621225 ใครคือคนรวย ใครคือคนจน
            คนที่ทั้งชีวิต เก็บอดออม จนพอจะมีเงินทองใช้บ้าง ตามคำสอนที่ว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อาจต้องเปลี่ยนใจเติมว่า ไปตลาดฟาดให้เกลี้ยงอย่าให้เหลือ เพราะอะไร ออมไปก็เท่านั้น ต้องไปเป็นส่วนหนึ่งแบ่งให้คนอื่นใช้
พวกกินบำนาญ รวยสม่ำเสมอประมาณสองหมื่นกว่านิด ๆ แทบจะไม่พอกิน ถ้าไม่อาศัยค่าเช่าอีกนิดหน่อย เดือนชนเดือนอยู่แล้ว ไม่เคยแม้แต่จะเป็นเศรษฐีต้นเดือนกะใครเขาอื่น กลับต้องโดนจ่ายภาษีที่ไม่เคยต้องจ่าย
เจ็บกระดองใจกว่านั้นตรงที่ได้ยินแต่การแจกเงินให้คนจนมากมายทุกวิถีทาง แต่คนที่พอมีบำนาญไว้พอกินพอใช้ กลับโดนรีดเอา ๆ อะไร ๆ ก็ไม่เคยได้ มีแต่โดน ๆ ภาษีอาน
            ปี 2563 ต้นปี คุณ ๆ ท่าน ๆ ที่มีดอกเบี้ยจากเงินฝากเผื่อเรียก ที่ดอกแสนจะน้อยนิด ประมาณ 0.5 % ถ้ารวมกันเกินปีละ 20,000 แค่ 20,001 บาท ดูในสมุดธนาคารด้วยนะ จะโดนภาษี 15 % ของยอดดอกเบี้ย
            นอกจากนี้ผู้ที่ซื้อคอนโดหวังค่าเช่า จะโดนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างร้อยละ 0.3 จากราคาประเมินของที่ดินกับท้องที่ เรียกว่าราคาประเมิน 1 ล้านบาท ต้องจ่าย 3,000
            ดอกธนาคารโดนหักไป ยังพอมีจ่าย เพราะหักจากบัญชีไปแล้ว ส่วนเดือนชนเดือน อย่าลืมกระเบียดกระเสียนตนเอง หามาจ่ายภาษีจากค่าเช่าด้วยล่ะ
            นึกถึงหนังเก่าวัยเด็กเรื่องโรบินฮูด ปล้นคนรวยเอาไปแจกคนจน ใครคือคนรวย ใครคือคนจน คนที่ฝากเผื่อเรียก คนที่มีค่าเช่า น่าจะเป็นคนรวยนะ ส่วนที่ได้รับแจก คนที่ใช้บัตรทองรักษาโรคคงเป็นคนจน เบื้องหลังคนจนกลุ่มนี้บางคน อาจมั่งมีกว่าคนรวยที่โดนรีดภาษีก็ได้เน้อ
            ปีใหม่แล้ว เปลี่ยนรูปแบบการออม คนที่พอมีเงินมากหน่อยขายบ้านเก่า โยกสมบัติทั้งหมดไปซื้อบ้านหลังใหม่หลังเดียว อย่าให้เกิน 50 ล้าน จะไม่โดนภาษีใด ๆ ถ้ายังมีไม่มาก ไม่อยากโดนภาษี หาซื้อโอ่งซื้อตุ่มแล้วซื้อทองมาฝังใต้ดิน อย่าเอาธนบัตรนะเดี๋ยวโดนปลวกแทะ หมดตัวได้
            ไม่รู้ว่า มีใครอยากเป็นคนรวยกันอีกไหม

source :- https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=drpk&month=25-12-2019&group=3&gblog=59

[full-post]



ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้เผยแพร่รายงานแจ้งข่าว แจ้งเตือนสาธารณภัย ประจําวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เวลา 08.00 น.

โดยหนึ่งในของข้อมูลระบุถึง สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยว่า ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูฝนและเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2562 และไม่มีฝนตกต่อเนื่องเป็น ระยะเวลานาน ทําให้น้ำในอ่างมีปริมาณน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30% ของความจุอ่าง จํานวน 9 แห่ง ในพื้นที่ 4 จังหวัด อาจเกิดภาวะน้ำน้อยหรือขาดแคลนน้ำในพื้นที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งได้มีการประกาศเขตให้ความช่วยเหลือกรณี

ภาคเหนือ ได้แก่ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ เขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนลําพระเพลิง จ.นครราชสีมา เขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์

ภาคกลาง ได้แก่ เขื่อนกระเสียว จ.สุพรรณบุรี เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี และ เขื่อนคลองสียัด จ.ฉะเชิงเทรา  

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง จํานวน 13 จังหวัด ภาคเหนือ จ.เชียงราย 14 อําเภอ  จ.น่าน  1 อําเภอ จ.เพชรบูรณ์ 6 อําเภอ จ.อุทัยธานี 8 อําเภอ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.นครพนม 1 อําเภอ  จ.มหาสารคาม 5 อําเภอ จ.บึงกาฬ 4 อําเภอ จ.หนองคาย 8 อําเภอ จ.บุรีรัมย์ 6 อําเภอ จ.กาฬสินธุ์ 1 อําเภอ  จ.นครราชสีมา 5 อําเภอ  และ ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี 6 อําเภอ และ จ.ฉะเชิงเทรา 2 อําเภอ

ที่มา ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
http://122.155.1.141/in.ndwc-10.283/

[full-post]



ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด ปีใหม่ 2563 คนกรุงฯใช้จ่าย 29,800 ล้านบาท หดตัว 3.2% จากปีก่อน ส่วนใหญ่เน้นประหยัดระวังการใช้จ่าย โดยจากการสำรวจพบว่า ปีใหม่ 2563 คนกรุงเทพฯ กว่า 58.2% เลือกทำกิจกรรมอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 59%

เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2562 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด ยอดการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 อยู่ที่ราว 29,800 ล้านบาท หดตัว 3.2% จากปีก่อน เนื่องจากประชาชนประหยัดและระวังการใช้จ่ายมากขึ้น กอปรกับได้มีการใช้จ่ายล่วงหน้าจากมาตรการกระตุ้นของทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หากในช่วงที่เหลือของเทศกาลฯ ภาครัฐและเอกชนมีมาตรการหรือกลยุทธ์สร้างความคึกคักเพิ่มเติม อาจทำให้ยอดการใช้จ่ายช่วงเทศกาลปีใหม่กลับมาทรงตัวเทียบกับปีก่อนได้ โดยจากการสำรวจพบว่า ปีใหม่ 2563 คนกรุงเทพฯ กว่า 58.2% เลือกทำกิจกรรมอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 59%

ปีนี้การซื้อของขวัญของฝาก เป็นกิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ มีการปรับลดลง ทั้งในส่วนของการซื้อให้ตนเอง ซื้อให้ครอบครัว ซื้อให้ลูกค้าองค์กร และซื้อเพื่อจับสลาก ซึ่งนอกจากเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อแล้ว ยังเป็นผลจากนโยบายการงดให้งดรับของขวัญช่วงปลายปีที่ได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าสินค้าประเภทกระเช้าของขวัญจะได้รับผลกระทบมากสุด ขณะเดียวกัน ก็มีบางกิจกรรมที่คนกรุงเทพฯ ทำเพิ่มขึ้นอย่างขัดเจน โดยเฉพาะการให้เงินกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะที่อยู่ในต่างจังหวัด เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ซึ่งเม็ดเงินส่วนนี้ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนน่าจะได้กระจายลงสู่ธุรกิจต่าง ๆ ในต่างจังหวัดในระดับหนึ่ง

สำหรับกลยุทธ์ที่ได้รับความสนใจและจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อสูงสุดยังคงเป็นการการลดแลกแจกแถม โดยแม้ว่าผู้บริโภคจะยังซื้อของผ่านร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้านเป็นหลัก แต่ช่องทางออนไลน์ ทั้ง E-marketplace และ Social Commerce ก็ได้รับการตอบรับและมีบทบาทมากขึ้น โดยสินค้าที่คนนิยมซื้อผ่านสองช่องทางนี้คือ เสื้อผ้า รองเท้า อาหารเสริม สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ไอที ซึ่งการเลือกช่องทางจัดจำหน่ายที่เหมาะกับประเภทสินค้าจะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น

https://www.kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/FB-NY2020-24-1219.aspx

[full-post]


เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความทวิตความเห็นกรณี นักข่าวสายทหารชื่อดังรายหนึ่ง เผยแพร่บทความอ้างว่าเป็นนายทหาร มีเป็นบทความโจมตีเหตุการณ์นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ไปร่วมงานปีใหม่เผ่าม้ง โดยนำเสนอในมุมมองเหยียดหยามกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง

นายวิโรจน์ ระบุว่า


จากบทความของ “เสืออากาศ 24/7” ที่เพจของคุณวาสนา คิดได้ไงว่า ถ้าม้งอยากมีสัญชาติไทย ต้องเปลี่ยนประเพณีวัฒนธรรมของตนเสียก่อน แล้วคนไทยเชื้อสายจีน ที่ยังไหว้เจ้าอยู่ล่ะ? ถ้าอ่านในช่วงท้าย ที่ผู้เขียนอ้างว่าเป็นมุมมองของฝ่ายทหาร นั้นเป็นการดูถูกชาวม้งอย่างชัดเจน

การเข้าใจในคุณค่าของความหลากหลายของแต่ละคน และยอมรับว่า “คนชาติเดียวกัน” ก็มีความคิด ความชอบ ความเชื่อ ที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องที่ปกติ ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุกนี้ล่ะ คือ ความปึกแผ่น และความงดงามของชาติ

การพยายามทำให้ประชาชนตัวเล็กตัวน้อยบนผืนแผ่นดินนี้ รู้สึกว่าเขาเป็น “คนไทย” เหมือนกับคนอื่นๆพยายามแก้ปัญหา เพื่อให้พวกเขาในฐานะที่เป็นคนไทยเหมือนกัน มีสิทธิขั้นพื้นฐานเท่าเทียมกับคนอื่นๆ มันคือการทำให้ชาติเป็นปึกแผ่น ดันมีคนมากล่าวหาว่าเป็นการชังชาติ บางทีก็ท้อนะ

อยากให้เปิดเผยว่า “เสืออากาศ 24/7” นั้นคือใครครับ ผมยังเชื่อว่า “น่าจะเป็นการแอบอ้างทหาร” และคนๆ นี้ ไม่น่าจะเป็นทหาร เพราะโดยวิสัยแล้ว คนที่เป็นทหาร จะมีความกล้าหาญตรงไปตรงมา กล้าทำกล้ารับ จะไม่ประพฤติตนหลบๆ ซ่อนๆ แบบนี้ครับ

[full-post]
ขับเคลื่อนโดย Blogger.