ดิอิโคโนมิสต์ชี้ อนาคตพลังงานทางเลือกยังตะกุ กตะกัก ต้องปรับระบบตลาดใหม่
Posted: 26 Feb 2017 11:14 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
บทความในนิตยสารดิอิโคโนมิสต์ ฉบับประจำวันที่ 25 ก.พ. 2560 ระบุถึงเรื่องพลังงานสะอาดหรื อพลังงานหมุนเวียนจำพวกพลั งงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานลม โดยถึงแม้ว่าพลังงานเหล่านี้ จะถูกมองเป็นทางเลือกใหม่เพื่ อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องพูดถึ งเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกเหล่ านี้
ดิอิโคโนมิสต์ระบุว่าถึงแม้ว่ าที่ผ่านมาเกือบ 150 ปี หลังจากที่มีการคิดค้นการใช้พลั งงานโซลาร์เซลล์และพลังงานลม พลังงานเหล่านี้ก็ผลิตกระแสไฟฟ้ าได้แค่ร้อยละ 7 ของการผลิตกระแสไฟฟ้าโลก แต่ปัจจุบันการหันมาใช้พลั งงานหมุนเวียนเริ่มเติบโตขึ้ นอย่างรวดเร็วและราคาก็ต่ำ ลงจนเริ่มแข่งขันในระดับเดียวกั บพลังงานจากฟอสซิลหรือซากดึ กดำบรรพ์ได้ ทำให้อนาคตในอีก 20 ปีข้างหน้าคาดเดาได้ว่าอาจจะเป็ นอนาคตของพลังงานหมุนเวียนที่ ราคาถูกซึ่งสมควรจะเป็นเช่นนั้น
อย่างไรก็ตามดิอิโคโนมิสต์ก็ยั งมองว่าพลังงานหมุนเวียนก็มีปั ญหาของมันเองในทางเศรษฐกิจ เพราะยิ่งวางพลังงานหมุนเวี ยนเพิ่มมากขึ้น ราคาของพลังงานจากแหล่งอื่นๆ ก็จะลดลงตามไปด้วย เรื่องนี้มีผลทำให้การเปลี่ ยนแปลงไปสู่ยุคสมัยที่ ปราศจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็ นไปได้ยากขึ้น ในยุคสมัยที่ทั้งเทคโนโลยีพลั งงานสะอาดหรือพลังงานไม่สะอาดทั้ งหลายควรจะทำกำไรได้ต่อไปเรื่ อยๆ ถ้าหากอยากให้การใช้ไฟฟ้าดำเนิ นต่อไปได้ รัฐมักจะจัดการแก้ไขจั ดการตลาดด้วยวิธีให้เงินอุดหนุ นอุตสาหกรรมเหล่านี้เพิ่มมากขึ้ นเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีรัฐบาลของบางประเทศเริ่ มเล็งเห็นความไม่สะดวกตรงนี้ จนปรับลดงบประมาณในเรื่องนี้ ลงก่อนเช่นบางประเทศในยุ โรปและประเทศจีน
แต่ดิอิโคโนมิสต์ก็ระบุว่าวิธี การแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้ หมายความว่าต้องถอยหลังเข้ าคลองด้วยการลดพลังงานลมหรือพลั งงานแสงอาทิตย์ลง แต่ควรจะปรับเปลี่ยนวิธีการตั้ งราคาพลังงานสะอาดเพื่ อจะเอามาทำประโยชน์ได้ ดิอิโคโนมิสต์มองว่าปัญหาคื อการที่พลังงานสะอาดจากการสนั บสนุนของรัฐบาลเป็ นการออกแบบตลาดคนละยุคสมัย โดยที่ในปัจจุบันธุรกิจด้านพลั งงานจะเริ่มถูกแปรรูปเป็ นเอกชนมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่ออาศัยอำนาจตลาดในการตัดสิ นใจว่าจะลงทุนที่ไหน แต่พอมีพลังงานสะอาดกลายเป็ นประเด็นทำให้รัฐคืบเข้ามาควบคุ มตลาดพลังงานอีกครั้ง
