์ตระกูล มีตำแหน่งมีหน้ามีตามากกว่ารู้เรื่องสิทธิมนุษยชน

อ้อ ลองเอาชื่อ วัตร ติงสมิตร ไปค้นอาจารย์กู จะขึ้นว่า "วัตร ติงสมิตร เครื่องหมายการค้า" ด้วยนะ แกเคยอยู่ศาลทรัพย์สินทางปัญญา แต่งหนังสือเครื่องหมายการค้า เป็นที่นิยมยกย่อง (แต่กลับคิดว่าแต่งหนังสือเครื่องหมายการค้าแล้วเหมาะจะมาเป็นประธาน กสม.)

ส่วนเรื่อง รพ.ขาดทุนที่แพร่ข้อมูลไวรัล มันขาดทุนจริงแต่ไม่ถึงขั้นพินาศฉิบหายอย่างที่พยายามพูดกัน พวกที่พูด ก็พูดเพื่อโจมตี สปสช.ตามเคย ทั้งที่งบ สปสช.จัดสรรชัดเจนโปร่งใส เพียงแต่ทำยังไงมันก็ไม่พอ

จุดมุ่งหมายก็เดิมๆ อยากล้ม สปสช.ให้กระทรวงกลับไปจัดงบเอง ซึ่งผิดหลักการ 30 บาท ที่ให้ สปสช.เป็นเหมือนบริษัทประกัน ซื้อประกันให้ประชาชน 48 ล้านคน ถ้าล้ม สปสช.เมื่อไหร่ แม้ยังบอกรักษาฟรีๆๆ แต่สุดท้ายก็จะเละไปหมด

บังเอิ๊ญ รอบนี้ ที่ออกมาโจมตี สปสช. งบปี 60 มีการเคลียร์ใหม่ สธ.โดยหมอปิยะสกล เข้ามาจัดการเอง ให้จัดงบขั้นบันได คือ รพ.กันดาร รพ.ประชากรน้อย รพ.เล็กที่เคยขาดทุน ก็เพิ่มงบให้ แล้วมาลด รพ.ใหญ่ พอ สปสช.โดนโจมตี หมอปิยะสกลเลยต้องออกรับแทน ประยุทธ์ก็รีบให้งบกลาง 5 พันล้าน

แต่การต่อสู้เรื่องนี้ไม่จบง่ายหรอก สุดท้ายต้องผลักไปสู้เป้าหมายให้ รพ.เป็นอิสระจากกระทรวง ให้ อปท.จังหวัด ชุมชน เข้ามาเป็นเจ้าของและร่วมบริหาร ถึงจะหมดปัญหาขาดทุนและให้บริการที่ดีได้จริง


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.