Posted: 06 Jun 2017 10:37 AM PDT   (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

โดนัลด์ ทรัมป์ ทวิตเป็นนัยหนุนคว่ำบาตรกาตาร์ ขณะที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ จะใช้ฐานทัพในกาตาร์ปฏิบัติภารกิจต่อไป ด้านซาอุดิอาระเบียหัวหอกในการนำชาติอาหรับคว่ำบาตรล่าสุดปิดสำนักงานของกาตาร์แอร์เวย์ รวมทั้งสื่ออย่างอัลจาซีรา ส่วนอิหร่านประกาศส่งสินค้าประเภทอาหารให้กาตาร์ ขณะที่ภาคธุรกิจกาตาร์ยังอ่วม ขนสินค้าไปขายทางเรือไม่ได้ สายการบินต้องระงับเที่ยวบิน


นครโดฮาร์ ประเทศกาตาร์ ภาพถ่ายในปี 2014 (แฟ้มภาพ/JanManu/Wikipedia)


ภาพเมื่อคืนวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 23.57 น. ตามเวลา UTC แสดงสภาพการจราจรทางอากาศหลังชาติอาหรับนำโดยซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ ยูเออี บาห์เรน เยเมน ลิเบีย รวมทั้งมัลดีฟส์ ตัดความสัมพันธ์การทูตและเศรษฐกิจต่อกาตาร์ ซึ่งมีผลต่อการปิดน่านฟ้าด้วย โดยในภาพเที่ยวบินจากกาตาร์ต้องบินขึ้นไปในทิศเหนือมุ่งหน้าไปทางน่านฟ้าอิหร่านซึ่งยังคงมีความสัมพันธ์การทูตปกติแทน (ที่มา: Flightradar24.com)

6 มิ.ย. 2560 สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ที่ซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน เยเมน ลิเบียและประเทศนอกภูมิภาคตะวันออกกลางอย่างมัลดีฟส์ ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับกาตาร์ โดยมีเหตุผลว่าเป็นการปกป้องความมั่นคงของรัฐ โดยสำนักข่าวของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ระบุต้นเหตุว่า เป็นเพราะกาตาร์ “ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายและกลุ่มลัทธิต่างๆที่มุ่งหวังจะสร้างความไม่มีสเถียรภาพในภูมิภาค” โดยหลายประเทศมีมาตรการปิดชายแดนทั้งทางบก เรือ อากาศ บีบชาวกาตาร์ให้เดินทางกลับประเทศ และเรียกทูตกลับ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ล่าสุด ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางว่า “ระหว่างการไปเยือนตะวันออกกลาง ผมบอกว่าจะไม่มีการสนับสนุนความคิดหัวรุนแรงอีกต่อไป เหล่าผู้นำชี้ไปที่กาตาร์ - ดูสิ!

รายงานของการ์เดียน ระบุว่า ถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในวันอังคารนี้ สร้างความรู้สึกช็อกแก่กาตาร์ ซึ่งถือตัวว่าเป็นพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา และยังเป็นบ้านของทหารสหรัฐอเมริกาที่ประจำการอยู่กว่า 1 หมื่นนาย และท่าทีนี้คงสร้างความยินดีแก่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนต้องสู้กับข้อกล่าวหาจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาที่ว่ารัฐบาลซาอุดิอาระเบียเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย

ทั้งนี้เอกสารที่วิกิลีกส์เผยแพร่ในปี 2552 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) ระบุถึงเอกสารของฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาในสมัยนั้นที่เรียกร้องนักการทูตสหรัฐฯ เพิ่มความพยายามเป็น 2 เท่าในการหยุดยั้งเงินทุนจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งแหล่งสำคัญสุดคือจากซาอุดิอาระบีย ที่เข้าไปเสริมพวกก่อการร้ายสุดขั้วในปากีสถานและอัฟกานิสถาน ขณะที่ชาติอาหรับอีก 3 ประเทศในบัญชี ยังมีคูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์

