Posted: 19 Jun 2017 09:17 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท) 

เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย รณรงค์เนื่องในวันเฉลิมฉลองวันลูกจ้างทำงานบ้านสากล พร้อมประสัมพันธ์ช่องทางการเข้าถึงข้อมูลด้านแรงงานผ่าน Application ที่ชื่อว่า Smart Domestic Workers


เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านคนไทย (Network of Thai Domestic Workers in Thailand -NTDW) ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 350 คน และ เครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านข้ามชาติ (Network of Migrant Domestic Workers in Thailand -NMDW) มีสมาชิกก่อตั้งประมาณ 30 คน ปัจจุบันสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 140 คน ได้จัดให้มีกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันครอบรอบ “วันเฉลิมฉลองวันลูกจ้างทำงานบ้านสากล” ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มิ.ย.ของทุกปี โดยปีนี้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นวันหยุดของกลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านในเมืองไทย

รายงานข่าวระบุว่า กิจกรรมที่เกิดขึ้นวานนี้ (18 มิ.ย.60) คือการให้กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านได้มีโอกาสเข้าไปพบปะพูดคุยและให้ข้อมูลเรื่องกฎกระทรวงแรงงานและช่องทางการรับข้อมูลข่าวสารด้านแรงงานกับคนทั่วไป 4 จุดพร้อมๆกันคือ สยามเซ็นเตอร์ แยกอโศกมนตรี สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร และสวนรถไฟ กรุงเทพ


พรรณี โทวกุลพานิชย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ (HomeNet Thailand) กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้กลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านได้ออกมาประชาสัมพันธ์และให้ข้อมูลทั้งกับลูกจ้างทำงานบ้านด้วยกันเอง นายจ้าง และสาธารณะทั่วไป ทราบและเห็นความสำคัญเกี่ยวกับกฎกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะประเด็นที่ได้ระบุไว้ในกฎกระทรวงฉบับปัจจุบันเกี่ยวกับวันหยุด-วันลา ของลูกจ้างทำงานบ้าน นอกจากนี้แล้ว การออกมารณรงค์ครั้งนี้ ยังเป็นการออกมาประสัมพันธ์ถึงช่องทางการเข้าถึงข้อมูลด้านแรงงานผ่าน Application ที่ชื่อว่า Smart Domestic Workers ซึ่งเป็น Application ที่ให้ข้อมูลด้านแรงงานซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้างทำงานบ้านที่เป็นคนไทยและคนเมียนมาร์

เพชรียา คำยอด สมาชิกเครือข่ายลูกจ้างทำงานบ้านในประเทศไทย กล่าวทิ้งท้ายช่วงจบงานรณรงค์วานนี้ว่า การรณรงค์ครั้งนี้ ทำให้สรุปได้ว่า จำนวนลูกจ้างทำงานบ้านและคนทั่วไปที่สามารถเข้าถึงและทราบข้อมูลของกฎกระทรวงแรงงานมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่ารัฐเองอาจจะต้องทำงานด้านการประสัมพันธ์ให้คนในประเทศสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกและมากยิ่งขึ้นกว่าปัจจุบัน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.