Watana Muangsook

การประชุมงบประมาณวานนี้ อธิบดีกรมบัญชีกลางได้ชี้แจงตามคำซักถามของผมว่า ประเทศไทยมีข้าราชพลเรือนทั้งหมดประมาณ 1.7341 ล้านคน ตำรวจประมาณ 300,000 คน ทหารประจำการประมาณ 480,000 คน และทหารเกณฑ์อีกประมาณ 120,000 คน รวมข้าราชการทั้งทหารและตำรวจทั้งประเทศ 2.6 ล้านคนที่เป็นภาระแก่งบประมาณ

นับแต่มีการยึดอำนาจตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา เผด็จการทหารได้ออกกฎหมายขยายความเป็นรัฐราชการให้เติบโตขึ้นมาตลอด รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์กับพวกพ้อง เช่น รัฐบาลประยุทธ์ให้วันเวลาทวีคูณกับทหารตำรวจทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 6-7 แสนคนระหว่างมีการประกาศกฎอัยการศึกภายหลังการยึดอำนาจซึ่งเป็นภาระแก่งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท แต่กรมบัญชีกลางไม่ยอมตอบคำถามนี้อ้างว่าไม่ได้คำนวณไว้เพราะเป็นหน้าที่ของแต่ละหน่วยที่จะขอเบิกจ่าย
ส่วนโครงสร้างงบประมาณนับแต่ปี 2550-2564 สัดส่วนของรายจ่ายประจำเพิ่มขึ้น 2.22 เท่า แต่รายจ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 เท่า ล่าสุดในปี 2564 มีรายรับที่มาจากการจัดเก็บภาษี 2.67 ล้านล้านบาท แต่มีรายจ่ายประจำและรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 2.625 ล้านล้านบาท ซึ่งหากจัดเก็บภาษีได้ตามประมาณการเราจะเหลือเงินเพื่อพัฒนาประเทศไม่ถึง 50,000 ล้านบาท จึงเป็นเหตุให้พลเอกประยุทธ์ต้องกู้เงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีปัญญาบริหารประเทศจนต้องเดินสายไปขอคำแนะนำจากสื่อมวลชนถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ดูตามโครงสร้างของงบประมาณแล้ว ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องลดรายจ่ายประจำทันทีเพื่อให้เหลือเงินใช้ในการพัฒนาประเทศ ส่วนราชการแรกที่ผมมองเห็นทันทีคือกองทัพที่มีกำลังพลรวมกันถึง 600,000 นาย มากกว่า3 ประเทศมหาอำนาจอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมันที่มีทหารรวมกันเพียง 520,000 คน ยังไม่นับรวมการผลาญงบประมาณซื้ออาวุธที่ไม่มีประโยชน์กับประชาชน หากปล่อยไปแบบนี้รีดภาษีจากประชาชนได้เท่าไรก็ไม่พอจ่ายเงินเดือนข้าราชการ
วัฒนา เมืองสุข
11 กรกฎาคม 2563

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.