ดิอิโนโนมิสต์มีความคิดเห็ นในเรื่องนี้ว่าการที่รัฐเข้ ามาควบคุมตลาดพลังงานจะทำให้เกิ ดปัญหา 3 ประการ ประการแรกคือตัวระบบการให้เงิ นอุดหนุนจากรัฐบาลเอง ปัญหาประการต่อมาคือเรื่ องธรรมชาติของพลั งงานลมและแสงอาทิตย์ และประการที่สามคือความไม่ต่ อเนื่องกับการดำเนินการด้ วยราคาที่ต่ำมาก ทั้งหมดนี้ช่วยอธิบายว่ าทำไมราคาพลังงานเหล่านี้ถึงมี ราคาต่ำและทำไมการให้เงินอุดหนุ นจากรัฐบาลจึงทำให้เกิดการเสพติ ดการช่วยเหลือจากภาครัฐ
ในประการแรกเรื่องเงินช่วยเหลื อจากรัฐบาลที่มีการช่วยเหลื อในเรื่องนี้นับหลายแสนล้ านดอลลาร์ตั้งแต่ปี 2551 ทำให้เกิดการบิดเบือนตลาด ถึงแม้ว่าการให้เงินอุดหนุนเช่ นนี้จะมีเจตนาในการแก้ไขปั ญหาโลกร้อนแต่การส่งเสริมเช่นนี้ ก็เกิดขึ้นในยุคเดียวกับที่ผู้ คนในประเทศร่ำรวยเริ่มใช้ไฟฟ้ าลดลงรวมถึงเกิดวิกฤตการเงิน จนทำให้เกิดการผลิตพลังงานเกิ นจะใช้งานส่งผลให้ตัวทำรายได้ จากตลาดค้าพลังงานลดลงและทำให้ เกิดการลงทุนน้อยลง
ปัญหาประการที่สองคือความไม่ต่ อเนื่องของพลังงานสีเขียวอย่ างลมและแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะในประเทศที่ไม่ได้มี สภาพอากาศที่เอื้อต่อพลั งงานเหล่านี้ทำให้พวกเขาจะผลิ ตพลังงานได้เพียงแค่บางช่วง เพื่อที่จะทำให้เกิดการใช้พลั งงานได้อย่างต่อเนื่องจึงยังต้ องพึ่งพาระบบของโรงไฟฟ้าแบบเดิ มอย่างถ่านหิน ก๊าซ หรือนิวเคลียร์ เอาไว้ เพื่อสำรองเวลาพลังงานสะอาดสะดุ ด แต่การสะดุดไปนานๆ ก็ทำให้ยากที่จะดึงดู ดเอกชนมาลงทุน พวกเขาเลยต้องกันไปพึ่งพาเงินทุ นจากงบประมาณรัฐแทน
การที่พลังงานลมและแสงอาทิตย์ เป็นสิ่งที่ฟรีทำให้ไม่มีค่าใช้ จ่ายประจำหรือมีน้อยมากนำมาสู่ ปัญหาประกาศที่สามคือ ในตลาดที่ต้องการพลังงานที่ใช้ ค่าใช้จ่ายระยะสั้นต่ำสุด ทำให้พลังงานลมและแสงอาทิตย์แย่ งตลาดจากธุรกิจพลังงานที่ใช้ค่ าใช้จ่ายสูงกว่าอย่างโรงไฟฟ้าถ่ านหินทำให้เกิดการกดราคาพลั งงานลงและทำให้รายได้ทั้ งหมดลดลงไปด้วย
ดิอิโคโนมิสต์ระบุว่าในประเทศที่ เน้นเรื่องพลังงานหมุนเวี ยนโดยเฉพาะในที่ที่ตลาดอิ่มตั วปัญหานี้ยิ่งจะยิ่งแย่ลง ในยุโรปดูเหมือนจะเริ่มรับรู้ถึ งผลกระทบนี้แล้วจากการที่รายได้ ตอบแทนลดลง เกิดทรัพย์สินที่กลายเป็นภาระผู กพันและความวุ่นวายของบรรษัท เมื่อปีที่ผ่านมาผู้ให้บริ การไฟฟ้ารายใหญ่สุดของเยอรมนี สองรายมีการแยกบริษัทใหม่ ออกไปทำกิจการพลังงานแบบดั้งเดิ มทั้งคู่ เช่น E.on มีการแยกบริษัท Uniper ออกไปทำพลังงานจากซากดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะ ส่วนอีกบริษัทหนึ่งในเยอรมนีคือ RWE ก็มีบริษัทแยกออกไปเป็น Innogy SE ในส่วนที่มีพลังงานหมุนเวียนอยู่ มากในสหรัฐฯ ผู้ให้บริการไฟฟ้าก็ต้องดิ้ นรนอย่างมากในการแสวงหานักลงทุ นเพื่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ ในจีนที่มีใช้ทรัพยากรจากลมได้ มากก็ต้องจำกัดกังหันรับลมลงเพื่ อให้โรงไฟฟ้าถ่านหินดำเนินธุรกิ จต่อไปได้
