Posted: 02 May 2017 11:44 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

พล.อ.ประยุทธ์ เผย รู้สึกเป็นเกียรติ 'ทรัมป์' ต่อสายโทรศัพท์คุย ชมการทำงานของตน ระบุรู้จักคนไทยมากพอสมควร มีเพื่อนเป็นคนไทย ออกปากชวนตนและครอบครัวไปเป็นแขกของทำเนียบขาว


เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา รายลานข่าวระบุว่า บริเวณห้องโถง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดย พล.อ.ประยุทธ์ แถลงตอนหนึ่งถึง การสนทนาทางโทรศัพท์กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้สนทนากับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยได้แสดงความยินดีที่ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ คนที่ 45 พร้อมชื่นชมในความสำเร็จในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันที่ผ่านมา และยืนยันต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯในทุกด้านเพื่อทำให้เกิดสันติภาพ ความมั่นคง มั่งคั่ง และเสถียรภาพ มาสู่ภูมิภาคและโลกด้วย ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวขอบคุณถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่มีความเป็นพันธมิตรมายาวนาน 184 ปี และชื่นชมความก้าวหน้าของประเทศไทยภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบัน และ ยืนยันว่า ไทยเป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นในอนาคต พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีไปหารือที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ด้วย

"และได้กล่าวชื่อชมคนไทยว่า รู้จักคนไทยมากพอสมควร มีเพื่อนเป็นคนไทย เพราะฉะนั้นก็อยากส่งความปรารถนาดีมายังคนไทยทุกคนในประเทศไทย และเชิญนายกฯ กับครอบครัว มาเป็นแขกของทำเนียบขาวได้ ตามเวลาที่ประสงค์หรือที่ตรงกัน แล้วก็พร้อมให้การสนับสนุนนายกฯ ไทยทุกๆ เรื่อง หากมีความต้องการให้ช่วยเหลืออะไร ผมก็บอกว่าก็ขอให้ช่วยดูแลรักษาระดับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงสิ่งที่พูดคุยกับ ทรัมป์ ทางโทรศัพท์ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าได้เชิญ ทรัมป์ มาไทยด้วย ซึ่งตอบรับและยืนยันจะเข้าร่วมประชุม เอเปค ปีนี้ที่เวียดนาม

แฟ้มภาพโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแถลงที่กระทรวงป้องกันมาตุภูมิ เมื่อ 25 มกราคม 2017 (ที่มา: U.S. Department of Homeland Security (DHS)/Wikipedia)

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องการกำหนดบทบาทของประเทศไทยในเวทีโลกเราจะต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจแสดงความคิดเห็น เช่น กรณีวิกฤติการณ์ในเกาหลีเหนือ เราและอาเซียนมีความคิดเห็นร่วมกันว่าเราคงจะต้องให้ประเทศมหาอำนาจพูดคุยหารือกันเพื่อหาหนทางปฏิบัติที่เหมาะสมในการดำเนินการ เพราะหากเกิดความรุนแรงขึ้นมาจะมีผลกระทบกับทุกประเทศในโลก ซึ่งสหรัฐอเมริกาก็ได้มีการพูดคุยกับประเทศจีนในระดับผู้นำไปแล้วเราก็คาดหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดี อย่างไรก็ตาม ในเวทีสหประชาชาติ อาเซียนเราไม่เห็นชอบในการใช้ความรุนแรงหรืออาวุธนิวเคลียร์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนของเหตุการณ์ในทะเลจีนใต้ก็อยู่ในขั้นตอนการเดินหน้าไปสู่การทำร่างกรอบการทำงานของคณะทำงานเพื่อหารือถึงการจัดทำแนวปฏิบัติในทะเลจีนใต้(ซีโอซี)ซึ่งเป็นไปในทางที่ดี ทั้งจีน ฟิลิปปินส์มีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง โดยกลางปี 2560 นี้น่าจะจัดทำซีโอซีได้สำเร็จ ระหว่างนี้ได้มีการเสนอร่วมกันไปว่าขอให้ทำตามสัญญาว่าด้วยแนวปฏิบัติในภาคทะเลจีนใต้ (ดีโอซี) ไปก่อนคือการสร้างความร่วมมือ เช่น สิ่งแวดล้อม การรักษาปะการังในทะเล เส้นทางการเดินเรือที่ปลอดภัยโดยเสรี เพราะเราต้องการให้เป็นทะเลแห่งสันติภาพและทะเลแห่งความมั่งคั่ง ทะเลแห่งผลประโยชน์ ซึ่งทุกประเทศให้ความเห็นชอบร่วมกันในจุดที่ไม่นำไปสู่ความรุนแรง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงเรื่องการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐบาห์เรนและการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 30 ว่า มีความก้าวหน้าในหลายเรื่องทั้งการค้าและการลงทุน การท่องเที่ยว สาธารณสุข การเกษตร รวมถึงช่องทางในการส่งออกอาหารฮาลาลและสินค้าเกษตรแปรรูปไปยังกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) ไทยก็มีความร่วมมือกับบาห์เรนในลักษณะThailand+1 ที่จะทำกับบาห์เรนและกลุ่มประเทศอาหรับ นอกจากนี้ ทางบาห์เรนในฐานะผู้ประสานงานฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดิอาระเบีย มีแผนงานที่จะประชุมร่วมกันเร็วนี้ๆ สำหรับความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดิอาระเบีย ทั้งสองฝ่ายมีหลักการว่าจะประสานความสัมพันธ์ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น และรัฐบาลมีแผนจะให้รองนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในอนาคต



ที่มา : ยูทูบ ทำเนียบ รัฐบาล เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล และข่าวสดออนไลน์

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.