Emmanuel Macron wins 2017 French presidential election

เขาเอาชนะคู่แข่งจากพรรคอนุรักษ์นิยมขวาจัด “มารีน เลอ เป็ง” ที่ต่อต้านผู้ลี้ภัย

นายเอ็มมานูเอล มาคร็อง ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์ หลังจากใช้แนวทางหาเสียงด้วยนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจ และต้องการให้ฝรั่งเศสยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป พร้อมด้วยภาพลักษณ์ของความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มาจากพรรคทางเลือก

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้นักการเมืองวัย 39 ปีผู้นี้ กลายเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่อายุน้อยที่สุด และนำความโล่งอกมาให้กับพันธมิตรของฝรั่งเศสในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนีหัวเรือใหญ่ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร

French President elect Emmanuel Macron and his wife Brigitte Trogneux

เขาเอาชนะคู่แข่งจากพรรคอนุรักษ์นิยมขวาจัด มารีน เลอ เป็ง ที่ต่อต้านแนวทางเปิดกว้างเรื่องผู้ลี้ภัย และเป็นผู้วิจารณ์เยอรมนีและกลุ่มยูโรโซนคนสำคัญ

นายมาคร็องกล่าวรับชัยชนะของตนว่า “ข้าพเจ้าทราบดีถึงการแบ่งแยกในประเทศ ที่ได้ทำให้คนจำนวนหนึ่งเลือกผู้มีความคิดสุดโต่ง ข้าพเจ้าเคารพเสียงของพวกเขา”

ว่าที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของตนที่จะสร้างความสัมพันธ์ครั้งใหม่ระหว่างฝรั่งเศสและยุโรปโดยจะต้องประสานความแตกแยก ความหวั่นใจ ความโกรธ และความสงสัยต่างๆ ให้ได้

นายกรัฐมนตรีเยอรมนี อังเกอล่า เมอเคิ่ล โทรศัพท์แสดงความยินดีต่อนายมาคร็อง ผู้ชนะซึ่งได้คะแนนเสียงร้อยละ 65 ต่อ 34.5 ตามผลอย่างไม่เป็นทางการ

และนายมาคร็องบอกว่าตนจะเดินทางไปพูดคุยกับนางเมอร์เคิ่ล ที่กรุงเบอร์ลิน อีกไม่นานจากนี้

President-elect Emmanuel Macron is seen on a giant screen near the Louvre museum after results were announced in the second round of voting in the 2017 French presidential elections, in Paris, France, May 7, 2017.


ประธานคณะกรรมาธิการสภายุโรป นายฌอง คล้อด ยุงเคอร์ กล่าวว่า "ดีใจที่นายมาคร็องปกป้องแนวทางที่จะทำยุโรปให้แข็งแกร่งและมีนโยบายสายก้าวหน้ามากขึ้น"

ผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตแสดงความยินดีต่อว่าที่ผู้นำฝรั่งเศสเช่นกัน และบอกว่าตนรอคอยที่จะได้พบกับนายมาคร็อง

คณะหาเสียงของนายมาคร็อง สามารถเดินทางผ่านพ้นอุปสรรคและสิ่งท้าทายหลายอย่าง ทั้งการถูกแฮ็คระบบคอมพิวเตอร์ การปล่อยข้อมูลภายในสู่สาธารณชนก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งทำให้หลายคนนึกถึงเหตุการณ์ที่กระทบทีมหาเสียงของนาง ฮิลลารี คลินตั้น ที่พ่ายแพ้ต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี สหรัฐฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว

งานสำคัญเร่งด่วนของนายมาคร็องคือ การทำให้กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง “ออง มาร์ช” (En Marche) ที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงหนึ่งปี ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งของสภาในเดือนหน้า

หากเขาสามารถทำได้ การเดินหน้านโยบายต่างๆ ก็จะมีความคล่องตัวมากขึ้น


source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=065999457402716878

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.