'ชูวิทย์' จวกกล่องตำรวจราคาสุดโหด บอกไม่รู้ว่าแบบนี้เรียก 'ส่วยข้าวกล่อง' หรือเปล่า? ตำรวจไฉนกินเนื้อตำรวจด้วยกันเอง
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊ก กล่าวถึงสมัยก่อนตอนมีม็อบ เรามักจะเห็นการจัดตั้งเวทีเรียกแขก ถึงขนาดแกนนำบอกว่า “อาหารดี ดนตรีไพเราะ” เพราะมีเต๊นท์อาหารรสเด็ดหลากหลาย เลี้ยงดูเหล่าบรรดาม็อบขาประจำ ไว้อวดสื่อ ท้าทายอำนาจรัฐเวลาผ่านไปม็อบต่างๆล้วนหายหัวในช่วงรัฐบาล คสช.
แต่ “ม็อบธรรมกาย” แตกต่างจากม็อบทั่วไปเพราะเป็นพระ ฉันข้าวจากที่ญาติโยมนำมาถวาย ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะฉันไปได้อีกกี่เพล เพราะเจ้าหน้าที่ปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้เข้าออก เสบียงกรังก็ร่อยหรอลงไปเรื่อยๆ
ส่วนอีกฝั่ง แน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องนำกำลังมายันม็อบทุกม็อบ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ทุกครั้งต้องกินข้าวกล่อง จากปกติ กับข้าว 1 อย่าง ไม่ว่ากระเพรา หรือ หมูทอด + ไข่ดาว 1 ฟอง ราคา 35 - 40 บาท หากกับข้าวสองอย่างก็ไม่เกิน 50 บาท นี่เป็นราคาต่อกล่องนะ หากซื้อเยอะเป็นร้อยกล่องขึ้นไปสามารถต่อรองราคาได้ต่ำกว่านี้ ตามประสาคนค้าขาย
แต่ข้าวกล่องตำรวจราคาสุดโหด กับข้าว 1 อย่าง + ไข่ดาว ปั่นราคาไปถึง 80 บาท นี่ขนาดกินกัน 3 - 4 พันกล่องต่อมื้อ
บรรดาพ่อค้าแม่ขายต่างชื่นชมยกย่องตำรวจ ที่ช่วยให้เศรษฐกิจเฟื่องฟูหลังจากเงียบเรื่องม็อบมานาน ยกระดับราคาข้าวกล่องสูงขึ้นจากช่วงไร้ม็อบ ล้วนซาบซึ้งในน้ำใจตำรวจไทยเสียจริงๆ
ให้มันได้อย่างนี้สิ ได้จัดระเบียบวัด แถมยังกระตุ้นราคาข้าวกล่องให้กระเป๋าของพ่อค้าแม่ค้าเหลือเงินทอนกลับบ้านไปเลี้ยงลูกหลาน
ส่วนตำรวจชั้นผู้น้อยที่โอดครวญว่า “ตำรวจ ไฉนกินเนื้อตำรวจด้วยกันเอง” มาก็เหนื่อย แดดก็ร้อน แล้วยังต้องชนกับพระ แถมโดนหักหัวคิว กลับบ้านเหลือเงินไปฝากเมียเพียง 200 บาท (ได้ค่าแรงมาวันละ 440 หักค่าข้าวกล่อง กล่องละ 80 x 3 มื้อ เป็นเงิน 240 บาท เหลือเงินกลับบ้าน 200 บาทถ้วน)
ไม่รู้ว่าแบบนี้เรียก “ส่วยข้าวกล่อง” หรือเปล่า?
โถ นายนะนาย ไม่น่าทำกับผมเลย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.