Pipob Udomittipong

Reuters เขียนได้น่าคิด หลังรัฐประหาร ระบอบทหารหยั่งรากลึกมากกว่าที่เราคิด สนช. 250 ที่นั่งเป็นทหาร 143 หรือ 57% (เพื่อให้เห็นภาพ ในพม่า ทหารมีที่นั่งในสภา 56 จาก 224 หรือ 25% เท่านั้นเอง) เทียบกับหลังรัฐประหารปี 49 มีทหารนั่งเป็นสนช. 67 จาก 242 หรือ 27% เท่านั้นเอง

เรียกว่าระหว่างรัฐประหารสองครั้งที่ห่างกันแปดปี จำนวนสนช.สางเขียวเพิ่มขึ้นจาก 27% เป็น 57% หรือสองเท่า
องคมนตรีก็ไม่น้อยหน้ากัน กว่าครึ่งหนึ่งขององคมนตรีชุดปัจจุบันซึ่งมี 13 คนเป็นทหาร (เทียบกับเมื่อก่อนมีทหารไม่ถึงครึ่งเดียว) บรรดาภาพยนตร์ ข่าวสาระบันเทิงทางทีวีออกแนวโปรทหารหมด โรงเรียนก็มีหลักสูตรที่คล้ายกับทหารมากขึ้น ฝ่ายกองทัพคุยว่ายอดสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปีที่แล้ว แสดงว่าสังคมเห็นด้วยกับแนวทางของทหาร (อันนี้ทหารเขาแถลงเอง)

ทุกวันนี้ “กฎหมายที่ออกโดยทหาร” เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นทุกที ตั้งแต่ปี 2557 หัวหน้าคสช.ออกประกาศคำสั่งต่าง ๆ มากถึง 358 ฉบับ มากกว่ารัฐสภาจากการเลือกตั้งออกในช่วงเวลาเดียวกัน เป็นคำสั่งหยุมหยิมไปหมด ตั้งแต่คาดเข็มขัดที่นั่งเบาะหลัง ไปจนถึงการเอาผิดกับพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกยกพวกกัน และการจับพวกเมาแล้วขับเข้ารับ “การปรับทัศนคติ”

คนไทยจำนวนมากเฉย ๆ กับบทบาทมากขึ้นของทหาร แต่นานาชาติไม่แฮปปี้ มีการกดดันมาเนือง ๆ (เอาเข้าจริงที่เขาไม่มาลงทุนก็อาจจะเป็นเพราะเรากลายเป็นรัฐทหารมากขึ้นนั่นเอง อันนี้ผมคาดเดาเอาเอง)

สูดลมหายใจลึก ๆ เราคงอยู่กับทหารไปอีกนาน จนพังไปหมดทั้งประเทศก่อนมั้ง #แฮปปี้เบิร์ธเดย์คสช http://reut.rs/2q7WKDT


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.