ช่วงกลางปีแบบนี้ หลายคนเฝ้ารอภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ทยอยเข้าโรงกันทุกสัปดาห์ หนึ่งในนั้น คือ Spiderman: Homecoming ไอ้แมงมุมหนุ่มน้อย ที่เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ ใน Captain America: Civil War คราวนี้มาในภาพยนตร์แยกของตัวเอง ท่ามกลางความคาดหวังว่าค่าย Marvel จะตีโจทย์ของสไปดี้รีแบรนด์ออกมาอย่างไร


Spider-Man: Homecoming เดินเรื่องต่อจากช่วงท้ายของ Captain America: Civil War ที่โทนี สตาร์ก (Robert Downey Jr.) รับบทพี่เลี้ยงจำเป็นให้กับ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ หรือ สไปเดอร์แมน (Tom Holland) หนุ่มอัจฉริยะวัย 15 ปี ที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อนๆไฮสคูล ควบคู่กับการดูแลเมืองของเขาจากโจรผู้ร้าย และต้องปิดบังตัวตนในฐานะสไปเดอร์แมนกับป้าเมย์และคนรอบข้าง

ครึ่งแรกของเรื่องจะเล่าถึงชีวิตของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ อยากเข้าร่วมทีม Avengers อันโด่งดัง แต่ด้วยที่พลังล้นเหลือ ทำให้ดูเหมือนก่อเรื่องมากกว่ากู้โลก เดือดร้อนถึงเมนเทอร์อย่างสตาร์ก ที่ต้องคอยตามดูแล ช่วงต้นจะเห็นความดื้อรั้นของปีเตอร์ตามประสาวัยรุ่นใจร้อน แต่ต่อมาเขาได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับทางเลือกระหว่าง “ถูกใจ” กับ “ถูกต้อง” จนสามารถก้าวผ่านปมปัญหาทั้งหมดได้


ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ของ Tom Holland เล่นได้มีสเน่ห์ใกล้เคียงกับคอมิก ที่เป็นคนขี้เล่นและยียวนกวนประสาท แตกต่างจากสไปดี้รุ่นพี่ อย่าง Tobey Maguire หรือ Andrew Garfield อีกบทที่โดดเด่นและทรงพลังเห็นจะเป็นตัวร้ายในเรื่อง นั่นคือ วัลเชอร์ รับบทโดย Michael Keaton มีมิติ น่าค้นหา มีที่มาที่ไปที่นำไปสู่การเป็นวายร้ายสายอุปกรณ์ ส่วนตัวละครอื่นๆในเรื่องทั้งหมดถือว่ากลมกล่อมลงตัวดี

สำหรับฉากแอคชั่นเก็บได้ครบตามมาตรฐานของมาร์เวล ดูเพลินแต่ไม่ถึงกับเดาทางง่าย หลายฉากชวนให้นึกย้อนไปในชีวิตวัยรุ่นมัธยมได้เหมือนกัน เช่น หนุ่มต้องชวนสาวไปงานเต้นรำงานคืนสู่เหย้า ความรักแบบปั๊บปี้เลิฟ การมีเพื่อนฝูงที่แบ่งบันประสบการณ์ดีและร้ายร่วมกัน อีกทั้งยังสอดแทรกความสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่างป้าเมย์และปีเตอร์ และเส้นทางการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของพ่อหนุ่มสไปดี้ในอีกมุมที่น่าสนใจ

นี่จึงถือเป็นการรีแบรนด์ Spiderman ที่ดูรวมๆ แล้วมีสเน่ห์ และเชื่อว่าสาวกมาร์เวลคงจะต้อนรับพ่อหนุ่มสไปดี้คนนี้ ในฐานะสมาชิกใหม่ของจักรวาลมาร์เวลได้ไม่ยาก.

source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066992759705911176

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.