กรณีสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส ใช้ความรุนแรงลากผู้โดยสารลงจากเครื่องบิน จากปัญหาการจำหน่ายตั๋วเกินจำนวน ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง และทำให้หุ้นของบริษัทร่วงถึง 6.3% ช่วงก่อนเปิดตลาดวันที่ 11 เม.ย. โดยมีมูลค่าตลาดหายไปถึง 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 4.8 หมื่นล้านบาท) ก่อนที่จะกระเตื้องขึ้น โดยลงไปราว 4%
ด้าน บริษัท เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในยูไนเต็ด อาจสูญเงินถึง 58.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2,017 ล้านบาท) จากปัญหาดังกล่าว
การลากผู้โดยสารที่เป็นแพทย์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนออกจากเครื่องบิน ยังทำให้เกิดกระแสรวมพลังต่อต้านจากผู้บริโภคในจีน ที่ประกาศจะไม่ใช้บริการของยูไนเต็ด โดยกลายเป็นประเด็นร้อนในเว็บไซต์เว่ยป๋อของจีนมาตลอด 2 วัน
ที่ผ่านมา ขณะที่ซีเอ็นบีซีระบุว่า ยูไนเต็ดเป็นสายการบินอเมริกันที่ใหญ่ที่สุดที่ให้บริการในจีน และคิดเป็นสัดส่วนถึง 20% ของเที่ยวบินทั้งหมดระหว่าง 2 ประเทศนี้
ออสการ์ มูนอซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของยูไนเต็ด ออกแถลงการณ์ขอโทษอย่างเป็นทางการ พร้อมทบทวนนโยบายสายการบิน และรับปากจะเปิดเผยผลการสอบสวนภายในวันที่ 30 เม.ย.
แสดงความคิดเห็น