สืบพยานโจทก์ศาลแพ่ง ร.ต.สนานจมน้ำระหว่างฝึกหลักสูตรมหาดเล็กฯ แพทย์ยันจม 10 นาที

Posted: 18 Jun 2017 03:11 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ศาลแพ่งสืบพยานโจทก์ 4 ปาก แพทย์ระบุผู้ตายจมน้ำนานกว่า 5 นาที คดีมารดา-ภรรยา ร.ต.สนาน ทองดีนอก ฟ้องกองทัพบกเรียกค่าเสียหายกรณี ร.ต.สนาน เสียชีวิตระหว่างทดสอบว่ายน้ำ หลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่น 11

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแจ้งความคืบหน้า กรณีที่ครอบครัวของร.ต.สนาน ทองดีนอก ฟ้องกองทัพบกเรียกค่าเสียหายเหตุที่ร.ต.สนานจมน้ำเสียชีวิตระหว่างฝึกหลักสูตรทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (UKBT) รุ่นที่ 11 โดยเมื่อวันที่ 13-15 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมาศาลแพ่งสืบพยานโจทก์ ในคดีนี้ (คดีหมายเลขดำที่ พ.2580/2559) โจทก์ซึ่งเป็นมารดาและภรรยา ร.ต.สนาน ฟ้องว่า หลักสูตรดังกล่าวได้จัดให้มีการทดสอบความสามารถโดยการว่ายน้ำ โดยมีเจ้าหน้าที่ในสังกัดของกองทัพบกเป็นครูฝึกและมีหน้าที่ในการกำกับดูแลการฝึก ขณะเกิดเหตุผู้ตายถูกบังคับให้ว่ายน้ำไป-กลับภายในสระว่ายน้ำโดยไม่มีการหยุดพักหลายสิบรอบ ซึ่งเกินกำลังความสามารถที่ร่างกายจะรับได้ เป็นเหตุให้ร้อยตรีสนานจมลงไปก้นสระเป็นเวลานาน โดยที่ครูฝึกซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้เข้ารับการฝึกกลับปล่อยปละละเลยไม่เข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

โดยในนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 13 มิ.ย. มีพยานคือ แพทย์โรงพยาบาลทหารผ่านศึกซึ่งเป็นแพทย์รับตัวผู้ตายซึ่งเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในวันเกิดเหตุ โดยมีแพทย์สนามและผู้บังคับบัญชานำส่งที่โรงพยาบาล ขณะนั้นตรวจพบว่าร้อยตรีสนานฯ ไม่มีสัญญาณชีพ แพทย์จึงทำการกดนวดหัวใจ ใส่ท่อช่วยหายใจ และให้ยากระตุ้นหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ ในขณะใส่ท่อหายใจปรากฏว่ามีน้ำและเศษอาหารจำนวนมากอยู่บริเวณหลอดลมและกล่องเสียงของผู้ตาย และตามเวชระเบียนในส่วนบันทึกแรกรับของพยาบาลระบุว่าผู้ตายจมน้ำ 10 นาที

