ผู้แทนยูเอ็นวิจารณ์ซาอุฯ จับกุมผู้คนตามอำเภอใจ และใช้กฎหมายปิดกั้นเสรีภาพแสดงความคิดเห็น

Posted: 05 May 2017 01:34 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

ผู้รายงานพิเศษจากสหประชาชาติวิจารณ์หลังไปเยือนซาอุฯ เผยแม้เรือนจำมีคุณภาพดี แต่การละเมิดสิทธิมนุษยชนยังมีอยู่โดยเฉพาะการอ้างใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อปิดปากประชาชนที่แสดงออกอย่างสันติ

เบน เอมเมอร์สัน ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนและการต่อต้านการก่อการร้ายของสหประชาชาติวิพากษ์วิจารณ์ซาอุดิอาระเบียว่า ใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายในการปราบปรามการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี หลังจากที่เขาไปเยือนซาอุฯ เป็นเวลา 5 วัน

เจ้าหน้าที่ทางการซาอุฯ ปฏิเสธไม่ยอมให้เอมเมอร์สันเข้าถึงผู้ต้องขังที่ทางสหประชาชาติเชื่อว่าถูกคุมขังโดยอ้างสาเหตุที่ไม่เหมาะสมอย่างการอ้างใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้าย นอกจากนี้ยังมีการจับกุมแบบผิดๆ อีกหลายกรณี มีการใช้กระบวนการศาลแบบผิดๆ รวมถึงมีกรณีการทารุณกรรมเพื่อให้รับสารภาพ รวมถึงมีกรณีประหารชีวิตด้วยการตัดศรีษะที่เป็นการลงโทษในกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ได้กระทำผิดจริง

เอมเมอร์สันยังเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวชาวซาอุฯ 10 คน ที่เชื่อว่าถูกทางการจับกุมตามอำเภอใจ เพียงเพราะพวกเขาวิพากษ์วิจารณ์ประเทศตัวเอง

เดอะการ์เดียนระบุว่าถ้อยแถลงที่ใช้คำหนักแน่นเป็นพิเศษของเอมเมอร์สันที่ส่งถึงทางการซาอุฯ เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมาดูมีพลังเป็นพิเศษเนื่องจากเอมเมอร์สันได้รับอนุญาตให้สนทนากับฝ่ายตุลาการระดับสูงของซาอุฯ หลายคน ซึ่งเหล่าตุลาการระดับสูงเหล่านี้พยายามสร้างความประทับใจต่อเอมเมอร์สันว่าพวกเขากำลังปฏิรูปหรือกระทำการอย่างเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นภัยก่อการร้าย

เอมเมอร์สันบอกว่างแม้เรือนจำที่คุณภาพดี แต่ในแง่สิทธิมนุษยชนแล้วเอมเมอร์สันก็วิพากษ์วิจารณ์ซาอุฯ เช่นเดียวกับที่แองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีผู้เดินทางเยือนซาอุฯ เมื่อไม่นานมานี้วิจารณ์เอาไว้เช่นกัน เอมเมอร์สันบอกว่ากฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายของซาอุฯ ขัดหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานเนื่องจากเป็นการเปิดโอกาสให้ดำเนินคดีเอาผิดกับการแสดงออกอย่างสันติหลายรูปแบบเพียงเพราะการกระทำนั้นถูกทางการมองว่าเป็นภัยต่อ "ความสามัคคีปรองดองในชาติ" หรือ "ทำให้ชื่อเสียงของรัฐเสียหาย"

"ผมได้รับรายงานหลายชิ้นเกี่ยวกับการฟ้องร้องดำเนินคดีโดยอ้างใช้กฎหมายนี้ ไม่ว่าจะใช้กับผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน นักเขียน บล็อกเกอร์ และนักข่าว เพียงเพราะพวกเขามีมุมมองที่ไม่ได้รุนแรง แม้ว่าจะพยายามเรียกร้องและใช้ความพยายามเข้าถึงแล้ว รัฐบาล (ซาอุฯ) ก็ไม่ได้ให้เขาเข้าพบบุคคลที่อยู่ในรายชื่อจะต้องสัมภาษณ์" เอมเมอร์สันกล่าว

ผู้แทนจากยูเอ็นยังแถลงประณามอย่างหนักแน่นต่อการใช้กฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการนับถือศาสนาและความเชื่อ รวมถึงเสรีภาพในการชุมนุมและร่วมสมาคม ซึ่งเอมเมอร์สันเรียกร้องให้ซาอุฯ จัดตั้งระบบตรวจสอบอิสระว่าการสั่งดำเนินคดีเหล่านี้มีการละเมิดสิทธิด้านต่างๆที่กล่าวมาหรือไม่ ทั้งนี้ยังมีเรื่องที่ซาอุฯ ละเลยไม่มีการสืบสวนสอสวนเรื่องการทารุณกรรม รวมถึงไม่มีการเรียกทนายความให้มาว่าความแทนผู้ต้องหาภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากที่พวกเขาถูกคุมขังและแม้จะมีการอนุญาตจากสำนักงานสอบสวนและสำนักอัยการแล้วก็ตาม

นอกจากเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนกับประชาชนตัวเองแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่เอมเมอร์สันแถลงวิจารณ์ซาอุฯ คือกรณีเยเมนที่ซาอุฯ เป็นฝ่ายนำกองกำลังผสมต่อต้านกลุ่มกบฏฮูติที่อิหร่านหนุนหลัง โดยวิจารณ์ว่าซาอุฯ ไม่มีการสืบสวนอย่างเป็นอิสระกรณีการทิ้งระเบิดในเยเมน ซึ่งถ้าหากมีการสืบสวนในเรื่องนี้จะสามารถทราบตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนได้อย่างชัดเจน



เรียบเรียงจาก

UN accuses Saudi Arabia of using terror laws to suppress free speech, The Guardian, 04-05-2017

https://www.theguardian.com/world/2017/may/04/un-accuses-saudi-arabia-of-using-terror-laws-to-suppress-free-speech

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.