ศาลอุทธรณ์ไม่รับคำร้องรั ฐบาลสหรัฐ-ขอรื้อฟื้นคำสั่งแบน 7 ชาติเข้าเมือง
Posted: 05 Feb 2017 01:18 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
หลังผู้พิพากษาศาลรัฐวอชิงตัน "เจมส์ โรบาร์ต" ระงับคำสั่งโดนัลด์ ทรัมป์ห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าสหรัฐ และให้มีผลทั่วสหรัฐ ล่าสุดกระทรวงยุติธรรมขอยื่นอุ ทธรณ์ แต่ศาลไม่รับคำร้องและให้ยื่นข้ อโต้แย้งเพิ่มภายในจันทร์นี้ ขณะที่ในช่วงที่รอคำตัดสินศาลอุ ทธรณ์ หน่วยงานด้านคนเข้าเมืองไฟเขี ยวให้ผู้ลี้ภัยและผู้เดินทาง 7 ชาติที่มีวีซ่าหรือเอกสารถูกต้ องสามารถเข้าสหรัฐได้
(ซ้าย) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวั นที่ 27 มกราคม 2017 ซึ่งมีผลห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศ และผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกา (ขวา) เจมส์ โรบาร์ต ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางที่เมื องซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ทั้งนี้เขามีคำตัดสินเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ระงับคำสั่งของทรัมป์และให้มี ผลทั่วสหรัฐอเมริกา (ที่มา: The White House/USCourt)
6 ก.พ. 2560 ศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐอเมริ กา ปฏิเสธคำร้องจากกระทรวงยุติ ธรรมที่ต้องการให้รื้อฟื้นคำสั่ งของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ห้ามพลเมืองจาก 7 ประเทศมุสลิมเดินทางเข้าสหรั ฐอเมริกา
ในรายงานของเดอะการ์เดียน ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ที่ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ได้มีคำสั่งไม่รับคำร้องในช่ วงเช้าวันที่ 5 ก.พ. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา โดยให้กระทรวงยุติธรรมยื่นข้ อโต้แย้งภายในวันจันทร์ (6 ก.พ.) ช่วงบ่าย
โดยกระทรวงยุติธรรมได้ยื่นคำร้ องต่อศาลอุทธรณ์ ขอให้ยกเลิกคำตัดสินของผู้พิ พากษา เจมส์ โรบาร์ต (James Robart) ที่ศาลรัฐบาลกลางในเมืองซี แอตเติล รัฐวอชิงตัน ที่มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ให้ระงับคำสั่งของทรัมป์ โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับคำสั่งว่ าการห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าประเทศขัดต่อรั ฐธรรมนูญหรือไม่ และให้คำตัดสินของศาลมี ผลครอบคลุมทั่วสหรัฐอเมริกา
คำอุทธรณ์ของกระทรวงยุติธรรม ยังวิจารณ์คำตัดสินของผู้พิ พากษาโรบาร์ตว่าละเมิดหลั กการแบ่งแยกอำนาจ และแทรกแซงอำนาจของประธานาธิบดี ที่เป็นประมุขฝ่ายบริหาร นอกจากนี้กระทรวงยุติธรรมยั งระบุด้วยว่า ประธานาธิบดีมีอำนาจเต็มที่ ในการระงับการเข้าเมืองของบุ คคลใดๆ ก็ตาม
โดยหลังจากผู้พิพากษาโรบาร์ตมี คำตัดสิน โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวิตเตอร์ตอบโต้ผู้พิ พากษาโรบาร์ตว่า "ความเห็นของคนที่เขาเรียกว่า 'ผู้พิพากษา' ซึ่งพรากการบังคับใช้ กฎหมายไปจากประเทศของเรานั้น น่าขันสิ้นดี และจะต้องถูกคว่ำไป"
ในทวิตเตอร์ของทรัมป์ เขายังกล่าวโจมตีผู้พิพากษาดว้ ยว่า ได้เปิดประเทศให้กับผู้ก่อการร้ ายที่มีศักยภาพและกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ได้มีสิ่งที่ดีที่สุดในหั วใจสำหรับพวกเรา "คนเลวกำลังมีความสุขมากๆ!"
