ศรีสุวรรณไปยื่นยุบพรรคก้าวไกล หาว่าจะแก้ รธน.หมวด 2
แต่ฝ่ายประชาธิปไตยกลับดรามา หาว่าพรรคก้าวไกลไม่ยอมแก้หมวด 2 ธนาธร ปิยบุตร เก่งแต่ผลักมวลชนไปตาย
ไม่รู้ฟังได้ศัพท์กันบ้างหรือเปล่า
ทำไมหูเหมือนศรีสุวรรณ
:
1.เอาความเข้าใจ รธน.เบื้องต้นไปก่อนนะ
รธน.มาตรา 256 (1) การยื่นญัตติแก้ รธน.ต้องใช้ ส.ส. 1 ใน 5
จาก 487 คนคือ 98 คน
พรรคก้าวไกลมี ส.ส.54 คน ยื่นไม่ได้ ไม่ว่ามาตราไหนหมวดไหนก็ตาม จะยื่นยกเลิก 250 ส.ว. มาตรา 269-272 ยังยื่นไม่ได้เลย
:
2.เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคือ พรรคก้าวไกลถอนชื่อ จากญัตติพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตั้ง สสร.ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ แต่ห้ามแก้หมวด 1-2 (ซึ่ึ่งพรรคร่วมรัฐบาลเอาด้วย)
:
พรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่าเมื่อแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ก็ต้องเปิดกว้างให้ สสร.พูดคุยหารือถกเถียงกันได้ทุกหมวดทุกมาตรา
(เป็นโอกาสที่นักศึกษาประชาชนจะได้นำเสนอเข้าไปให้ สสร.พิจารณา สังคมจะได้ถกเถียงกัน)
การไปบล็อก สสร.ไว้ว่า "ห้ามแก้" ก็คือ "ห้ามพูด" สสร.ก็พูดไม่ได้ นักศึกษาประชาชนก็พูดไม่ได้ เพราะ สสร.จะข้าม 2 หมวดนี้ไป
:
เมื่อสื่อไปถาม ส.ส.ก้าวไกลว่าต้องการแก้หมวด 2 ใช่หรือไม่
เขาก็ต้องตอบว่าไม่ใช่
เพราะตามที่ว่ามาคือ 1.ยื่นญัตติเองไม่ได้อยู่แล้ว
2.การแก้รัฐธรรมนูญจะอยู่ที่ สสร.
สิ่งที่ก้าวไกลเรียกร้องคือ เปิดพื้นที่ให้ สสร.และประชาชน ได้ถกเถียงกันเรื่องการแก้ไขหมวด 1 หมวด 2
(แน่ละ 3 เขาก็ต้องป้องกันการโจมตี เพราะสื่อจะถามให้เป็นประเด็นเอาไปเล่นงาน "ล้มเจ้า" ถ้าตอบไปว่าอยากแก้หมวด 2 จนตัวสั่น ทั้งที่ความเป็นจริงทำไม่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์และเป็นโทษมากกว่า)
:
ถามว่าตอบอย่างนี้ผิดตรงไหน
ทำไมไปตีความว่าหัวเด็ดตีนขาดก้าวไกลก็จะไม่แก้
กลายเป็นพรรคการเมืองปกป้องศักดินา?
