Nithinand Yorsaengrat

ขอพลีชีพแสดงความเห็นแบบยอมให้ปาหัวเลือดอาบว่า ไม่รู้สึกหงุดหงิดกับปาฐกถา "การเมืองไทย 4.0" ของเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ด้วยหลายสาเหตุ

1. อาจเพราะเป็นคนรุ่นไล่ๆกันกับพี่เสก โตทันกัน เห็นมานานแล้วว่าพี่เสกเป็นคนมีมาด "พระเอก" ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว แต่ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องมองเห็นพี่เสกเป็นพระเอก เห็นพี่เสกเป็นพี่ที่รักเคารพคนหนึ่ง มีไมตรีต่อกันมายาวนานคนหนึ่ง เป็นคนคนหนึ่งเหมือนเราและคนอื่นๆก็พอแล้ว


2. เราคิดว่าเสกสรรค์มีสิทธิพูดในงานรัฐศาสตร์ มธ. ทั้งในฐานะอดีตนักศึกษา อดีตอาจารย์ประจำและอดีตคณบดี ไม่คิดว่า "แก่แล้วควรจะอยู่แบบแก่ๆไปเถอะ ถ้าไม่มีอะไรแหลมคมจะพูด" กล่าวคือมันอาจไม่แหลมคมในทัศนะคนรุ่นหลัง แต่คนที่ฟังแล้วไม่เห็นว่าเลวก็มี และไม่เห็นด้วยกับการเหยียดหยามคนแก่

3. ไม่เคยคาดหวังว่าจะต้องได้ฟังอะไรที่ดีเลิศจากใคร จึงเฉยๆไม่โกรธ ไม่ผิดหวัง และเท่าที่อ่านจากข่าว ก็เห็นว่าเนื้อหาโดยรวมดี

4. ไม่คิดว่าถูกเสกสรรค์ด่าและถึงถูกด่าก็ไม่โกรธ ไม่ใช่เพราะมึนชาแต่เพราะมีความเห็นว่า การวิจารณ์โดยรวมเป็นการวิจารณ์ทั่วไป ไม่ได้เจาะจงด่าเรา และเราไม่ได้ทำถูกทุกเรื่อง ถ้ามีคนว่ามาเราก็พิจารณา ใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ทุกคนมีสิทธิมองและวิจารณ์ เรามีสิทธิเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ส่วนที่ว่า พูดจาลอยตัวเป็นพระเอก อันนั้นก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาไหนที่เขาเสนอมาก็คัดค้านไป โจมตีไป

5. เข้าใจคนรุ่นหลังที่ผิดหวังและหมั่นไส้จนถึงเกลียดคนรุ่น 14 ตุลา 6 ตุลาโดยเฉพาะพวกที่ได้รับยกย่องเป็นฮีโร่อย่างมาก แต่อยากบอกคนรุ่นหลังเหมือนกันว่าคนรุ่นนั้นหลายคนไม่เคยคิดว่าคนรุ่นตนเป็นฮีโร่ มองว่าเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นตามวาระของมัน เหมือนที่คนวันนี้ก็กำลังต่อสู้กับความอยุติธรรม

6.ได้ยินว่าอาจารย์เกษียร เตขะพีระ พูดในงานเดียวกันนี้ได้น่าสนใจมาก กำลังจะไปตามฟังตามอ่าน แต่ยังไปไม่ถึงเพราะเจอดราม่าอาจารย์เสกสรรค์ เลยแวะดูก่อน เพราะ...เช่นเคย... เหมือนกรณี "สแตนดาร์ด" พอเราบอกว่าไม่รู้สึกร่วมกับดราม่า ก็ถูกตำหนิด้วยเสียงผิดหวังรำคาญใจเหมือนกัน แต่ไม่ว่าอะไร เข้าใจได้ และไม่ "วอร์" ไม่ "ไฝว้" ด้วย แบบว่าเป็นคนเกียจคร้านในการไฝว้ พลังและเวลามีน้อย ใช้สอยประหยัด :)


Atukkit Sawangsuk


ใจเดียวกับพี่ป้อมแฮะ เสกสรรค์นี่บางคนว่าแกท่ามาก "อธิบดีกรมเจ้าท่า" แต่ผมมองว่าเพราะแกถูกยก "ขึ้นหิ้ง" ในฐานะตัวแทนคนรุ่น 14 ตุลา และความที่แกมีเพื่อนพ้องมาก ทั้งแดงทั้งเหลืองนั่นแหละ ยังเคารพนับถือเป็นพี่เป็นน้องมากมาย แกเลยต้องระวังมากเวลาแสดงความคิดเห็น

"เข้าใจคนรุ่นหลังที่ผิดหวังและหมั่นไส้จนถึงเกลียดคนรุ่น 14 ตุลา 6 ตุลาโดยเฉพาะพวกที่ได้รับยกย่องเป็นฮีโร่อย่างมาก แต่อยากบอกคนรุ่นหลังเหมือนกันว่าคนรุ่นนั้นหลายคนไม่เคยคิดว่าคนรุ่นตนเป็นฮีโร่ มองว่าเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นตามวาระของมัน เหมือนที่คนวันนี้ก็กำลังต่อสู้กับความอยุติธรรม"

อันนี้ก็ใช่นะครับ คนเสื้อแดงรุ่นใหม่มอง 14 ตุลาผิดๆ บางคนเพ้อเจ้อเห็นเป็น conspiracy ด้วยซ้ำ ทั้งที่มีคำถามแค่ว่าในวันนั้นคุณจะไล่เผด็จการไหม ไล่แล้วจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้หรอก รู้แต่ว่าต้องไล่ แล้วไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เหมือนคณะราษฎร 2475 (ซึ่งภายหลังก็แยกเป็นปรีดี เป็นจอมพล ป. เป็นควง ก่อตั้งพรรค ปชป.) แต่ไม่มี 2475 ก็ไม่มีวันนี้ ไม่มี 14 ตุลาก็ไม่มีวันนี้ เหมือนคุณต่อสู้วันนี้ ในทางประวัติศาสตร์ อีก 40 ปี ก็อาจเห็นต่างกัน ก็อาจมีคนรุ่นหลังบอกว่าคุณพลาดไปบางอย่าง มันน่าจะดีกว่านี้เนาะ ฯลฯ

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.