การเมืองไทย ในกะลา
นศ.ยันสู้ต่อเพื่ออนาคตตัวเอง หลัง ตร.เตือน ‘ให้เลิกยุ่งการเมือง’
ตำรวจเข้าเยี่ยมบ้านนักศึกษาพร้อมเตือน ‘ให้เลิกยุ่งการเมือง’ หลังนักศึกษาพูดการเมืองในเฟซบุ๊กและเคยร่วมแฟลชม็อบต้านรัฐบาลก่อนโควิด เจ้าตัวยันไม่เลิก ขอสู้ต่อเพื่ออนาคตของตัวเอง
11 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สราวุฒิ หนูเกลี้ยง นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และเป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวประชาไทว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2563 เวลาประมาณ 4 โมงเย็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในชุมชนยายของนักศึกษาดังกล่าว แต่ตนไม่ได้สงสัยอะไรเนื่องจากชุมชนที่ตนอยู่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด ต่อมาในเวลาประมาณ ตี 1 กว่าๆ มีญาติที่รู้จักกับนักศึกษาได้เข้ามาพูดคุยกับทางครอบครัวของนักศึกษาและทางครอบครัวได้มาแจ้งกับนักศึกษาว่า “ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ให้เลิกยุ่งเรื่องการเมืองซะ”
สราวุฒิให้สัมภาษณ์ต่อว่า หลังจากเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือกลัวอะไร ยืนยันว่าจะขอต่อสู้เรื่องนี้ต่อไปแม้จะถูกคุกคามก็ตาม เพราะตนรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของตัวเอง ของน้องสาว และอนาคตถ้าผมมีลูกก็คงเป็นห่วงอนาคตของลูก
"ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรและจะขอไม่หยุด เพราะผมเป็นห่วงอนาคตของตัวเองและก็น้องสาวของผม และถ้าผมมีลูกก็ไม่รู้ว่าสภาพสังคมจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า และก็เป็นห่วงอนาคตของคนอื่นๆ ด้วย ถ้าหากเราไม่สู้ต่อก็กลายเป็นว่าเขาก็จะปกครองเราได้ง่ายขึ้นโดยใช้ความกลัวเข้ามาครอบงำเรา" สราวุฒิกล่าว
ทั้งนี้สราวุฒิกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบนักศึกษาต่อต้านรัฐบาลเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเข้าสู่รูปแบบการเรียนออนไลน์เนื่องจากสถานการณโรคระบาดโควิด-19 หลังจากนั้นจึงเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กแทน
https://prachatai.com/journal/2020/06/88091
นศ.ยันสู้ต่อเพื่ออนาคตตัวเอง หลัง ตร.เตือน ‘ให้เลิกยุ่งการเมือง’
ตำรวจเข้าเยี่ยมบ้านนักศึกษาพร้อมเตือน ‘ให้เลิกยุ่งการเมือง’ หลังนักศึกษาพูดการเมืองในเฟซบุ๊กและเคยร่วมแฟลชม็อบต้านรัฐบาลก่อนโควิด เจ้าตัวยันไม่เลิก ขอสู้ต่อเพื่ออนาคตของตัวเอง
11 มิ.ย.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สราวุฒิ หนูเกลี้ยง นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และเป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวประชาไทว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2563 เวลาประมาณ 4 โมงเย็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในชุมชนยายของนักศึกษาดังกล่าว แต่ตนไม่ได้สงสัยอะไรเนื่องจากชุมชนที่ตนอยู่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด ต่อมาในเวลาประมาณ ตี 1 กว่าๆ มีญาติที่รู้จักกับนักศึกษาได้เข้ามาพูดคุยกับทางครอบครัวของนักศึกษาและทางครอบครัวได้มาแจ้งกับนักศึกษาว่า “ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ให้เลิกยุ่งเรื่องการเมืองซะ”
สราวุฒิให้สัมภาษณ์ต่อว่า หลังจากเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจหรือกลัวอะไร ยืนยันว่าจะขอต่อสู้เรื่องนี้ต่อไปแม้จะถูกคุกคามก็ตาม เพราะตนรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของตัวเอง ของน้องสาว และอนาคตถ้าผมมีลูกก็คงเป็นห่วงอนาคตของลูก
"ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรและจะขอไม่หยุด เพราะผมเป็นห่วงอนาคตของตัวเองและก็น้องสาวของผม และถ้าผมมีลูกก็ไม่รู้ว่าสภาพสังคมจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า และก็เป็นห่วงอนาคตของคนอื่นๆ ด้วย ถ้าหากเราไม่สู้ต่อก็กลายเป็นว่าเขาก็จะปกครองเราได้ง่ายขึ้นโดยใช้ความกลัวเข้ามาครอบงำเรา" สราวุฒิกล่าว
ทั้งนี้สราวุฒิกล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเข้าร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบนักศึกษาต่อต้านรัฐบาลเมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ตนจะเข้าสู่รูปแบบการเรียนออนไลน์เนื่องจากสถานการณโรคระบาดโควิด-19 หลังจากนั้นจึงเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กแทน
https://prachatai.com/journal/2020/06/88091
แสดงความคิดเห็น