Posted: 09 Aug 2017 10:43 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

รองอธิการ มอ.ปัตตานี ชี้มหา'ลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัย จนท.ควรระวัง เตือนกระบอกปืนไม่ควรหันมาทางประชาชน นายกฯ องค์การ นศ. ห่วงเรื่องการดำเนินคดี ชี้คนไม่สมประกอบ ไม่ควรถืออาวุธ วอนมหา'ลัยต้องเน้นความปลอดภัย นศ. ด้านประธาน นศ.ปาตานี เผย ทุกคนมีโอกาสเป็นเหยื่อ มหา'ลัยต้องสู้เพื่อความยุติธรรม



ภาพจากเฟซบุ๊ก Amru Bueraheng

จากเหตุการณ์ ส.อ.ปรีชา อินทะรังสี ทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจที่ 4422 อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ใช้อาวุธปืนประจำตัวยิงใส่นักศึกษาหญิง คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มอ.ปัตตานี ชั้นปีที่ 4 บริเวณหอพักหญิงเลขที่ 53/16 ซ.3 เจริญประดิษฐ์ ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2560 เวลา 18.00 น.

ล่าสุดวันนี้ (9 ส.ค. 2560) เวลา 11.30 น. ส.อ.ปรีชา พร้อมต้นสังกัด แถลงขอโทษนักศึกษา มอ.ปัตตานี ณ เรือนรับรอง มณฑลทหารบกที่ 46 ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ณ จุดที่เกิดเหตุ แต่ไม่ปรากฏ ส.อ.ปรีชา อินทะรังสี ซึ่งเป็นก่อเหตุ มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ นักศึกษา และพยานในที่เกิดเท่านั้น

มหา'ลัยเป็นพื้นที่ปลอดภัย ย้ำกระบอกปืนไม่ควรหันมาทางประชาชน


ดร.บดินทร์ แวลาเตะ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา ม.อ.ปัตตานี เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่ที่น่าจะเป็นพื้นที่ปลอดภัย (Safety Zone) เป็นพื้นที่ที่มิควรมีความขัดแย้งทุกๆ กรณี สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงจะเป็นตำรวจ หรือทหาร หรือใครก็ตามที่ทำแบบนี้มันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ดูแลประชาชนโดยตรงก็ยิ่งต้องระวังให้มาก มันไม่ควรจะเกิดขึ้น

“กระบอกปืนไม่ควรจะหันมาทางประชาชน มันสมควรที่จะหันไปทางอื่นมากกว่า” ดร.บดินทร์ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้นำนักศึกษาห่วงเรื่องการดำเนินคดี ชี้คนไม่สมประกอบ ไม่ควรถืออาวุธ


บูคอรี กามาเสะ นายกองค์การบริหารองค์การนักศึกษา มอ.ปัตตานี กล่าวว่า การยิงชี้เป้านักศึกษาในระยะเผาขนอย่างชัดแจ้ง มีเจตนาฆ่าอย่างชัดเจน โดยเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารเสียเอง ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ใครจะลงโทษเขา กฎหมายอะไรที่สามารถเอาโทษเขาได้ถึงที่สุด กฎหมายอะไรที่สามารถให้ความยุติธรรมกับเราได้ถึงที่สุด

เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ความไว้เนื้อเชื่อใจของเราต่อเจ้าหน้าที่รัฐลดลงอย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะเหมือนเดิม จะเหมือนเดิมได้อย่างไร ตอนนี้เพื่อนๆ เกิดผวาหมดไปแล้ว โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่กล้าหลับนอน ไม่กล้ากลับห้อง กลับเป็นเราที่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อน เพราะความปลอดภัยของเราไม่มีใครจะการันตีได้