หรือทำตัวเองหล่อให้คนตัวเล็กตัวน้อยไปตาย
:
3.การเป็นพรรคการเมือง กับการเป็นปัจเจกชน
มันมีบทบาทภาระหน้าที่แตกต่างกัน
พรรคการเมืองต้องเป็นตัวแทนประชาชนวงกว้าง ไม่ใช่เฉพาะประชาชนหัวหอก แล้วก็ต้องวางภาระหน้าที่ของตัวเองอีกระดับ เพื่อเอาสถานะในสภามาสนับสนุนการเคลื่อนไหว
ถ้าไม่เข้าใจหลักการนี้ก็จะเอาแต่เรียกร้องให้พรรคการเมืองอยู่แถวหน้า ตายก่อน (ความจริงอนาคตใหม่ก็ตายแล้วไง)
:
ปัจเจกชน นักวิชาการ เสนอข้อเรียกร้องแหลมคม
พรรคการเมืองซึ่งเป็นฝ่ายค้านไม่ได้มีอำนาจทำตามนั้น
(ต่อให้เป็นรัฐบาล ผมก็ว่าทำไม่ได้)
เขาไม่จำเป็นต้องมาแอ่นรับ ถือธงนำหน้า เพราะเขาต้องพิจารณาความเสี่ยงรอบด้าน เขายังมีภาระหน้าที่อื่นอีกมากที่ต้องต่อสู้ในสภา
แต่บทบาทสำคัญของเขาคือ ปกป้อง แสดงจุดยืนว่านี่เป็นสิทธิเสรีภาพ ที่จะเรียกร้องได้ ไม่ผิดกฎหมาย ใช้สถานะ ส.ส.มาดูแลม็อบ ประกันตัว แล้วก็เรียกร้องให้สังคมเปิดพืนที่รับฟัง ให้การตั่้ง สสร.เปิดกว้าง ฯลฯ อย่างที่ก้าวไกลทำ แล้วมันผิดอย่างไร
:
ถ้าดูในความเป็นจริง ข้อเรียกร้อง 10 ข้อ วันนี้มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 2
ต่อให้พรรคก้าวไกลมี 99 เสียง เสนอได้ ก็แค่สะใจเท่านั้น
(ต่อให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก็ถูกรัฐประหาร)
สิ่งที่จะต้องทำและที่จะเป็นไปคือการรณรงค์เผยแพร่ให้กว้างขวาง อย่างที่สั่นสะเทือนอยู่ เป็นการเปลี่ยนแปลงจากด้านล่าง
ซึ่งก็ต้องยกย่องว่าเริ่มจากปัจเจกชนคนกล้าเป็นหัวหอก
:
ผมเคารพชื่นชมคนที่กล้าเสี่ยง
เพียงต้องเข้าใจว่า คนอื่นอีกเป็นจำนวนมากไม่ได้อยู่ในสถานะที่พร้อมจะเป็นหัวหอกแบบคุณ
หรือบางคนเขาก็คิดว่า (ตกใจด้วย) มันเร็วไปไหม
กระนั้นเมื่อคุณโดดออกมาเป็นหัวหอก ทุกคนก็พร้อมจะเป็นพลังปกป้อง สนับสนุน ในภาระหน้าที่ที่แตกต่างกันไป
(ขึ้นรถไฟเหาะตีลังกามาด้วยกันแล้ว จะทิ้งกันได้ไง)
:
พูดอีกอย่างว่า ในการตัดสินใจครั้งนี้
คุณเป็นผู้กล้า ท้าทาย ไปยืนเสี่ยงปากเหว
โดยที่คนร่วมขบวนไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แต่ต้องพลอยโจนไปด้วยกัน คือต้องปกป้อง ต้องสนับสนุน
(และมีด้านดีที่ได้การขานรับจากเยาวชนนักเรียนนักศึกษา)
แต่จะบอกว่า เฮ้ย ทุกคน พรรคการเมือง สื่อ นักวิชาการ
ต้องมายืนปากเหวด้วยกันสิ
มันไม่ใช่มั้ง
:
4.สำหรับคนที่ลี้ภัย
เขามีคุณูปการให้การข้อมูลความรู้ความตื่นตัวอย่างที่คนในประเทศทำไม่ได้ เคลื่อนไหวอย่างที่เราทำไม่ได้
:
แต่เวลาที่เขาเรียกร้องให้คนในประเทศทำอะไร
จะพูดว่าไม่เข้าใจยุทธศาสตร์ยุทธวิธีจังหวะก้าว ฯลฯ ไม่เข้าใจหลักการเคลื่อนไหวอะไรเลย ยังน้อยไป
เขาไม่เคยมองความเป็นจริงที่คนในประเทศต้องเผชิญ ไม่เคยมองความเสี่ยง ความจำเป็นที่จะต้องหลบเลี่ยงรักษาสถานะเพื่อต่อสู้ต่อไป ของคนส่วนต่างๆ
ใครไม่ทำอย่างที่เขาต้องการก็กลายเป็นคนขี้ขลาดไปหมด
กลายเป็นผลักคนอื่นไปตาย
:
ทำไมไม่คิดบ้างว่าที่ตัวเองเรียกร้อง
คือผลักคนอื่นไปตาย
แสดงความคิดเห็น