Atukkit Sawangsuk

อ่านปาฐกถาเสกสรรค์แล้วก็รู้สึกฉงนที่หลายคนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ขณะที่ผมไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ชอบเสียด้วยซ้ำว่ามีการวิเคราะห์เป็นระบบ แม้หลายคนอาจบอกว่าไม่ใหม่อะไร ก็เหมือนตอนแกปาฐกถา 40 ปี 14 ตุลา พูดดีก็ยังโดนด่านิ

https://prachatai.com/journal/2017/06/72004

ข้อแรก อาจเพราะผมไม่ได้เรียกร้องอะไรแกมาก ก็แกวางมือไปเยอะแล้ว ถอยไปอยู่ในสถานะผู้สังเกตการณ์ เหมือนคนเกษียณมาสิบกว่าปี เป็นแค่บุคคลในประวัติศาสตร์ นานๆ จะรวบรวมข้อสังเกตมานำเสนอสักทีหนึ่ง ทำไมจะต้องโวยวายทำนองว่าพวกกูสู้กันแทบตาย เสกสรรค์เป็นใครมาวิจารณ์ ใหญ่มาจากไหน อาศัยบุญเก่า 14 ตุลา ฯลฯ (คือถ้าคุณไม่แคร์แก ก็ไม่เห็นต้องฟัง นี่แสดงว่าแคร์ 55) ฉะนั้นสำหรับผม ปาฐกถาของเสกสรรค์ในภาพรวม ผมถือว่ามีคุณค่า มีแง่มุมให้คิด และมีน้ำหนักต่อสังคม โดยไม่จำเป็นต้องบอกว่า เฮ้ย แน่จริงเสกสรรค์ต้องโดดมาสู้กับกรู

ข้อสอง ประเด็นที่เสกสรรค์วิจารณ์ฝ่ายประชาธิปไตย (ด้วยความเกรงใจ ฮิฮิ แกก็รู้ไง ว่าแตะยาก) ถ้าถอยออกมามองในภาพรวมมันก็ถูกนะครับ ก็รู้กันอยู่แก่ใจ เอาหนึ่งสู้สิบแล้วนั่งภูมิใจกับความพ่ายแพ้ มันก็ไม่มีทางชนะได้ การไม่สามารถผนึกกำลังเป็นกลุ่มก้อน ก็เป็นความจริง ผมเห็นด้วยว่าความเป็นปัจเจกมีสูงมาก "บางท่านใช้เวลาในการวิพากษ์วิจารณ์ โต้แย้ง หรือเสียดสี ตรวจสอบคุณสมบัติของปัญญาชนด้วยกัน มากกว่าจะสร้างขบวนทางปัญญาที่มีพลัง" อันนี้ก็จริง เห็นบ่อยไป แดงกับแดงนี่แหละ ซัดกันเองบ่อยไป เรื่องเล็กก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วยซ้ำ

เฮ้ย พูดอย่างนี้ผมก็ด้วย ผมนี่ละตัวยงเลย แม้พยายามหลบๆ เรื่องทะเลาะกันเอง แต่ถ้าบอกว่ารังเกียจการเมืองภาคประชาชนเพราะแกนนำเคยต่อต้านรัฐบาลจากเลือกตั้ง ผมนี่แหละ ด่าพวก NGO เสื้อเหลืองประจำ จิกไม่ปล่อย ทั้งที่รู้แก่ใจว่า หลักการต่อสู้คือต้องสร้างแนวร่วม

แล้วทำไมผมไม่เห็นโกรธ เมื่อฟังแกวิจารณ์ ด้านหนึ่ง ผมก็เห็นว่าแกพูดถูกในทิศทางใหญ่ อีกด้านหนึ่ง ผมก็เห็นว่าเมื่อลงสู่การปฏิบัติ มันมีรายละเอียดมีมุมมองของผม ซึ่งแตกต่างไป แต่ไม่จำเป็นต้องไปด่าคนวิจารณ์ แบบไม่ใช่คนทำหนังอย่าเสือกมาวิจารณ์กรู ต่อให้วิจารณ์ด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าไม่ได้สู้กับกรูอย่ามาอวดเก่ง คนรุ่นตกยุค แน่ซักแค่ไหนวะ ฯลฯ (สงสัยบังเอิญเป็นคนยุคเดียวกัน ฮิฮิ ไม่เก่งเท่าคนรุ่นใหม่)

ในภาพรวม ผมก็รู้ไงว่าสิ่งที่แกวิจารณ์ ในการปฏิบัติจริงมันทำได้ยาก แม้รู้ว่าต้องไปถึงจุดนั้นถึงจะทำสำเร็จ แต่ผมก็ไม่ค่อยซีเรียส (และไม่ซีเรียสกับคำวิจารณ์) คือผมคิดว่าการเกิดจุดร่วมหรือการดึงคนส่วนใหญ่มันจะค่อยๆ เกิดเอง เหมือนพวก NGO เสื้อเหลือง ซ้ายเก่า อดีตสหายทั้งหลายนั่นแหละ (ถ้าไม่ใช่พวกเฮี่ยจริงๆนะ) มันจะถูกบีบให้ต้องมีจุดร่วมอยู่ดี ระหว่างนี้ก็จิกด่าไปพลางๆ ก่อน 🤣🤣🤣 แต่เรื่องที่ร่วมก็ร่วมได้นิ เหมือน 30 บาท แหละ ผมก็เข้าข้าง NGO ไปพร้อมกับจิกกัดไม่ปล่อย ไม่เห็นเป็นไร เอาผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ถ้าต่างคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมมันก็มีจุดร่วมได้อยู่ดี

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.