Posted: 02 Nov 2019 01:59 AM PDT(อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
Submitted on Sat, 2019-11-02 15:59

2 พ.ย. 2562 ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แจ้งข่าวว่าจากกรณี จ.ส.อ.ทรงวุฒิ บุญรัตน์ นายสิบฝ่ายสรรพาวุธแผนกสรรพาวุธ มณฑลทหารบกที่ 42 ได้ปรากฏภาพผ่านสื่อออนไลน์ เกี่ยวข้องกรณีพ่อค้าหัวปลาถูกยิงเสียชีวิตคารถกระบะ บนถนนในพื้นที่ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 ดังที่ปรากฎเป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมานั้น

ล่าสุดเมื่อ 2 พ.ย. 2562 พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยความโปร่งใส เเละพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และภายหลังได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงเพื่อดำเนินการทางวินัยทหารตามลักษณะฐานความผิด ยืนยันว่าทางกองทัพยินดีให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยจะไม่มีการปกป้องอย่างเด็ดขาด

โดยเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2562 เจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 42 ได้ควบคุมตัวกำลังพลดังกล่าวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมีนายทหารสารวัตรสืบสวนสอบสวน มณฑลทหารบกที่ 42 ร่วมรับฟังการสอบสวนด้วยโดยในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และไม่มีเหตุอันจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ปัจจุบันได้ส่งตัวฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดสงขลาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายสำหรับการดำเนินการทางวินัย มณทลทหารบกที่ 42 ในฐานะหน่วยต้นสังกัดได้มีคำสั่งพักราชการตั้งแต่ 1 พ.ย. 2562 ที่ผ่านมาและหากคดีถึงที่สุดและมีความผิดตามข้อกล่าวหาก็จะรายงานปลดออกจากราชการต่อไป

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทัพภาคที่ 4 ได้มีนโยบายกวดขันวินัยกำลังพลมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีภายในกรมกองและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน และหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดก็จะมีมาตรการลงโทษทั้งทางวินัยและอาญาทหารขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้น จึงขอให้สังคมได้มีความมั่นใจว่ากองทัพจะไม่ปกป้องผู้กระทำความผิดในทุกๆ กรณี และหากพบเห็นเจ้าหน้าที่ทหารกระทำความผิดหรือสร้างความเดือดร้อน ขอให้แจ้งหน่วยต้นสังกัดทราบ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และพิจารณาลงทัณฑ์ตามความเหมาะสมต่อไป

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.