The United Nations Security Council votes on a new sanctions resolution that would increase economic pressure on North Korea to return to negotiations on its missile program at U.N. headquarters, Aug. 5, 2017.
รมต.ต่างประเทศจีน หวัง อี้ กล่าวต่อ รมต.ต่างประเทศของเกาหลีเหนือ รี ยง โฮ ระหว่างการประชุมนอกรอบของการประชุมระดับรัฐมนตรีของสมาคมอาเซียนที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ โดยบอกว่า กรุงเปียงยางไม่ควรละเมิดหรือทำลายความหวังดีของประชาคมโลก
คำกล่าวของจีนมีขึ้นหลังจากที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันทน์ ให้ผ่านมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อเกาหลีเหนือ โดยมุ่งลดรายได้ของรัฐบาลเปียงยางลง 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี ผ่านการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมหลัก 4 อย่างของเกาหลีเหนือ คือ ถ่านหิน เหล็ก ตะกั่ว และอาหารทะเล ที่สร้างรายได้ให้เกาหลีเหนือราว 3,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี
มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธแบบข้ามทวีป 2 ครั้งในเดือนที่แล้ว คือวันที่ 3 และ 28 ก.ค.
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความแสดงความยินดีที่สหรัฐฯ และรัสเซีย ร่วมจับมือใช้มาตรการลงโทษต่อเกาหลีเหนือ ขณะที่ทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ นิกกี้ เฮลลีย์ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะยังคงใช้แรงกดดันทางการทูตต่อเกาหลีเหนือเพื่อยุติพฤติกรรมที่ก้าวร้าวยั่วยุของเกาหลีเหนือ
ขณะเดียวกัน รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ที่ร่วมประชุม ASEAN Regional Forum (ARF) ที่ฟิลิปปินส์ กล่าวยินดีที่คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติมีมติเป็นเอกฉันทน์ให้ผ่านมาตรการลงโทษชุดใหม่ต่อเกาหลีเหนือ และแสดงความยินดีต่อท่าทีล่าสุดของจีนในการกดดันเกาหลีเหนือด้วย
บรรดาภาคีชาติอาเซียนที่ร่วมประชุม ARF ยังได้มีคำแถลงแสดงความวิตกต่อความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และขอให้เกาหลีเหนือปฏิบัติตามข้อกำหนดของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ และยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ทันที
นักวิเคราะบางคนให้ความเห็นว่า คำแถลงดังกล่าวของอาเซียนเป็นผลมาจากแรงกดดันของสหรัฐฯ ที่ส่งผ่าน รมต.ทิลเลอร์สัน มายังการประชุมครั้งนี้ และส่วนหนึ่งก็ถือเป็นผลประโยชน์ของอาเซียนเองด้วย
ปัจจุบัน ภาคีอาเซียน 10 ประเทศ ให้การยอมรับสถานะการทูตของเกาหลีเหนือ และเกาหลีเหนือมีสถานทูตอยู่ใน 8 จาก 10 ประเทศนี้ ซึ่งถือเป็นช่องทางทำรายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือทางหนึ่ง
นักวิเคราะห์ ฌอน คิง ของสถาบันที่ปรึกษาทางการเมือง Park Strategies กล่าวว่า นอกจากสถานทูตเกาหลีเหนือใน 8 ประเทศเหล่านั้น จะทำธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายส่วนหนึ่ง เช่น การขายโสม และธุรกิจร้านอาหาร ยังเชื่อว่ามีการทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย เช่น การลักลอบค้าของเถื่อน
source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=066994953101816879
แสดงความคิดเห็น