Posted: 10 Jul 2017 12:15 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

นักกิจกรรมกว่า 30 ประเทศ เตรียมร่วมประท้วงหน้าสถานทูตตุรกี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้อำนวยการและประธานกรรมการแอมเนสตี้ฯ ประเทศตุรกี รวมทั้งนักปกป้องสิทธิมนุษยชนคนอื่นๆ ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ท่ามกลางการปราบปรามอย่างกว้างขวาง


10 ก.ค. 2560 รายงานข่าวจากแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แจ้งว่า วันนี้(10 ก.ค.60) นักกิจกรรมกว่า 30 ประเทศทั่วโลกจะเข้าร่วมการประท้วงหน้าสถานทูตตุรกี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้อำนวยการและประธานกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศตุรกี รวมทั้งนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่สำคัญคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวไว้ท่ามกลางการปราบปรามอย่างกว้างขวาง

การประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นในโอกาสครบรอบหนึ่งเดือน หลังจากทางการได้สั่งควบคุมตัว ทาเนอร์ คีลิช (Taner Kiliç) ประธานกรรมการของแอมเนสตี้ตุรกีไว้ชั่วคราวระหว่างรอการสอบสวนในข้อหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นโอกาสครบห้าวันหลังจาก ไอดิล อีเซอร์ (Idil Eser) ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ตุรกีถูกควบคุมตัวพร้อมกับนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนคนสำคัญอีก 7 คน ทั้งหมดถูกดำเนินคดีอาญา โดยตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกของหน่วยงานก่อการร้ายติดอาวุธ

ในขณะเดียวกันเลขาธิการและผู้อำนวยการแอมเนสตี้อีก 16 ประเทศ ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงบรรณาธิการของสำนักข่าวทั่วโลกเปิดเผยถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศตุรกี โดยเรียกร้องให้ผู้นำในที่ประชุมสุดยอดประเทศอุตสาหกรรม 20 ประเทศ (G20) ช่วยกันส่งเสียง โดยต้องบอกกับประธานาธิบดีเออโดวานว่าให้ปล่อยตัวทาเนอร์ คีลิช ไอดิล อีเซอร์ และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกควบคุมตัวโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้ยุติการปราบปรามที่มีต่อภาคประชาสังคมในตุรกี

ซาลิล เช็ตตี้ (Salil Shetty) เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ในขณะที่ใกล้ถึงวันครบรอบหนึ่งปีของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในตุรกี การดำเนินคดีเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าการปราบปรามที่เกิดขึ้นภายหลังรัฐประหารเป็นการกระทำตามอำเภอใจและก้าวร้าว โดยพุ่งเป้าไปที่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลที่แท้จริงหรือเพียงเพราะรัฐบาลคิดว่าเขาเป็นฝ่ายตรงข้าม ในแต่ละวันที่ผ่านไป เสียงเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเพื่อนร่วมงานของเราโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไขดังมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่มีทางที่จะถูกทำให้เงียบลงได้

“เราจะไม่ยอมนิ่งดูดายในขณะที่แชมเปี้ยนด้านสิทธิมนุษยชนที่มีคนเคารพนับถือถูกจับขังคุก ในข้อหาที่กุขึ้นมา และสะท้อนถึงเจตนาร้ายอย่างชัดเจนเพื่อข่มขู่ผู้ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกล้าหาญในตุรกี โดยพวกเขาไม่ยอมเงียบเสียงตามคำสั่ง ในขณะที่พวกเขาถูกควบคุมตัว เราจะเดินขบวนเพื่อพวกเขา ในขณะที่พวกเขาถูกห้ามพูด เราจะพูดเพื่อพวกเขาเอง”

ทางการตุรกีพยายามใช้อำนาจอย่างมิชอบต่อนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ ที่ผ่านมามีการควบคุมตัวประชาชนกว่า 50,000 คนภายหลังการทำรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว ทางการกำลังพุ่งเป้าโจมตีเพื่อไม่ให้มีองค์กรภาคประชาสังคมเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์และเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบรัฐบาลของ เออโดวาน (Erdoğan)



