คอลัมน์ : ทนายฉลาด ยามา

ผมเคยคิดเหมือนเนติวิทย์.....ไม่เชื่อไม่นับถือใครง่ายๆ....จำใจร้องเพลงชาติ...อยากให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย....คนหายจน...ไม่มีความเหลื่อมล้ำในสังคม....อยากเอาที่ทั้งหมดในประเทศมาแบ่งสรรปั่นสว่นให้เกิดความเท่าเทียม...เคยอยู่กับ...ลุงสมคิด ศรีสังคม...ท่านเตือนผมว่าคุณฟุ้งซ่านไป.......ให้อยู่กับความจริงซิ....พอกาลเวลาผ่านไป....ความคิดก็ถูกความจริงค่อยๆกล่อมเกลา...หล่อหลอม...ว่าความจริงในสังคมมันต้องมีวัฒนธรรม....มีความงามในทุกๆมิติ...ผมเลยกลายเป็นคนละคนไป...ฟังเพลงชาติก็เพราะ....เห็นผู้ใหญ่ก็ไหว้จากใจจริง.....เพียงแต่ที่ผมเปลี่ยนไม่ได้คืออยากเห็นประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย....อยากเห็นคนไทยมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้...อยากเห็นคนไทยมีสิทธิ์เสรีภาพในกรอบของกฏหมายที่เป็นประชาธิปไตย....สมัยนั้นลุง สมคิดไม่เคยด่าว่าผมว่า...ทำให้พรรคฯเสียหาย...แต่ท่านเตือนด้วยความเมตตาว่า.....คุณอย่าฟุ้งสร้านนะมันเป็นไปไม่ได้หรอก......สังคมมันมีหลายมิติ....ผมเก็บเอาไปคิด...และก็เข้าใจความจริงและกลับมาอยู่ในกรอบวัฒนธรรมได้......่ลุงประยุทธ์....ก็อย่าด่าเด็กหรือประณามเด็กเลย...เอาอย่างลุงสมคิดซิครับ.....เตือนเขาเหมือนลูกหลาน....เมื่อกาลเวลาผ่านไป...ความคิดคนมันกล่อมเกลาได้.....เพียงแต่ผู้ใหญ่ต้องเป็นตัวอย่างของเด็กคือพูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น .....ถ้าพูดอย่างทำอย่างเด็กมันก็ถอนหงอกเอา.......นิติวิทย์....เขาอยู่ในวัยกำลังแสวงหา...สาระของชีวิต........ความคิดแผลงๆอย่างนี้อาจจะสร้างชื่อให้ จุฬาฯ ในอนาคตก็ได้.......

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.