สุขุม สมหวัง ยังวัน

ใครแพ้ใครชนะ (1)
ม็อบ 25 พ.ย. 63 ที่มีเป้าหมายเดิมที่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนจุดนัดพบถึงสองครั้ง เป็นที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย และมาจบที่ SCB ได้สะท้อนความจริงให้สังคมรับรู้ หลายประการ
1. ความแตกตื่นโกลาหลของศักดินาและสมุน เริ่มจากการใช้ ฮ.บินลาดตระเวนในระดับต่ำไปทั่วกรุง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ประชาชนทั่วไป เขาคาดหวังว่า จะข่มขวัญให้ประชาชนเกรงกลัว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน ที่ยังไม่รู้เรื่องม็อบวันนั้น หันมาสนใจ และสอบถามต้นสายปลายเหตุ และรับรู้เข้าใจเป้าประสงค์ของม็อบไปในที่สุด กลายเป็นลูกศรอาบยาพิษ ที่ย้อนกลับมาพุ่งใส่คนยิงเข้ากลางอกอย่างเหมาะเหม็ง
2. การปักป้าย"เขตพระราชฐาน" ไว้โดยรอบสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยต้องการสื่อเป็นนัยว่า "เขตใช้กระสุนจริง" พร้อมทั้งขนเอาตู้คอนเทนเนอร์มาตั้งรายล้อมเส้นทางทุกสายที่มุ่งไปที่นั่น วางแนวลวดหนาม แบริเออร์ปูน ฯลฯ จนกลายเป็นกำแพงยักษ์ ที่สื่อเผยแพร่ไปทั่วโลก กลับยิ่งเป็นการประจานความโฉดเขลาและขลาดกลัวของพวกเขาไปทั่ว ถึงขนาดบริษัทต่างชาติเจ้าของตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีเครื่องหมายการค้าติดอยู่ ต้องออกมาชี้แจงปฏิเสธความเกี่ยวพันของบริษัทตน กับรัฐบาลไทย ส่งผลให้ฝ่ายรัฐ ต้องสั่งให้สมุนบริวารเอาสีไปทาทับเครื่องหมายการค้าบนตู้ จนกลายเป็นการแสดงความโง่ซ้ำซ้อน เสียหายทางการเมืองหนักเข้าไปอีก
3. การระดมกองกำลัง ทั้งตำรวจ และทหาร เข้ามาจำนวนมหาศาล ทั้งมาในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบ อีกทั้งย่ามใจขนาดมาฝึกซ้อมการเผชิญเหตุกลางถนนในกรุง อย่างไม่แคร์สายตาประชาชน และสื่อมวลชน แทนที่จะเป็นการข่มขวัญมวลชน กลับยิ่งเป็นการประจานตัวเองหนักเข้าไปอีก
4. ทันทีที่แกนนำประกาศเปลี่ยนเป้าหมายเป็น SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็รีบสั่งปิดธนาคารทันที ความเสียหายทางการเงินในการปิดธนาคารแม้เพียงหนึ่งวัน คงมีมูลค่าหลายร้อย หรืออาจถึงหลายพันล้านบาท ไม่นับรวมความน่าเชื่อถือของธนาคารต่อนักธุรกิจทั่วโลก แล้วใครกันที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารแห่งนี้?
นี่ถ้าไม่ใช่การยกก้อนหินทุ่มขาตัวเอง จะเรียกว่าอะไร?
5. เอกสารลับของราชการแทบทุกระดับชั้นความลับ ไม่ว่า ปกปิด ลับ จนถึงลับมาก ถูกนำออกเผยแพร่ไปทั่วสังคมออนไลน์ และสื่อมวลชน สะท้อนให้สันนิษฐานไปได้สองแง่ แง่หนึ่ง มีหนอนบ่อนไส้แทรกซึมอยู่ในแทบทุกวงการ หรืออีกแง่หนึ่ง คือข้าราชการ ตำรวจและทหาร เริ่มไม่เห็นด้วยกับประกาศหรือคำสั่งเหล่านั้น และนำเอกสารเหล่านั้นออกเผยแพร่เสียเอง
ไม่ว่าจะมองแง่ใด ย่อมสร้างความหวาดระแวงกันเองในหมู่ชนชั้นปกครอง จนยากจะจัดการปัญหาของฝ่ายตนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นับเป็นสัญญาณบอกเหตุที่สำคัญยิ่งของสภาพ"รัฐล้มเหลว"ที่กำลังเกิดขึ้น
6. การใช้อันธพาล มาปาระเบิดและยิงใส่การ์ดของผู้ชุมนุม ขณะกำลังสลายตัว จนเป็นเหตุให้ทีมการ์ดได้รับบาดเจ็บไปหนึ่งคน แต่ก็ต้องแลกกับผู้ก่อเหตุถูกจับตัวได้แทบจะในทันทีทันใด สะท้อนให้เห็น
6.1 ความจนตรอกของรัฐ ที่ไม่อาจใช้เครื่องมือที่ถูกกฎหมายในมือของตนได้แล้ว
6.2 ธาตุแท้ของความป่าเถื่อนอำมหิตของผู้เสียประโยชน์
6.3 ความมีประสิทธิภาพของกลุ่มการ์ดทุกกลุ่ม ที่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ทำให้การสืบหาผู้บงการ ทำได้ไม่ยากเย็นนัก ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ผู้บงการ และผู้ลงมือ ต้องคิดหนักขึ้นที่จะก่อเหตุทำนองเดียวกันนี้อีกในอนาคต
ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงด้านของความพ่ายแพ้ถอยร่นของชนชั้นปกครอง ก่อนที่จะพูดถึงด้านชัยชนะและการรุกไล่ของฝ่ายประชาชน แต่ดูแล้วข้อเขียนนี้ชักจะยาวเกินไป จึงขอยกไปเขียนอีกตอนหนึ่ง
To be continue... โปรดติดตาม.


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.