Posted: 02 Jun 2017 07:28 AM PDT    (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

กก.สอบข้อเท็จจริง ชี้ 'ไทยพีบีเอส' สามารถ ซื้อตราสารหนี้ บ.ซีพีเอฟ ได้ ระบุยังไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน และไม่ได้ขัดแย้งกับหลักธรรมาภิบาล


2 มิ.ย. 2560 กรณีเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวว่าไทยบีพีเอสลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (ซีพีเอฟ) ล่าสุดวานนี้ (1 มิ.ย.60) เว็บไซต์ไทยพีบีเอส เผยแพร่ คำชี้อแจ้งของ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายได้มีคำสั่งองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการซื้อตราสารหนี้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) นั้น

บัดนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ได้รายงานผลการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อคณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการนโยบายเห็นว่าผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ สอดคล้องกับมติของคณะกรรมการนโยบายในคราวประชุมครั้งที่ 8/2560 เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2560 ดังนี้

ประการที่หนึ่ง พิจารณาจากพระราชบัญญัติองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 แล้ว ส.ส.ท. สามารถซื้อหุ้นกู้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้ แม้ว่าคณะผู้บริหารยังมิได้ดำเนินการให้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามที่กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้

ประการที่สอง การซื้อหุ้นกู้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ยังไม่ปรากฏหลักฐานที่จะชี้ให้เห็นได้ว่า การซื้อหุ้นกู้ครั้งนี้มีผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน เนื่องจากราคาซื้อ-ขาย เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับรายอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน

ประการที่สาม การซื้อหุ้นกู้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ขัดแย้งกับหลักธรรมาภิบาล เกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของสื่อสาธารณะที่กำหนดไว้ในข้อบังคับองค์การฯ ว่าด้วยจริยธรรมของกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน พ.ศ. 2551 และข้อบังคับองค์การฯ ว่าด้วยจริยธรรมของวิชาชีพเกี่ยวกับการผลิตและการเผยแพร่รายการ พ.ศ. 2552

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายกำลังดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ โดยเฉพาะ ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการติดตามและกลั่นกรองการบริหารจัดการ การเงินและการหารายได้แล้ว

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.