นายชำนาญ จันทร์เรือง นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์ กล่าวถึง คำถาม 4 ข้อ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า นี่คือความสำเร็จในการดึงความสนใจของประชาชน หากย้อนกลับไป วันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแถลงผลงานรัฐบาลตลอดทั้งปี แต่พอไม่มีผลงาน ก็เลยมาพูดเรื่องคำถาม 4 ข้อ สังคมก็เชื่อตาม ไปหาคำตอบกันใหญ่ รัฐบาลก็ลอยตัว นี่เอง คือนัยยะของคำถาม 4 ข้อ ไม่จำเป็นต้องไปคิดไกล

สำหรับอนาคตการเมืองหลังจากนี้ นายชำนาญ ระบุว่า ในระยะใกล้ อย่าไปฝันว่าจะมีพรรคโตเดี่ยว ได้เสียงเกินครึ่ง คุมสภาเด็ดขาด เพราะมันถูกบล็อกด้วยระบบเลือกตั้ง แถมเขายังมีกลุ่ม ส.ว. อีก 250 เสียง

เมื่อถามถึงอนาคตของพรรคการเมือง นักวิชาการอิสระ มองว่า ทั้งเพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์ ต้องทบทวนตัวเอง พรรคเพื่อไทยมีจุดแข็งที่นโยบาย แต่เชื่อคนง่าย หวังว่าในอนาคตจะคิดให้มากขึ้น ด้านพรรคประชาธิปัตย์ ก็หวังใช้ทหารเป็นทางลัดเข้าสู่อำนาจ ทั้งที่ก็ถูกเขาเตะทิ้งออกมาทุกครั้ง ก็หวังว่าจะเรียนรู้ ตอนนี้ฝ่ายประชาชนเข้มแข็งแล้ว รอผู้นำพรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ล้วนมีศักยภาพจะเป็นผู้นำ แต่ต้องพัฒนาตัวเอง

สำหรับอนาคตการเมืองไทยระยะยาว นายชำนาญ เชื่อว่า บ้านเมืองมีทางออก 2 ทาง คือ รัฐประหาร เพราะรัฐธรรมนูญ มันไม่อนุญาตให้ประเทศไปต่อ อีกทางคือประชาชนลุกฮือ เพราะประชาชนทนกับความยากจนไม่ไหวแล้ว กลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย ก็ลุกมาเปลี่ยนแปลงเอง อย่างหลั เกิดขึ้นมาแล้วทั่วโลก อาหรับสปริงส์ ติมอร์เลสเต ประชาชนทนความยากจนไม่ไหว ก็ลุกขึ้นมา ไทยเองก็เคยเกิดขึ้น ตัวอย่างคือ อภิวัฒน์สยาม 2475

“ปัจจุบันนี้ฝ่ายผู้มีอำนาจเริ่มเสื่อมความขลัง และสร้างศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อก่อนฝ่ายตรงข้าม ก็คือ เสื้อแดง พรรคเพื่อไทย เดี๋ยวนี้นายทุนกลุ่มก่อสร้าง ก็เริ่มจะไม่หนุนแล้ว เพราะคุณกำลังจะให้จีนเข้ามาแบ่งเค้กก่อสร้างรถไฟ คิดว่า กลุ่มก่อสร้างไทยจะยินดีหรือ” นายชำนาญกล่าว

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.