Saiseema Phutikarn
จาก"ที่ดินสาธารณสมบัติฯ"และ"ที่ราชพัสดุ"สู่"เขตพระราชฐาน"?
วาสนา(ในฐานะกระบอกเสียงของกองทัพและรัฐบาล)ยืนยันว่าทั้ง ร.1 และ ร.11 เป็นเขตพระราชฐานทั้งคู่ ?
ทำให้เกิดคำถามคำโตว่าจากเดิมที่ดินของทั้งสองหน่วยงานมีสถานะเป็น "ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน" และ "ที่ราชพัสดุที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของ" ที่อยู่กลางใจเมืองรวมกันเกือบ 2 พันไร่ได้กลายมาเป็น "เขตพระราชฐาน" ตั้งแต่เมื่อไหร่?
แล้วการเปลี่ยนสถานะจากที่ดินสาธารณฯสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน/ที่ราชพัสดุ มาเป็น "เขตพระราชฐาน" คือการเอาที่ดินรัฐสมบัติแผ่นดินเป็นเกือบ 2 พันไร่กลางใจเมืองให้กลายมาเป็นสมบัติส่วนตัวหรือไม่?
//ราบ 11//
ที่ดินของราบ 11 บริเวณบางเขนเดิมนั้นมีสถานะ 2 แบบ คือ 1. เป็น" ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน" และ 2. เป็น"ที่ราชพัสดุอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ" ซึ่งเมื่อเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่สามารถจะโอนย้ายถ่ายเทได้ยกเว้นออกเป็น พรบ.
แต่ในวันที่ 13 กค.2562 มีการออก พรฎ เพื่อถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ ซึ่งเป็นที่ดินของ ราบ 11 ไปเป็นเนื้อที่ 1,340 ไร่... ทำให้ที่ราชพัสดุในบริเวณนั้นไม่มีสถานะเป็นสาธารณสมบัติฯอีกต่อไป การสามารถโอนเปลี่ยนสภาพเปลี่ยนเจ้าของก็ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องออก พรบ ใช้เพียง มติ ครม
จะเหลือเพียงที่ดินบางส่วน(ที่เป็นคลอง) ที่ยังมีสถานะเป็นสาธารณะสมบัติ (ใน พรฎ ฉบับเดียวกัน มีการถอนสภาพที่ดินริมน้ำใกล้ท่าพายัพ ซึ่งอยุ่ติดกับที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯด้วย แต่จะขอละไม่อธิบายในที่นี้)
https://prachatai.com/journal/2019/07/83404
อีกราว 2 เดือนกว่า (30 กย 62) มีการออก พรก โอนกำลังผล ร.1 และ ร.11 ไปให้เป็นส่วนราชการในพระองค์)
https://www.bbc.com/thai/thailand-49880897
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิย 63 ก็มีการออก พรฎ ถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันอีกประมาณ 34 ไร่ ทำให้ที่ดินบริเวณ ราบ 11 ทั้งหมดไม่มีสถานะเป็นที่ดินสาธารณสมบัติอีกต่อไป การโอนเปลี่ยนสภาพสามารถทำได้ง่ายขึ้นไม่ต้องออกเป็น พรบ
https://prachatai.com/journal/2020/06/88310
//ราบ 1//
ที่ดิน ราบ 1 (มี 2 ส่วนคือ สามเสน และ วิภาวดี) เดิมก็มีสถานะเป็น "ที่ราชพัสดุอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ"เช่นกัน
แต่เมื่อวันที่ 5 กค 62 ได้มีการออก พรฎ เพื่อถอนสภาพการเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะของที่ราชพัสดุ บริเวณพื้นที่ ราบ 1 ทั้ง 2 ส่วนรวมกันประมาณเกือบ 500 ไร่ อย่างเงียบๆ ขนาดที่ไม่ค่อยมีสื่อรายงาน เพราะยังไม่เข้าใจในนัยยะที่แท้จริง ส่วนใหญ่คาดว่าเป็นไปตามนโยบายย้ายทหารออกนอกเมือง
เมื่อที่ราชพัสดุบริเวณนั้นไม่มีสถานะเป็นสาธารณสมบัติอีกต่อไป ก็สามารถโอนเปลี่ยนสภาพเปลี่ยนเจ้าของได้ง่าย ไม่ต้องออก พรบ ใช้เพียง มติ ครม
อีกราว 2 เดือนกว่า (30 กย 62) ถึงมีการออก พรก โอนกำลังผล ร.1 และ ร.11 ไปให้เป็นส่วนราชการในพระองค์) เมื่อถึงตอนนี้สื่อถึงพึ่งเข้าใจถึงจุดประสงค์ในการถอนสภาพการเป็นสาธารณฯที่ทำไปทันที
https://www.bbc.com/thai/thailand-49880897
//กฎการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุฯเปลี่ยนให้ง่ายขึ้นสำหรับ"กิจการของพระมหากษัตริย์"//
เมื่อวันที่ 26 พย 62 มีการประกาศกฎกระทรวงเรื่อง "การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุที่มิใช่ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ พ.ศ. 2562" ซึ่งเป็นฉบับใหม่ โดยมีเนื้อหาที่เปลี่ยนไปที่สำคัญใน ข้อ 2 วรรค 2 ยกเว้นให้การโอนกรรมสิทธิ์ให้"กิจการของพระมหากษัตริย์" ไม่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงนี้ เพียงแค่ให้ปลัดเสนอ รมต และ ให้ ครม อนุมัติก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ทันที ต่างจากฉบับเดิมที่ออกในปี 2550 ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นเรื่องนี้
อย่างไรก็ตามจนถึงวันนี้รัฐบาลไม่เคยมีการเปิดเผยข้อมูลว่าได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเกือบ 2 พันไร่กลางกรุงเทพฯไปให้ "กิจการของพระมหากษัตริย์"แล้วหรือไม่อย่างไร? มีเพียงการเอ่ยถึงอย่างไม่เป็นทางการเป็นครั้งคราวว่าบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็น "เขตพระราชฐาน"
ปล. เรื่องการถอนสภาพที่ราชพัสดุเพื่อ "กิจการของพระมหากษัตริย์" ยังมีอีกหลายกรณี แต่เอาเท่านี้ก่อนเพื่อไม่ให้ยาวเกินไป


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.