Posted: 13 Mar 2018 12:25 PM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้ กสทช. คืนค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ให้แก่บริษัท ไทยทีวี จำกัด ในงวดหลังจากบริษัทฯ บอกเลิกสัญญาการประกอบกิจการโทรทศัน์ฯ

13 มี.ค.2561 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 652/2559 ระหว่าง บริษัท ไทยทีวี จำกัด ผู้ฟ้องคดีกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ 2 ผู้ถูกฟ้องคดี

คดีนี้ผู้ฟ้องคดีฟ้องว่า ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบ กิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอลทางช่องรายการไทยทีวี และช่องรายการ MVTV Family หรือช่องรายการ LOCA เดิมของ ผู้ฟ้องคดี และแจ้งให้ธนาคารชำระหนี้ตามหนังสือค้ำประกันค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแทน ผู้ฟ้องคดี เป็นเงิน 1,748,808,000 บาท ผู้ฟ้องคดีจึงขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว และให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคาร พร้อมทั้งชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การดำเนินการของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ในการเปลี่ยนผ่านระบบการรับส่ง สัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็นระบบดิจิตอลเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่เป็นไปตามแผนงาน รวมทั้งการ ประชาสัมพันธ์การเปลี่ยนผ่านระบบโทรทัศน์ทำได้ไม่ทั่วถึง ประชาชนจึงไม่เข้าใจวิธีการเปลี่ยนผ่านระบบ โทรทัศน์รวมทั้งการใช้คูปอง ทำให้การแลกซื้อเครื่องรับสัญญาณเป็นไปอย่างล่าช้า และประชาชนไม่สนใจ โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลมากเท่าที่ควร เมื่อผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ดังกล่าว ผู้ฟ้องคดีจึงมีสิทธิบอกเลิกการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการ ดังกล่าว และผู้ฟ้องคดีต้องคืนคลื่นความถี่ที่เคยได้รับอนุญาตให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง โดยไม่มีสิทธิเผยแพร่ ออกอากาศรายการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลได้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดที่ 2 ทั้งสองช่องรายการ เป็นเงินค่าธรรมเนียม ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่ครบกำหนดระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่ผู้ฟ้องคดีได้รับใบอนุญาต อันเป็น ระยะเวลาที่ผู้ฟ้องคดียังประกอบกิจการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการอยู่ ก่อนการขอเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่อง รายการ ผู้ฟ้องคดีจึงมีหน้าที่ต้องชำระค่าใช้คลื่นความถี่ดังกล่าวทั้งสองช่องรายการให้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ส่วนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดที่เหลือ เมื่อผู้ฟ้องคดีได้บอกเลิกการประกอบกิจการโทรทัศน์เพื่อให้บริการ โทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลทั้งสองช่องรายการโดยชอบแล้ว ผู้ฟ้องคดีย่อมไม่มีหน้าที่ที่จะต้องชำระ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตในงวดหลังจากผู้ฟ้องคดีบอกเลิกสัญญา และผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองต้องคืนหนังสือ ค้ำประกันของธนาคารในส่วนที่เกินกว่าจำนวนที่ผู้ฟ้องคดีต้องชำระในงวดที่หนึ่งและงวดที่สองคืนให้แก่ ผู้ฟ้องคดี ส่วนความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีได้รับ ล้วนเกิดจากการดำเนินธุรกิจปกติทั่วไปของผู้ฟ้องคดี ผู้ฟ้องคดี จึงไม่อาจเรียกค่าเสียหายดังกล่าวกับผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองได้

ศาลปกครองกลางจึงพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารที่ผู้ฟ้องคดี วางเพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของงวดที่ 3 และงวดที่เหลือ คืนให้แก่ผู้ฟ้องคดี หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้จำนวนเงินตามหนังสือค้ำประกันที่ไม่สามารถคืนได้นั้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี ทั้งนี้ ให้ชำระให้ แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด คืนค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนตามส่วนของการชนะคดีให้แก่ ผู้ฟ้องคดี ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า สมบัติ ลีลาพตะ ผู้อำนวยการสำนักกฏหมาย กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กสทช. กล่าวว่า กสทช. จะอุทธรณ์คดีภายใน 30 วัน เนื่องจากเห็นว่าศาลยังไม่ได้นำข้อเท็จจริงบางส่วนมาพิจารณา อาทิ มีการกำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวนผู้ประกอบการว่าการขยายโครงข่ายทีวีดิจิทัลในปีแรกจะมีความครอบคลุมเพียงใด และตามที่ศาลได้พิจารณาว่ากรมประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลมีการขยายโครงข่ายที่ล่าช้าแต่เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงผู้ร้องไม่ได้ใช้บริการโครงข่ายในการออกอากาศของกรมประชาสัมพันธ์

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานปฏิกิริยาของ พันธุ์ทิพา ศกุนต์ไชย ประธานกรรมการบริษัทไทยทีวี จำกัด ระบุว่ามีความพอใจกับคำพิพากษาของศาลที่ออกมา และมั่นใจว่า กสทช.ทำผิดสัญญาจริงและก่อให้เกิดความเสียหายกับทีวีดิจิทัล

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.