อัลจาซีรารายงานด้วยว่า ทางด้าน รมว. กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันวาร์ การ์กาช กล่าวในทวิตเตอร์ว่ากาตาร์ไปอยู่ข้างเดียวกับ “สื่อ เงินตรา และพวกสุดโต่ง” และต้องการคำมั่นจากกาตาร์ว่าต้องสร้างโรดแมปที่สามารถสร้างความมั่นใจให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้

“เราต้องการโรดแมปที่จะสร้างความมั่นใจให้กับพวกเราหลังจากความสัมพันธ์ของเราขาดสะบั้น” อันวาร์ กล่าว

อัลจาซีรา รายงานว่า ประธานาธิบดีตุรกี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน สนทนากับผู้นำของกาตาร์ รัสเซีย คูเวตและ ซาอุดิอาระเบียผ่านโทรศัพท์ ขอให้บรรเทาระดับความตึงเครียดลง

“สิ่งสำคัญสำหรับสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนั้นอยู่บนการพูดคุย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการทูตเพื่อลดระดับความตึงเครียดที่มีอยู่ลง” แหล่งข่าวรายงานกับอัลจาซีรา

ทางชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลรามาน อัล ธานี รมว. ต่างประเทศของกาตาร์ ออกมาแถลงว่า ทางกาตาร์ไม่ทราบว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ก่อให้เกิดความตึงเครียดเช่นนี้ขึ้นได้ เพราะเมื่อประชุมสภาความร่วมมือแห่งอ่าวเปอร์เซีย หรือการประชุมผู้นำ อเมริกัน-อิสลาม-อาหรับ ก็ไม่มีวี่แววที่จะเป็นชนวนเลย โดยทางกาตาร์มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจามากกว่าการปะทะกัน

“มีการยกระดับ (ความตึงเครียด) ที่ไม่คาดคิดจากสื่อมวลชน (ของประเทศแถบอ่าวเปอร์เซีย) … แต่กาตาร์ไม่ได้รับมือกับการยกระดับดังกล่าวด้วยวิธีเดียวกัน” รมว.ต่างประเทศของกาตาร์ กล่าว

ในคืนวันจันทร์ (5 มิ.ย.) สำนักข่าว KUNA ของคูเวตรายงานว่า เจ้าผู้ครองนครคูเวต เอมีร์ ชีค ซาบาห์ อัล อาหมัด อัล ซาบาห์ ได้เรียกร้องให้เจ้าผู้ครองนครกาตาร์ เอมีร์ ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี ให้มีน้ำอดน้ำทนและไม่ใช้มาตรการใดๆ ที่จะยกระดับความตึงเครียดบนอ่าวเปอร์เซีย

ทางศูนย์บัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า “ไม่มีแผนการที่จะเปลี่ยนท่าทีในประเทศกาตาร์” นอกจากนั้น พันตรี เอเดรียน เจที แรนคิน-แกลโลเวย์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ จะยังคงใช้ฐานทัพอากาศ อัล อูดีด ในกาตาร์สำหรับการปฏิบัติการทางอากาศในอาฟกานิสถาน อิรักและซีเรียดังเดิม

ขณะที่ อาวิกดอร์ ลิเบอร์มัน รมว.กระทรวงกลาโหมของอิสราเอล แสดงความชื่นชมการตัดสัมพันธ์ทางการทูตของชาติอาหรับกับกาตาร์ โดยกล่าวว่า “ไม่มีข้อสงสัยเลยว่าสิ่งนี้จะเปิดความเป็นไปได้อีกหลายทาง สำหรับความร่วมมือกันในการต่อสู้กับภัยก่อการร้าย”

อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ (5 มิ.ย.) รีซา นูรานี ประธานสหภาพการส่งออกผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรกล่าวว่า เรือขนสินค้าอาหารที่ส่งจากอิหร่านจะไปถึงกาตาร์ใน 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ บาห์ราม กาเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเรียกร้องให้มี “การพูดคุยกันอย่างมีความชัดเจน” ระหว่างประเทศคู่กรณี โดยทางอิหร่านกล่าวว่า ความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาคอ่าวและประเทศเพื่อนบ้าน เป็นภัยคุกคามต่อผลประโยชน์ของทุกประเทศในภูมิภาค
ธุรกิจกาตาร์ยังอ่วม ขนสินค้าไปขายไม่ได้ ซาอุฯ สั่งธนาคารขายเงินสกุลกาตาร์
ปิดออฟฟิศสายการบิน สำนักข่าวอัลจาซีรา

นอร์ส ไฮโดร บริษัทสัญชาตินอร์เวย์ที่ถือหุ้นร้อยละ 50 กับบริษัทกาตาลุมของกาตาร์ในการทำอลูมิเนียมกล่าวว่า การส่งออกอลูมิเนียมของกาตาร์ถูกสกัดไว้โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ธุรกิจการผลิตอลูมิเนียมของทั้งสองบริษัทสามารถผลิตอลูมิเนียมได้มากกว่า 600,000 ตันต่อปี โดยมีลูกค้าหลักอยู่ในทวีปเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา โดยบริษัท นอร์ส ไฮโดร กล่าวว่า “โดยปรกติ ผลผลิตจะถูกส่งผ่านท่าเรือ เจเบล อาลี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่ท่าเรือดังกล่าวปิดไม่ให้การขนส่งจากกาตาร์เข้าไปตั้งแต่เช้าวันนี้แล้ว”

และในวันอังคารนี้ (6 มิ.ย.) กาตาร์ แอร์เวย์ส ยกเลิกเที่ยวบินสู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อียิปต์และบาห์เรนแล้ว โดยแจ้งผู้โดยสารที่มีตั๋วเที่ยวบินระหว่างวันที่ 5 มิ.ย. ถึง 6 ก.ค. ว่ามีสิทธิ์ในการจองเที่ยวบินใหม่ โดยเลือกวันเดินทางได้สูงสุด 30 วัน นับจากวันเดินทางเดิม โดยกาตาร์ แอร์เวย์ส จะยังคงให้สำนักงานในประเทศต่างๆทำงานต่อไปจนกว่าจะมีการแจ้งเพิ่มเติม

สื่อซาอุดิอาระเบียรายงานว่า หน่วยงานคมนาคมของซาอุดิอาระเบีย ได้ยกเลิกใบอนุญาตกาตาร์ แอร์เวย์ส ไม่ให้ปฏิบัติงานในซาอุดิอาระเบีย และปิดสำนักงานของกาตาร์ แอร์เวย์สในราชอาณาจักร เพิ่มเติมจากเมื่อคืนวันจันทร์ ที่สื่อท้องถิ่นและรอยเตอร์ส รายงานว่า ธนาคารกลางซาอุดิอาระเบียได้ขอให้ธนาคารท้องถิ่นขายเงินสกุลริยาลส์ของกาตาร์ และห้ามไม่ให้ซื้อเข้ามา นอกจากนั้นยังสั่งปิดสำนักงานของอัลจาซีรา ซึ่งเป็นสื่อที่กาตาร์ให้การสนับสนุนในประเทศตนเองแล้ว

ส่วนสถานการณ์ตลาดหุ้นกาตาร์ วันนี้ดีดตัวกลับขึ้นมาแล้ว โดยมีดัชนีเพิ่มขึ้นมาสูงสุดร้อยละ 3.2 และดัชดีดตัวขึ้นมาถึงร้อยละ 2.7 หลังตลาดหุ้นเปิดทำการซื้อขายแค่ครึ่งชั่วโมง

ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ ทางสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศหรือ FIFA ได้ออกมาแถลงการณ์สั้นๆว่า ขณะนี้ทาง FIFA ได้คุยกับคณะผู้จัดงานในกาตาร์แล้ว และขณะนี้ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติมใดๆ ออกมา โดยกาตาร์ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2565

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.