คนอุบลฯ โวยงบประชารัฐไม่โปร่งใส ชี้ ผญบ. ปลอมเอกสาร ผญบ.โต้ไม่ได้โกงและมีพยานบุคคล

Posted: 13 Jun 2017 03:02 AM PDT   (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ชาวบ้านหนองสองห้อง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ร้องภาครัฐฯโครงการประชารัฐไม่โปร่งใส อ้างผู้ใหญ่บ้านปลอมแปลงลายมือชื่อเบิกงบ 5 แสนบาท นำเงินไปต่อเติมบ้านตนเอง ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านยืนยันมีการจัดประชาคม แต่ชาวบ้านไม่ให้ความร่วมมือ พร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ใจต่อเติมบ้านเพื่อทำร้านค้าชุมชน

12 มิ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหนองสองห้อง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และผู้ใหญ่บ้านหนองสองห้อง ได้เดินทางไป สภ.วารินชำราบ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านได้มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบเอกสารในการเบิกงบจากการโครงการประชารัฐจำนวน 500,000 บาท ซึ่งชาวบ้านตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการเบิกงบที่ไม่ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากว่าไม่มีกระบวนการจัดประชาคมขอความคิดเห็นจากชาวบ้านก่อน โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลเพียงแค่ว่า กรณีดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบรายมือชื่อ ต้องรอการพิจารณาต่อไป

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องมาจากวันที่ 30 ก.ย. 2559 ชาวบ้านหนองสองห้องกว่า 50 ราย เดินทางไปร้องเรียนที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากมีข้อกังวลว่ามีการเบิกจ่ายงบประชารัฐโดยไม่ชอบ ซึ่งชาวบ้านจำนวนหนึ่งเชื่อว่าผู้ใหญ่บ้านได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปต่อเติมบ้านของตนเอง

จตุพร สังเพชรรัตน์ ตัวแทนชาวบ้านบ้านหนองสองห้อง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ทราบเรื่องงบประชารัฐจากหมู่บ้านใกล้เคียง แต่หมู่บ้านของตนกลับไม่มีการประชาคมเรื่องงบประชารัฐจากผู้นำหมู่บ้าน จึงไปสอบถามสำนักงานกองทุนหมู่บ้าน (สทบ.8) อ.วารินชำราบ ได้ความว่าทางผู้ใหญ่บ้านเบิกเงินไปแล้ว 500,000 บาท จากนั้นตนและชาวบ้านได้ไปตามเรื่องที่อำเภอพร้อมทำหนังสือยื่นต่อเจ้าหน้าที่ แต่ได้ความว่าหากไม่ได้เป็นคณะกรรมการหรือสมาชิกในกองทุนหมู่บ้านไม่สามารถดูข้อมูลได้ จึงให้ผู้ที่เป็นสมาชิกเป็นคนเขียนหนังสือเพื่อไปขอดูโครงการ แต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูล ชาวบ้านจึงเขียนหนังสือไปถึงผู้ใหญ่บ้าน 5 ข้อ คือ 1.บ้านผู้ใหญ่บ้านที่กำลังทำอยู่เป็นเงินส่วนตัวใช่ไหม 2. โครงการเงินประชารัฐ 500,000 บาท ผู้ใหญ่บ้านได้นำเงินออกมาแล้วใช่ไหม 3. ยังอยู่ครบหรือเปล่า อยู่กับใคร 4. นำหลักฐานมาแสดงได้ไหม 5. ทำไมถึงไม่แจ้งให้ชาวบ้านทราบ แจ้งหอประกาศด้วย แต่จนถึงสิ้นเดือนกันยายนก็ยังไม่มีประกาศกลุ่มชาวบ้านจึงไปศาลากลางจังหวัดไปร้องเรียนผู้ว่าผู้ใหญ่บ้านเอาวาระการประชุมรายชื่อเท็จไปทำโครงการนำเงินประชารัฐมาสร้างบ้านตนเอง

“การตรวจสอบไม่เป็นไปในทางที่โปร่งใส ทางอำเภอก็บ่ายเบี่ยงที่จะเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งเกี่ยงความรับผิดชอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีฝ่ายไหนที่จะทำให้เรื่องกระจ่าง แต่กลับทำให้เรื่องมันแย่ลง ทั้งๆ ที่เราเป็นคนในหมู่บ้านกลับไม่สามารถทราบรายละเอียดโครงการเลย ผิดกลับหมู่บ้านใกล้เคียงที่โครงการเป็นไปอย่างโปร่งใส ชาวบ้านในหมู่บ้านรับรู้ทุกอย่าง แต่หมู่บ้านเราทำเป็นเหมือนความลับที่ชาวบ้านไม่มีสิทธิอะไรเกี่ยวกับโครงการเลย”จตุพรกล่าว

ศุภชัย นามแก้ว ให้ข้อมูลว่า รายชื่อที่ผู้ใหญ่บ้านส่งให้ สทบ.8 เพื่อไปเบิกเงินโครงการประชารัฐหมู่บ้านละ 500,000 บาท เจ้าหน้าที่เเจ้งว่ามีคนมาประชุมทั้งหมด 66 คนในวันที่ 16 เม.ย. 2559 ซึ่งบางรายชื่อมีชื่อซ้ำกัน และบางรายชื่อมีลักษณะที่ผิดสังเกต

ด้าน อภัย สุกัญตั้งใจ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองสองห้อง อ.วารินชำราบ จ,อุบลราชธานี กล่าวยืนยันว่า ตัวเองบริสุทธิ์ใจ และสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงยังมีพยานบุคคลมากกว่า 80 คนที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนได้ว่า มีการประชาคมชาวบ้าน และมีมติให้ทำโครงการดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 มี.ค. 2560 และกรรมการโครงการได้คืนเงินไปแล้ว ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นเงินที่ใช้ในการมัดจำค่ารับเหมาก่อสร้าง และมัดจำสินค้าที่จะนำมาขายในร้านค้าชุมชน แม้จะคืนเงินไปแล้วแต่ชาวบ้านยังไม่ยอมยุติเรื่องราว อภัยยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะชาวบ้านบางส่วนกลัวว่าร้านค้าชุมชนจะขัดผลประโยชน์ต่อธุรกิจส่วนบุคคล

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ หรือกองทุนหมู่บ้านประชารัฐ หมู่บ้านละไม่เกิน 500,000 นี้สืบเนื่องมาจากมติคณะรัฐมนตรีที่ออกมาเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2559 ซึ่งกระทรวงการคลังเสนอให้มีการใส่เงินให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จำนวน 79,556 กองทุนๆ ละ ไม่เกิน 5 แสนบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้แต่ละหมู่บ้านนำเงินทุนนี้ไปดำเนินการเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลการเกษตร โรงสีชุมชน แหล่งเก็บน้ำ เครื่องจักรสำหรับแปรรูปผลผลิตการเกษตร หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ชุมชนเห็นว่ามีประโยชน์ในการส่งเสริมศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ของชุมชน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.