14องค์กรใต้ ร่อนแถลงการณ์เมินบิ๊กตู่ปาฐกถา ซัด อวดไทยแลนด์4.0 แต่พฤติกรรม0.4

วันนี้ (24 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายภาคประชาชน 14 องค์กรภาคใต้ตอนล่าง ได้ออก แถลงการณ์“ ทำไมพี่น้องหลายกลุ่มปัญหาในภาคใต้ จึงเมินปาฐกถานายกรัฐมนตรีในวันนี้” ระบุว่า

เรียน พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน หน่วยข่าวของรัฐและรัฐบาล มีคำถามที่น่าสนใจมากจากหน่วยงานของรัฐและสื่อมวลชนว่า นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาพูดเรื่องไทยแลนด์ 4.0 ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2560 นี้ เครือข่ายภาคประชาชนในสงขลาและจังหวัดใกล้เคียง จะสนใจมาฟังหรือไม่ หรือจะมาเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ทางเครือข่ายภาคประชาชนในภาคใต้ตอนล่างขอชี้แจงว่า การปาฐกถาเรื่องไทยแลนด์ 4.0 ของนายกรัฐมนตรีนั้น “ไม่มีอะไรน่าสนใจที่จะมาฟังอยู่แล้ว เพราะนโยบายอวดโม้ว่ายุค 4.0 แต่พฤติกรรมยังเป็นยุค 0.4 ยังหนุนถ่านหิน เน้นสร้างท่าเรือ ชอบอนุมัติเปิดเหมือง ผนวกกับทุนในนามประชารัฐยึดกุมประเทศ ควบคุมสื่อ จำกัดสิทธิประชาชน สารพัดวิธีคิดแบบเผด็จการอำนาจนิยม จึงไม่มีประโยชน์ที่จะไปฟัง”

การมาภาคใต้ของนายกรัฐมนตรีและคณะในครั้งนี้ มีปรากฏกฏการณ์ใหม่คือ ภาคประชาชนนิ่งมาก ไม่มีใครสนใจจะไปยื่นหนังสือหรือชูป้ายประท้วงใดๆด้วยซ้ำ เพราะต่างได้ข้อสรุปตรงกันว่า “ไม่มีประโยชน์ที่จะไปแสดงออก ไม่มีประโยชน์ที่จะไปเรียกร้อง เพราะเรายื่นหนังสือมาเป็นร้อยฉบับแล้ว เราแสดงออกในทั้งรูปแบบการประท้วง การรณรงค์ การจัดเวทีวิชาการ หรือกิจกรรมมากมาย ที่อุดมไปด้วยเหตุผลและจุดยืนในการขอมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตตนเองมาตลอด ซึ่งเพียงพอแล้วสำหรับนายกรัฐมนตรีหากมีจิตใจที่พร้อมรับฟังภาคประชาชน”

รัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรมหรือความน่าเชื่อถือใดๆแล้วสำหรับภาคประชาชน นายกรัฐมนตรีเองก็ไร้ซึ่งจุดยืนที่จะยืนข้างภาคประชาชน เป็นคนหูตึงเวลาฟังปัญหาและข้อเสนอของภาคประชาชน เป็นคนตามัวใกล้บอดไม่เห็นความทุกข์ยากของผู้คน การพูดทุกวันศุกร์นั้นยิ่งชัดเจนว่า มีโลกทัศน์ที่เอาตนเองหรือกลุ่มลิ่วล้อใกล้ชิดเป็นศูนย์กลาง คอยแต่เทศนาสั่งสอนประชาชน ละเลยการพัฒนาประชาธิปไตยฐานรากอันหมายถึงการฟังเสียงประชาชนและให้ประชาชนร่วมกำหนดอนาคตของตนเอง (ลืมไปว่าจะไปคาดหวังอะไรกับเผด็จการให้มาพัฒนาประชาธิปไตย)

วันนี้ภาคประชาชนไม่ได้หวังอะไรจากรัฐบาลและ คสช.แล้ว ไม่หวังแม้การปฏิรูปใดๆจาก คสช. ภาคประชาชนกำลังกลับมาสร้างฐานประชาชนให้เข้มแข็ง ปกป้องพื้นที่จากการรุกรานของรัฐและทุน สร้างฐานประชาธิปไตยทางตรง และรอการเลือกตั้งใหม่(ซึ่งหวังว่าจะมีจริง) ที่อาจพอจะเป็นความหวังสำหรับการหยุดภาวะชงักงันทางประชาธิปไตยและการที่ประชาชนจะร่วมกำหนดอนาคตตนเอง

“การลงมาเยี่ยมพื้นที่ภาคใต้ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรีจึงไร้ประโยชน์ในการไปแสดงออก ภาคประชาชนเอาเวลาไปทำมาหากินและเอาพลังไปทำงานฐานรากให้เข้มแข็งเพื่อรับมือการรุกรานของรัฐและทุนยังดีกว่า จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

source :- https://www.matichon.co.th/news/566492

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.