รายละเอียดจดหมายเปิดผนึก :


เรียน บรรณาธิการข่าวที่เคารพ


เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา นักปกป้องสิทธิมนุษยชนแปดคน รวมทั้งไอดิล อีเซอร์ ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ตุรกี และผู้อบรมด้านไอทีสองคนจากประเทศสวีเดนและเยอรมนี ได้ถูกตำรวจควบคุมตัวที่โรงแรมในกรุงอิสตันบุล ระหว่างเข้าร่วมการอบรม

การควบคุมตัวไอดิล เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนหลังจากทาเนอร์ คีลิช ประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ตุรกี ได้ถูกควบคุมตัวระหว่างรอการไต่สวนในข้อหาที่ปราศจากมูลความจริง นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเราที่ทั้งผู้อำนวยการและประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ต่างถูกควบคุมตัวในเวลาเดียวกันและในประเทศเดียวกัน

นักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกควบคุมตัวเมื่อวันพุธที่ผ่านมาได้ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจสี่แห่งในชานกรุงอิสตันบุล และได้ถูกสอบปากคำในฐานะเป็นสมาชิก “หน่วยงานก่อการร้ายติดอาวุธ” ข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้ ไม่อาจปิดบังภัยคุกคามที่ร้ายแรงของการโจมตีที่พุ่งเป้าไปยังหน่วยงานภาคประชาสังคมที่สำคัญหลายแห่งในตุรกี

การใช้อำนาจอย่างมิชอบครั้งนี้ชี้ให้เห็นสถานการณ์ที่ล่อแหลมที่เกิดขึ้นกับนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนในตุรกี ซึ่งที่ผ่านมามีการควบคุมตัวประชาชนกว่า 50,000 คนภายหลังการทำรัฐประหารที่ล้มเหลวเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว หากใครยังสงสัยว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการปราบปรามภายหลังรัฐประหารของตุรกีคืออะไร ตอนนี้พวกเขาคงหายสงสัยแล้ว ทางการกำลังพุ่งเป้าโจมตีเพื่อไม่ให้มีองค์กรภาคประชาสังคมเหลืออยู่ เพื่อไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์และเพื่อไม่ให้มีการตรวจสอบรัฐบาลของนายเออโดวาน (Erdoğan)

เราจะไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย ในขณะที่เพื่อนร่วมงานและมิตรสหายของพวกเราถูกคุมขัง เราขอเรียกร้องให้ผู้นำในที่ประชุมสุดยอดประเทศอุตสาหกรรม 20 ประเทศ (G20) ให้ช่วยกันส่งเสียง โดยต้องบอกกับประธานาธิบดีเออโดวานว่าให้ปล่อยตัวทาเนอร์ คีลิช, ไอดิล อีเซอร์ และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกควบคุมตัวโดยทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข และให้ยุติการปราบปรามที่มีต่อภาคประชาสังคมในตุรกี



Salil Shetty เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

Mariela Belski, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อาร์เจนตินา

Claire Mallinson แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออสเตรเลีย

Jurema Werneck, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล บราซิล

Alex Neve, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แคนาดา (ส่วนที่พูดอังกฤษ)

Béatrice Vaugrante, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แคนาดา (ส่วนที่พูดฝรั่งเศส)

Sylvie Brigot-Vilain แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฝรั่งเศส

Markus Beeko, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เยอรมนี

Aakar Patel, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อินเดีย

Usman Hamid, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อินโดนีเซีย

Gianni Rufini, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล อิตาลี

Taro O’Sullivan, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ญี่ปุ่น

Catherine Kim, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เกาหลี

Tania Reneaum Panszi, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เม็กซิโก

Shenilla Mohamed, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล แอฟริกาใต้

Kate Allen, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหราชอาณาจักร

Margaret Huang, แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกา

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.