บริษัท SITE Intelligence Group ที่เฝ้าติดตามดูการก่อการร้าย ที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ เขียนว่ากลุ่มมุสลิมแนวคิดสุดโต่ง หรือจีฮัด ประกาศว่าคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามคนจาก 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศเป็นการชั่วคราว เผยให้เห็น “ความเกลียดชังของอเมริกาต่อคนมุสลิม”

ทางทำเนียบขาวได้ประกาศว่า คำสั่งห้ามนี้เป็นเรื่องความปลอดภัยและปกป้องชายแดนของอเมริกา โดยมีอิรัก อิหร่าน ลิเบีย เยเมน ซีเรีย โซมาเลียและซูดาน เป็นเจ็ดประเทศที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งห้ามนี้

ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ว่า แม้ว่าคำสั่งห้ามนี้จะไม่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ แต่ชาวอเมริกันราว 1 ใน 3 ของทั้งหมดทั่วประเทศเห็นด้วย และเป็นไปตามคำสัญญาของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง

A man paints over racist graffiti, which included such pronouncements as "Muslims out," on the side of a mosque in what officials are calling an apparent hate crime, in Roseville, California, Feb. 1, 2017.

ด้าน John Kelly รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิหรือ Homeland Security กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาว่า คำสั่งห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ นี้ ไม่ได้มุ่งเป้าที่ชาวมุสลิม และชี้ว่าทางกระทรวงมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยแก่ชาวอเมริกัน มาตุภูมิและค่านิยมของอเมริกา

Jonah Blank นักรัฐศาสตร์อาวุโสประจำบริษัท Rand Corporation กล่าวว่า กลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส กำลังใช้คำสั่งห้ามนี้เป็นเครื่องมือชักจูงคนเข้าร่วมกลุ่ม โดยใช้ในสื่อสังคมออนไลน์หลายสื่อด้วยกัน แต่ใช้ชื่อย่ออื่นๆ แทนชื่อของกลุ่มไอเอส

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า กลุ่มไอเอสได้พยายามขยายอิทธิพลเข้าไปในเอเชีย โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นชาติมุสลิมที่มีประชากรมากที่สุด เช่นเดียวกับเข้าไปในทางใต้ของฟิลิปปินส์

Muslim men attend a prayer at Istiqlal Mosque in Jakarta, Indonesia, Feb. 11, 2017. Tens of thousands gathered at the national mosque for the mass prayers urging Indonesians to vote for Muslims in city and district elections being held across the country

คุณ Greg Poling แห่ง Center for Strategic and International Studies ในฐานะผู้อำนวยการของโครงการ Asia Maritime Transparency Initiative กล่าวว่า กลุ่มไอเอสใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเผยแแพร่ข้อความของกลุ่ม และสร้างอิทธิผลแก่ผู้ติดตาม

เขากล่าวว่ากลุ่มไอเอสมีเครื่องมือที่กลุ่มก่อการร้ายก่อนหน้านี้ไม่มี นั่นก็คือสื่อสังคมออนไลน์ เช่น YouTube และความสามารถในการล้างสมองให้คนมีความคิดเเนวสุดโต่ง เห็นได้จากเหตุก่อการร้ายขนาดเล็กหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเหล่านี้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

และเขาคิดว่าคำสั่งห้ามพลเมืองจากประเทศมุสลิม 7 ประเทศ เข้าสหรัฐฯ นี้ เป็นเหมือนการเอาน้ำมันไปราดกองเพลิง

FILE - Muslim clerics are seen gathered at a mosque in central Cairo, Egypt, Feb. 3, 2015. Muslim clerics and scholars not in line with Islamic State postulates have been the latest target of IS propaganda videos.

Greg Poling กล่าวอีกว่า ประเทศต่างๆ วิตกเกี่ยวกับ "การล้างสมองผ่านสื่อสังคมออนไลน์" ของกลุ่มไอเอส และยังกังวลด้วยว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากกลุ่มไอเอสพ่ายแพ้เเละนักรบไอเอสกลับมายังประเทศบ้านเกิด

เขากล่าวว่า ยิ่งมีคนต่างชาติเดินทางมาสหรัฐฯ มากขึ้นเท่าใด ได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอเมริกันและสร้างมิตรสหายในสหรัฐฯ มากขึ้น ก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อสหรัฐฯ มากขึ้นเท่านั้น

และชี้ว่าประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุด อย่างอินโดนีเซียและปากีสถาน ซึ่งไม่อยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกห้ามเดินทางเข้าสหรัฐฯ หากประเทศเหล่านี้มองว่าสหรัฐฯ ไม่ต้อนรับชาวมุสลิม พวกเขาก็จะส่งลูกหลานไปเรียนต่อในออสเตรเลียหรือในอังกฤษแทน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสหรัฐฯ



แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.