ในระบบที่การลงทุนมักจะมุ่งไปสู่ ภาคส่วนที่คนสนับสนุนจนทำให้มี การกำกับดูแลในภาคส่ วนของการไฟฟ้าอีกครั้งได้สร้ างสิ่งที่ขัดแย้งในตัวเองขึ้ นมาคือยิ่งภาครัฐส่งเสริมพลั งงานหมุนเวียนมากขึ้นเท่าใด พวกเขาก็ต้องจ่ายให้กับโรงไฟฟ้ าแบบดั้งเดิมมากขึ้นตามไปด้ วยเพื่อกลบความไม่ต่อเนื่ องของพลังงานหมุนเวียนที่ จะทำให้ไฟฟ้าดับ ดังนั้นแทนที่จะลดการปล่อยก๊ าซเรือนกระจกกลับจะยิ่งสร้างก๊ าซเรือนกระจกมากขึ้น ดังนั้นถ้าไม่มีวิธีการทำธุรกิ จพลังงานหมุนเวียนแบบใหม่ก็ จะทำให้พลังงานหมุนเวียนเองไปต่ อไม่ได้
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่จะมาช่ วยปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกิ จพลังงานหมุนเวียนเอาไว้คื อเทคโนโลยีใหม่ๆ ดิอิโคโนมิสต์ระบุว่าการทำให้ เป็นดิจิทัลเช่นสมาร์ทมิเตอร์ และแบตเตอร์รี่เก็บไฟทำให้แต่ ละครัวเรือนสามารถควบคุมความต้ องการใช้ไฟได้ ถือเป็นการจัดการปัญหาความไม่ต่ อเนื่องในการผลิตไฟฟ้าของพลั งงานหมุนเวียน การทำเครื่องผลิตไฟขนาดย่อมที่ เคลื่อนย้ายได้ก็กำลังเป็นที่นิ ยมมากขึ้น
ถึงกระนั้นดิอิโคโนมิสต์ก็ แนะนำเพิ่มเติมว่ าควรออกแบบตลาดพลังงานใหม่ที่ จะสะท้อนอุปสงค์อุปทานของพลั งงานในแบบที่มีความยืดหยุ่นด้วย พวกเขาควรปรับราคาอยู่อย่างสม่ำ เสมอเพื่อสะท้อนภาวะการมีอยู่ และความต้องการใช้พลังงานนั้นๆ เช่นในช่วงที่พลังงานขาดแคลนก็ ควรปรับราคาสูงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการให้รางวั ลการใช้ไฟที่น้อยลงแบบเดียวกั บที่ให้รางวัลผู้ผลิตไฟได้มากขึ้ น มีการออกแบบบิลค่าไฟฟ้ าหลายแบบทั้งแบบราคาสูงและต่ำ แล้วแต่ว่าผู้ใช้ไฟฟ้าต้ องการใช้พลังงานไฟตลอดเวลาหรื อไม่ในลักษณะที่คล้ายๆ กับนโยบายประกันภัย พูดสั้นๆ คือปัญหาไม่ได้มาจากตัวพลั งงานหมุนเวียนเองแต่ มาจากระบบการตั้งราคาไฟฟ้าที่ล้ าสมัยไปแล้วจนต้องมีการแก้ไข
เรียบเรียงจาก
Wind and solar power are disrupting electricity systems, The Economist, 25-02-2017
http://www.economist.com/news/ leaders/21717371-thats-no- reason-governments-stop- supporting-them-wind-and- solar-power-are-disrupting
Wind and solar power are disrupting electricity systems, The Economist, 25-02-2017
http://www.economist.com/news/
แสดงความคิดเห็น