Atukkit Sawangsuk

ประเทศเปรี้ยวๆ ด่าสื่อ ด่าชาวบ้าน ว่าเห็นฆาตกรเห็นคนทำผิดกฎหมายเป็นเน็ตไอดอล อ้าวเฮ้ย ทีคนฉีกรัฐธรรมนูญยังเป็นไอดอล คนสั่งฆ่า100 ศพยังลอยนวล


ก่อนจะด่าใคร ก่อนจะโทษตำรวจชั้นผู้น้อยถ่ายเซลฟี ดูด้วยไหมว่าพวกบิ๊กๆ ใหญ่ๆ ก็โหนกระแส ผู้หญิง 3 คนพม่าส่งตัวมา แห่ลงชื่อในบันทึกจับกุมเกือบร้อย (ผ่าป่าอีเปรี้ยว แบ่งส่วนบุญ) แล้วแทนที่จะเอาไปขอนแก่นต้องเอามาแถลงที่กรุงเทพฯ ให้ ผบ.ตร.โชว์สื่อ

มองเรื่องเปรี้ยวในแง่จิตวิทยาสังคมเบื้องต้น เราเข้าสู่สังคมออนไลน์ ทุกคนเป็นบุคคลสาธารณะได้ แค่โพสต์ภาพโพสต์ข้อความผ่านมือถือ หลังถูกชี้ตัวว่าเป็นฆาตกร เปรี้ยวก็กลายเป็นบุคคลสาธารณะ เพราะคนแห่ไปดู ไปทำความรู้จักด้วยตัวเอง เห็นทุกแง่มุม จนกลายเป็น "เรียลลิตี้" ซึ่งโลกยุคก่อนไม่มีอย่างนี้ แล้วสื่อก็เอามาขยาย สื่อไทยนะ ไม่ใช่แค่ค้นหาความจริง แต่ค้นหาดรามาด้วย พอเจอจุดสะเทือนใจก็แช่กล้อง พิธีกรก็ตอกย้ำ ไม่งั้นจะทำเรตติ้งสู้ละครหลังข่าวได้เรอะ

มองขึ้นมาอีกมุมหนึ่ง ประเทศเปรี้ยวๆ นี้ก็เป็นประเทศดรามา ชอบโลกเสมือนจริง เพราะโลกจริงๆ มันน่าเบื่อ สิ้นหวัง ไม่เห็นอนาคตไปเสียทุกอย่าง รายการคืนวันศุกร์ก็ไม่มีคนฟัง พากันอยู่ในโลกดรามา ดูละครหลังข่าว แห่กรี๊ดดารา กดไลค์กดแชร์ตาม fb ig รายการทีวีก็มีแต่ขายดารา พาไปถึงบ้าน เจาะชีวิต ตามติดได้ 24 ชม. เหลือ 2 อย่างคือไม่ให้ดูตอนขี้กับตอนปี้กัน รายการใส่หน้ากากก็เป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ น้ำท่วมรถติดเศรษฐกิจแย่ช่างหัวมัน สุดท้ายก็เอาโลกดรามากับโลกจริงมาปนกัน ในกระแสออนไลน์ ไม่ได้บอกว่าผิดนะ แต่สนใจกระทะวู้ดดี้เรื่องเดียว ไม่สนใจคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องอื่น สนใจเบนซ์ เรซซิง แพท ปณภา มากกว่าการไล่จับเครือข่ายค้ายา (แล้วกระบวนการยุติธรรมก็ชอบตามแห่โชว์ฟอร์มกับข่าวดัง)

นั่นละครับ พ้นข่าวอีเปรี้ยวเดี๋ยวก็มีดรามาใหม่ แห่ตามลืมเป็นลืมตาย เพราะแบบนี้ไงถึงอยู่มาได้ 3 ปี อย่าไปด่าชาวบ้านเลย (แต่ระวังดรามาเข้าเนื้อ แบบฝายแม่ผ่องพรรณ แบบทัวร์ฮาวาย แบบรถกระบะ เจอบ่อยๆ ก็อ่วมเหมือนกันนะ 555)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.