บูคอรี กล่าวต่อว่า สำหรับเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะทหารกล้าแห่งชาติ ต้องรักษาไว้ซึ่งจรรยาบรรณทหาร ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ต้องเคารพศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ การใช้อาวุธควรมีการพิจารณาให้มากกว่านี้ว่า ทหารคนไหนควรหรือมิควร สำหรับทหารที่มีอาการไม่สมประกอบ ไม่ปกติ ไม่ควรที่จะใช้อาวุธปืน รวมทั้งต้องปลดออกจากการเป็นทหารด้วย ไม่อย่างนั้นจะส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่นอีก ข้ออ้างว่าไม่มีสติ หรือ เมานั้น ไม่ควรเอามาอ้างตั้งแต่แรกแล้ว เพราะคนไม่มีสติไม่ควรครอบครองอาวุธปืน หากคุณเหนื่อยก็ยิ่งไม่สมควรที่จะมาระบายกับนักศึกษาหรือบุคคลอื่น

บูคอรี ทิ้งท้ายต่อมหาวิทยาลัยว่า มหาวิทยาลัยควรแสดงถึงจุดยืนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา นักศึกษาต้องได้รับความปลอดภัย และต้องยอมรับว่าเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้ว มหาวิทยาลัยก็จะต้องดำเนินเรื่องให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก

ที่มาเจ้าหน้าต้องคัดสรรอย่างดี เป็นคนใช้สติ ไม่ใช่อารมณ์

ผศ.เจะอับดุลเลาะ เจ๊ะสอเหาะ อาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี กล่าวว่า ปัญหาในรูปแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากจนเกินไปแล้ว ส่วนตัวคิดว่าน่าจะมีมาตรการรับคนมาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะเรื่องของใจ สมอง กาย ที่จะต้องมีการฝึกฝนอารมณ์ใฝ่ต่ำของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องวินัยของตนเองซึ่งเป็นหัวใจหลักในการปฏิบัติหน้าที่ การดื่มสุราทำให้มึนเมา ไม่สมควรพกพาอาวุธด้วยซ้ำไป เบื้องบนต้องใช้หลักทางจิตวิทยาในการคัดเลือกสรรหาบุคคล โดยเฉพาะองค์ความรู้ที่จะมาทำงาน ไม่ใช่ใช้กำลังเป็นอย่างเดียว จะต้องใช้สติปัญญาในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย ตรงนี้สำคัญมาก เพราะว่าการไปเน้นเรื่องการใช้กำลังมันไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น มันมีแต่ผลเสีย แต่ถ้าเป็นคนที่มีสติปัญญาในการทำงาน ผลของงานก็จะราบรื่นและเกิดความปลอดภัยต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐเอง ไม่อย่างนั้นมันจะเกิดอันตรายต่อประชาชนทั่วไป

ผศ.เจะอับดุลเลาะ กล่าวต่อว่า หลายเหตุการณ์สะท้อนถึงการคัดเลือกบุคลากรรัฐเข้าไปทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าหากเจ้าหน้าที่ใช้อารมณ์ในการประพฤติตนเยี่ยงนี้ ประเด็นความปลอดภัยเราก็ไม่ต้องหวังพึ่งใครแล้ว เห็นได้ว่าพื้นที่ความปลอดภัยของประชาชนค่อนข้างที่จะอ่อนแอมาก พื้นที่ความปลอดภัยมันแย่มากเลย

อาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี กล่าวด้วยว่า ตนเองก็เคยประสบกับตัวเองเวลาขับรถผ่านด่าน เจ้าหน้าที่บางคนใช้อารมณ์ในการพูดคุย ใช้ความรู้สึกล้วนๆ มันก็ทำให้เรารู้สึกโกรธแค้น แต่เจ้าหน้าบางคนที่ก็ดีมาก พูดดีแถมยังให้เกียรติอีก เราก็รู้สึกดีไปด้วย ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่าเต็มที่ เป็นผู้ดูแลประชาชนก็จะต้องใช้สติปัญญา ใช้ความคิดความอ่านที่ดีในการปฏิบัติหน้าที่ ความจริงเราเข้าใจว่าคุณเข้ามาทำงานแล้วต้องรับผิดชอบหลายอย่าง แต่ในเมื่อคุณอาสาเข้ามาทำงานตรงนี้แล้วคุณก็ต้องควบคุมวินัยของตัวเองให้ดี ไม่อย่างนั้นมันก็จะกลายเป็นปัญหาเพิ่มขึ้นมาให้กับตัวคุณเอง