ในนัดสืบพยานวันที่ 14 มิ.ย. โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นมารดาและภรรยาของร้อยตรีสนาน ผู้ตาย ขึ้นเบิกความเป็นพยาน ได้ความว่า ขณะผู้ตายมีชีวิตอยู่ผู้ตายเป็นทหาร สังกัดกองทัพบก ในช่วงเวลาว่างหรือวันหยุดราชการได้ช่วยกิจการเลี้ยงสุนัขของโจทก์ที่ 2 และกิจการก่อสร้างของมารดาโจทก์ที่2 รายได้จากการที่รับราชการและรายได้จากช่วยเหลือกิจการต่างๆ นั้นได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ทั้งสองตลอดมา เมื่อร้อยตรีสนานเสียชีวิตทำให้โจทก์ทั้งสองขาดผู้อุปการะ ภรรยาร้อยตีสนานเบิกความถึงเหตุการณ์ที่ได้รับฟังจากทหารเพื่อนผู้ร่วมฝึกกับผู้ตายว่า ในวันเกิดเหตุมีการทดสอบว่ายน้ำตามหลักสูตร ร้อยตรีสนาน ซึ่งมีความสามารถต่ำในการว่ายน้ำเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมรุ่น ได้ว่ายน้ำจนบุคคลอื่นสามารถเห็นได้ว่าไม่สามารถว่ายน้ำต่อได้แล้ว และร้อยตรีสนานพยายามขอครูฝึกขึ้นจากน้ำ แต่ครูฝึกไม่ยอมให้ขึ้นเพราะยังไม่ครบจำนวนรอบ และบังคับด้วยการใช้เชือกที่ร้อยเครื่องชูชีพฟาดที่ร่างกายร้อยตรีสนาน กระตุ้นให้ว่ายน้ำต่อ อีกทั้งครูฝึกได้ลงไปในสระว่ายน้ำและอยู่ข้างตัวผู้ตายเพื่อบังคับให้ผู้ตายว่ายน้ำต่อไปในขณะผู้ตายพยายามจะคว้าตัวครูฝึกไว้เพื่อพยุงตัว แต่ครูฝึกก็ถอยออกไม่ให้เข้าใกล้และบังคับให้ว่ายน้ำต่อไป จนกระทั่งต่อมาร้อยตรีสนานว่ายน้ำไปไม่ไหวจมลงในสระว่ายน้ำ ซึ่งโจทก์ที่ 2 ยืนยันว่าการตายของสามี เกิดจากการกระทำของครูฝึกและปล่อยให้จมน้ำเป็นเวลานาน ไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ในนัดสืบพยานวันที่ 15 มิ.ย. เป็นการเบิกความของแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นแพทย์ผู้ผ่าและจัดทำรายงานตรวจศพของผู้ตายขึ้นเบิกความ โดยพยานปากดังกล่าวเบิกความว่า เขาเป็นหนึ่งในคณะแพทย์ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้ผ่าพิสูจน์ศพร้อยตรีสนาน ภายหลังจากมีการผ่าพิสูจน์โดยแพทย์นิติเวชของโรงพยาบาลตำรวจมาแล้ว ผลการผ่าพิสูจน์พบว่าผู้ตายมีรอยซ้ำเลือดอยู่บริเวณใต้หนังศีรษะขนาด 5X7 เซนติเมตร ซึ่งเกิดจากการถูกกระแทกโดยของแข็งไม่มีคม จากประวัติการรักษาของแพทย์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ประกอบกับผลการผ่าพิสูจน์โดยละเอียดแล้ว ระบุได้ว่าร้อยตรีสนานเสียชีวิตจากสาเหตุการจมน้ำเป็นเวลาเกินกว่า 5 นาทีขึ้นไป ส่งผลให้ระบบหัวใจล้มเหลว สมองขาดออกซิเจน และทำให้เกิดภาวะคั่งเลือดที่สมอง ตับ และไต และคนปกติทั่วไปก่อนจะจมน้ำจะมีท่าทางซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้คนภายนอกสังเกตเห็นได้ว่าบุคคลนั้นไม่สามารถว่ายน้ำต่อไปได้

ในวันสืบพยานโจทก์ดังกล่าวโจทก์ยังคงติดใจต้องการสืบพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารผู้เข้ารับการฝึกและสิบเวรพยาบาลในวันเกิดเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ศาลได้ออกหมายเรียกพยานปากดังกล่าวแล้ว แต่พยานไม่ได้รับหมายและไม่มาศาล ทนายความโจทก์ทั้งสองจึงทำคำร้องขอให้ศาลออกหมายเรียกพยานปากดังกล่าวอีกครั้ง ให้มาเบิกความต่อศาล โดยมีนัดสืบพยานโจทก์จำนวน 3 ปาก ในวันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายน 2560 และนัดสืบพยานจำเลยจำนวน 2 ปาก ในวันที่ 16 พฤศจิกายน ณ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก



ติดตามรายงานการสืบพยาน

อ่านข่าวเก่าที่เกี่ยวข้อง

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.