ส.นักข่าว ชี้ควรเลี่ยงเสนอภาพยั่วยุให้ เกิดความรุนแรง หลังเฟซบุ๊กไลฟ์ลุงฆ่าตั วตายประท้วง ม.44
Posted: 27 Feb 2017 12:29 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ประธานกรรมการจริยธรรมวิชาชีพ สมาคมนักข่าวฯ ชี้ควรหลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพข่ าวเหตุการณ์อันเป็นการส่งเสริ มหรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เสนอภาพข่าวศพของผู้เสียชีวิตที่ นำไปสู่ความหวาดเสียว หรือซ้ำเติมความทุกข์โศกต่อญาติ ของผู้เสียชีวิตอีก
27 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก 'จริยธรรมวารสารศาสตร์' เผยแพร่ความคิดเห็นของ บรรยงค์ สุวรรณผ่อง ในฐานะประธานกรรมการจริยธรรมวิ ชาชีพ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ ไทย กรรมการควบคุมจริยธรรม สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่ งประเทศไทย ต่อกรณีการถ่ายทอดสด กรณีฆ่าตัวตายประท้วงการใช้ ม.44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกาย
โดยมีรายละเอียดดังนี้
กรณีชายสูงวัย ประท้วงการใช้อำนาจาตามมาตรา 44 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกาศควบคุมพื้นที่วัดธรรมกาย ด้วยการผูกคอตายบนเสารับ-ส่งสั ญญาณโทรศัพท์มือถือ ใกล้ตลาดกลางคลองหลวง ตำบลคลองหลวง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ 2560 การประท้วงดังกล่าว มีสื่อมวลชนถ่ายทอดสดผ่าน Facebook Live โดยมีผู้เข้ามาติดตามชมนับแสน การถ่ายทอดสดดังกล่าว มีเสียงตะโกนยุให้ผู้ประท้ วงกระโดดลงมา ควบคู่กับเสียงห้ามปราม ในขณะที่ผู้ใช้สื่อออนไลน์ก็ นำเข้าข้อความทำนองเดียวกัน บางรายใช้ถ้อยคำหยาบคายยุส่ง
ภาพการผูกคอปลิดชีพตนเอง เกิดขึ้นโดยฉับพลัน ยากที่จะตัดการออกอากาศได้ทัน จึงเผยแพร่ออกไปให้ผู้ติดตามได้ เห็น ซึ่งสังคมย่อมมีวิจารณญาณต่อสื่ อที่ถ่ายทอดสดว่า มีเจตนาแอบแฝง โดยคาดหวังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้ นหรือไม่
ในวิชาชีพสื่อ มีกรอบและแนวทางในการรายงานข่ าวที่อ่อนไหวต่อจริยธรรมไว้อย่ างชัดเจน ซึ่งในกรณีนี้ก็คือ หลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพข่าวเหตุ การณ์หรือบุคคลในข่าวอันเป็ นการส่งเสริมหรือยั่วยุให้เกิ ดความรุนแรง และหลีกเลี่ยงการนำเสนอภาพข่ าวศพของผู้เสียชีวิตที่นำไปสู่ ความหวาดเสียว รวมทั้งหลีกเลี่ยงภาพในลักษณะอั นเป็นการซ้ำเติมความทุกข์โศกต่ อญาติของผู้เสียชีวิตอีกด้วย
เหตุการณ์ใกล้เคียงกันนี้ เคยเกิดขึ้นแล้วจากกรณี การรายงานสดเหตุการณ์จับกุมผู้ ต้องหาคดีฆ่าอาจารย์มหาวิทยาลั ยราชภัฏพระนคร ที่ไม่เหมาะสม เมื่อ 19 พฤษภาคม 2559 แต่ก็ยังเกิดขึ้นซ้ำอีก อันเท่ากับเป็นการสะท้อนให้สั งคมเห็นว่าการกำกับดูแลกั นเองเป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขึ้ นในวิชาชีพสื่อมวลชนไทย
อาชีพสื่อมวลชนส่งผลกระทบสูงต่ อสังคมและความรู้สึกนึกคิ ดของประชาชน แม้ความอยู่รอดของธุรกิจเป็นเรื่ องสำคัญ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธ ‘ความรับผิดชอบ’ ที่จำเป็นต้องมีควบคู่ไปกับ ‘หน้าที่’
สังคมกำลังจับตาการทำงานของสื่ อมวลชน เห็นได้จากแรงตำหนิบนสื่ อออนไลน์ ผู้ประกอบธุรกิจสื่อซึ่งเป็นผู้ กำหนดนโยบายเท่านั้น ที่จะดูแลแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่ ของผู้สื่อข่าวในสังกัดได้ - โปรดพิจารณา
แสดงความคิดเห็น