ผศ.เจะอับดุลเลาะ ทิ้งท้ายว่า คณาจารย์ทุกคน รวมถึงผู้บริหารต้องช่วยกันสอดส่องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับนักศึกษา ควรจะให้ความสำคัญกับนักศึกษามากกว่าสิ่งอื่นใด เพราะถ้าไม่มีนักศึกษาก็จะไม่มีมหาวิทยาลัย อาจารย์เองก็จะไม่มีงานทำ เพราะฉะนั้น นักศึกษา คือลมหายใจของครูบาอาจารย์ทุกคนที่ต้องให้ความสำคัญและให้การดูแลเป็นพิเศษ ผศ.เจะอับดุลเลาะ กล่าว

ทุกคนมีโอกาสเป็นเหยื่อ การแก้ปัญหาต้องถ่วงดุลอำนาจ อิงสากล

อารีฟิน โสะ รักษาการประธานสหพันธ์นิสิตนักศึกษานักเรียนและเยาวชนปาตานี กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นกรณีเมื่อวานนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ที่ผ่านมาก็มีเกิดมาแล้วหลายกรณี ทุกคนในพื้นที่แห่งนี้มีโอกาสที่จะเป็นเหยื่อทุกคน ไม่ใช่เพียงแค่นักกิจกรรมหรือนักเคลื่อนไหวเท่านั้น ทั้งชาวบ้านหรือไม่ว่าใครก็ตามมีโอกาสเป็นเหยื่อทั้งสิ้น ดังนั้น นโยบายของรัฐต่อการติดอาวุธให้กับบุคลากรของรัฐแบบจำนวนมากนั้นมันไม่ได้ส่งผลดีต่อการแก้ปัญหาและกระบวนการสันติภาพเลย

อารีฟิน กล่าวต่อว่า ทางออก หรือ วิธีการแก้ปัญหาสิ่งที่เป็นผลพวงจากการต่อสู้โดยการใช้อาวุธในสภาวะสงครามนั้นควรมีกระบวนการจัดการปัญหาที่มั่นคงและยั่งยืน นั่นคือ กระบวนการสันติภาพที่อิงบนหลักการสากลและมีทุกภาคส่วนทั้งภาคประชาชนและองค์กรระหว่างประเทศในการถ่วงดุลอำนาจ ทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันผลักดันกลไกการปกป้องพลเรือน

อารีฟิน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้มหาวิทยาลัยต้องยืนแถวหน้าเพื่อปกป้องความยุติธรรม ปกป้องสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักศึกษา มหาวิทยาลัยต้องดำเนินการให้เรื่องดำเนินเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมให้มากที่สุด ถึงแม้บ่อยครั้งเราจะเห็นกระบวนการยุติธรรมมีจุดอ่อน มีข้อกังขาอยู่ แต่ปัจจุบันเรามีเครื่องมือนี้เพียงเครื่องมือเดียวที่สามารถช่วยเราได้ เราจึงต้องรักษามันไว้ มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องมีบทบาทในการขับเคลื่อนผลักดันกระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามกระบวนการของมัน ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม
ม.อ.ปัตตานี ร้องทุกฝ่ายสร้างพื้นที่ปลอดภัย

ขณะที่เมื่อเวลา 18.56 น.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก Prince of Songkla University, Pattani Campus เผยแพร่แถลงการณ์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ต่อกรณีดังกล่าว เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างจริงจัง

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.