ทั้งนี้หลังจากที่รัฐบาลสหรั ฐอเมริกายื่นอุทธรณ์เมื่อวั นเสาร์ (4 ก.พ.) ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รี สอร์ทส่วนตัวที่ปาล์มบีช รัฐฟลอริดาว่า "เราจะต้องชนะ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ เราต้องชนะ"
โดยในช่วงที่คำสั่งคุ้มครองยั งมีผลระหว่างรอการตัดสิ นของศาลอุทธรณ์ เจ้าหน้าที่สำนักงานศุ ลกากรและกระทรวงความมั่นคงแห่ งมาตุภูมิ ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของศาล อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยและผู้เดิ นทางจาก 7 ประเทศที่มีเอกสารถูกต้ องสามารถเข้าสหรัฐอเมริกาได้
สำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งอ้างจากอี เมล์ของกระทรวงการต่ างประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศเองก็กำลั งดำเนินการอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยซึ่ งรวมทั้งจากซีเรียสามารถเข้าเมื องได้ โดยจะเริ่มในวันจันทร์นี้ (6 ก.พ.)
โดยข้อมูลของกระทรวงการต่ างประเทศสหรัฐอเมริการะบุก่ อนหน้านี้ว่าผู้ถือวีซ่า 60,000 รายถูกยกเลิกวีซ่าตามคำสั่ งของประธานาธิบดี
ขณะที่สายการบินหลายแห่งก็เริ่ มให้ผู้เดินทางจาก 7 ประเทศนี้สามารถเดินทางได้ โดยผู้ลี้ภัยและผู้เดิ นทางหลายพันคนจากอิหร่าน อิรัก ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน ที่ถูกห้ามเดินทางเมื่อสุดสั ปดาห์ที่แล้ว ต่างหาทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกา
โดยกลุ่มรณรงค์สิทธิคนเข้าเมือง ซึ่งรวมถึงทนายความจากสหภาพเสรี ภาพพลเมืองอเมริกัน หรือ ACLU และโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภั ยนานาชาติ ยังออกแถลงการณ์ร่วมกันโดยมีข้ อเสนอต่อพลเมือทั้ง 7 ชาติ ที่มีวีซ่าแล้ว "ให้พิจารณาจองตั๋วสำหรับเดิ นทางเข้าสหรัฐอเมริกาทันที" เนื่องจากคำพิพากษาของศาลอาจถู กเพิกถอนหรือถูกระงับอีกก็ได้
ในการให้สัมภาษณ์สำนักข่าว ABC ของรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ (Mike Pence) เมื่อวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) เขาไม่คิดว่าคำวิจารณ์ของโดนั ลด์ ทรัมป์ต่อผู้พิพากษา จะไม่เป็นการบ่อนเซาะหลักการแบ่ งแยกอำนาจ "ผมคิดว่าชาวอเมริกันคุ้นเคยกั บการที่ประธานาธิบดีพู ดออกมาจากใจ และพูดไปยังพวกเขาเหล่านั้น"
คำพิพากษาของศาลนับเป็นการเคลื่ อนไหวครั้งแรกๆ ของอีกหลายๆ เดือนต่อจากนี้ ที่มีการท้าทายในเชิงกฎหมายต่ อนโยบายด้านคนเข้าเมืองของทรั มป์
การที่ศาลระงับคำสั่งห้ามเข้ าเมืองของประธานาธิบดี มีผลทำให้ผู้อพยพเดินทางไปที่ สนามบินอีกครั้ง ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะกินเวลาอี กนานเท่าไหร่ที่หน้าต่างสำหรั บเข้าสหรัฐอเมริกาจะยังคงเปิ ดอยู่
ฟูอัด ชาเรฟ (Fuad Sharef) และครอบครัวของเขาจากเมืองเออร์ บิล ประเทศอิรัก เตรียมที่จะบินไปนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในวันเสาร์ (4 ก.พ.) จากอิสตันบูลในตุรกี เพื่อเตรียมใช้ชีวิตใหม่ในเมื องแนชวิลล์ มลรัฐเทนเนสซี่
"ผมดีใจมาก ที่พวกเรากำลังจะเดินทางในวันนี้ ท้ายที่สุดเราก็สามารถทำได้" ชาเรฟกล่าว ทั้งนี้เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาไม่ สามารถเดินทางเข้าสหรัฐอเมริ กาได้
ที่มา: แปลและเรียบเรียงจาก
US appeals court rejects White House request to reinstate travel ban, Martin Farrer, The Guardian, 5 February 2017 14.56 GMT
แสดงความคิดเห็น