'ผสานวัฒนธรรม' ขอ ผู้บริหาร ม.มหิดล ยุติดำเนินการทางวินัย สถาบันสิทธิฯ ปมค้าน ม.44
Posted: 27 Feb 2017 05:12 AM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอผู้บริหาร ม.มหิดลทบทวนการปิดกั้นเสรีภาพในทางวิชาการทุกกรณี  ขอให้ยุติการดำเนินการทางวินัยกับบุคคลของ สถาบันสิทธิฯ หลังค้านการใช้ ม.44 ชี้เป็นการกระทำทางวิชาการตามภาระหน้าที่ของสถาบันฯ
27 ก.พ. 2560 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ออกแถลงการณ์เสรีภาพทางวิชาการของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลต้องได้รับการปกป้องคุ้มครอง โดยระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดลได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2560 โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวได้ระบุว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพียงหนึ่งเดือน หัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติหรือ คสช. ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 44  ออกประกาศหรือคำสั่งที่มีฐานะเหนือกว่า พ.ร.บ.ที่ออกโดยรัฐสภาถึง 10 ฉบับ อันเป็นการพร่ำเพรื่อ เป็นการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ขัดต่อหลักนิติธรรม และได้เรียกร้องให้หัวหน้า คสช. ยุติการใช้อำนาจดังกล่าว
ต่อมาในวันที่ 26 ก.พ. 2560 ได้มีการเผยแพร่แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยมหิดลว่า แถลงการณ์ของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา เป็นการกระทำของกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างมหาวิทยาลัยมหิดล ไม่ใช่เป็นการใช้เสรีภาพทางวิชาการ และจะดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและวินัยผู้ออกแถลงการณ์ต่อไปนั้
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มีความเห็นว่า สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสถาบันทางวิชาการที่มีบทบาทหน้าที่ในการเสริมสร้าง พัฒนาความรู้เรื่องกับสิทธิมนุษยชนและสันติภาพในสังคมไทย โดยในการเสริมสร้างและพัฒนาองค์ความรู้สำหรับสังคมไทยดังกล่าว ไม่อาจดำเนินการได้โดยปราศจากการเชื่อมโยง หรือเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปกครองด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จของ คสช. และประกาศหรือคำสั่งของ คสช. ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลักการพื้นฐานของสิทธิมนุษยชนและนิติธรรมทั้งในระยะปัจจุบัน และระยะยาว
ดังนั้นการที่สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา ได้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และเผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นการกระทำในทางวิชาการตามภาระหน้าที่ของสถาบันฯ ที่มีเสรีภาพทางวิชาการที่พึงกระทำได้  และไม่จำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับความเชื่อและความคิดเห็นของผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ผู้มีอำนาจ หรือนักวิชาการอื่นใด ขณะเดียวกันผู้บริหารของมหาวิทยาลัยมหิดลก็สามารถแสดงความเห็นที่แตกต่างจากแถลงการณ์ของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษาได้เช่นกัน หรือแสดงความเห็นในเชิงสนับสนุนการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของ คสช.ได้โดยไม่จำเป็นต้องตรวจสอบการกระทำทางวินัยของผู้ใดผู้หนึ่
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เห็นว่า ทุกฝ่ายควรยอมรับความเห็นต่างทางภูมิปัญญาและความคิด การที่บุคคลหรือสถาบันการศึกษามีข้อมูล องค์ความรู้ ในแง่มุมที่ต่างๆ ล้วนเป็นคุณูปการต่อสังคมไทย อันจะทำให้เกิดการขบคิดอย่างรอบด้าน โดยไม่มีคติ และมิควรกังวลว่าความคิดเห็นต่างๆ จะไปสนับสนุนให้ฝ่ายกระทำผิดนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เนื่องจากแถลงการณ์ดังกล่าวมิได้มีเจตนาสนับสนุนผู้ฝ่าฝืนกฎหมายในขณะนี้แต่อย่างใด
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอให้ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยมหิดลทบทวนการกระทำที่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพในทางวิชาการทุกกรณี และขอเรียกร้องให้ยุติการดำเนินการทางวินัยกับบุคคลของสถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวด้วย

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.