ตอนนี้ผู้หญิงอเมริกันและทั่วโลก ทวีตและโพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ที่พวกเธอถูกคุกคามทางเพศในอดีต ตามด้วยแฮชแทค MeToo เพื่อสื่อถึงผู้หญิงทั่วโลกที่เคยเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายนี้เหมือนๆกัน

การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของผู้หญิงทั่วโลกในครั้งนี้ เริ่มต้นจากการเปิดโปงเรื่องราวอันฉาวโฉ่ในวงการฮอลลีวู้ด เมื่อผู้สร้างหนังมือทอง Harvey Weinstein ชายที่ร่ำรวย โด่งดัง และทรงอำนาจคนหนึ่งในวงการบันเทิงอเมริกัน ใช้อำนาจคุกคามดารานักแสดงและศิลปินหญิงหลายสิบชีวิต มานานกว่า 30 ปี และรอดพ้นความผิดไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา Alyssa Milano คิดแฮชแทค MeToo เพื่อส่งสัญญาณให้นักแสดงและศิลปินหญิงที่เคยเจอเหตุการณ์เหมือนกับเธอ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวนี้ ด้วยการโพสต์หรือทวีตพร้อมแฮชแทค #MeToo และตอกย้ำว่าการคุกคามทางเพศไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม

ภายใน 24 ชั่วโมงต่อมา นิตยสาร Time รายงานว่า มีผู้คนราว 2 หมื่น 7 พันคนทวีตและโพสต์ข้อความของพวกเธอ พร้อมติดแฮชแทค MeToo และไม่กี่วันหลังจากนั้น เรื่องนี้ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลก มีผู้โพสต์เรื่องราวทางเฟสบุ๊คมากถึง 12 ล้านครั้ง

ผลสำรวจร่วมระหว่าง ABC และ The Washington Post เมื่อวันอังคาร ระบุว่า ผู้หญิง 54% ในการสำรวจครั้งนี้ เคยตกเป็นเหยื่อของการคุกคามทางเพศ โดยผู้หญิงถึง 1 ใน 3 ถูกรังควานโดยเพื่อนร่วมงานชายที่มีอิทธิพลต่อหน้าที่การงานของพวกเธอเสียด้วย 58% ของผู้หญิงเหล่านี้ไม่กล้าแจ้งความหรือรายงานว่าถูกก่อกวนทางเพศในที่ทำงาน

ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ 94% ของผู้หญิงที่ถูกคุกคามทางเพศในที่ทำงาน เชื่อว่า ผู้ชายเหล่านั้นจะไม่ได้รับการลงโทษจากการกระทำอันไม่เหมาะสมของพวกเขาด้วย

ผลสำรวจของ Washington Post ระบุว่า ผู้หญิง 64% ที่ถูกคุกคามทางเพศบอกว่ารู้สึกหวาดกลัว หรือถูกข่มขู่ 52% ของผู้หญิงกลุ่มนี้บอกว่ารู้สึกอับอายขายหน้า และอีก 31% รู้สึกละอายใจเมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้กับพวกเธอ

หลายเรื่องราวที่ปรากฏในแฮชแทค MeToo มักจะเกิดขึ้นเมื่อพวกเธอเป็นเด็ก และสิ่งที่น่ากังวลกว่าการถูกคุกคามทางเพศ คือ ความนิ่งเฉย เพราะ เมื่อผู้หญิงเหล่านี้เริ่มร้องเรียนว่าถูกคุกคามทางเพศ กลับไม่มีใครเข้ามาช่วยเหลือหรือแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง

หลังจากกระแส #MeToo ได้สร้างการรับรู้ถึงการคุกคามทางเพศที่เป็นภัยเงียบในระดับโลก ก็เกิดแฮชแทคที่เกี่ยวข้องอื่นๆตามมา อย่าง แฮชแทค #WithYou ที่ถ่ายทอดมุมมองของผู้ชายและผู้หญิงที่ต้องการต่อต้านการเอาเปรียบผู้หญิง และผลักดันการปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน

และล่าสุดผู้ชายทั่วโลก เริ่มต้น แฮชแทค #HowIWillChange สะท้อนมุมมองของผู้ชายที่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลง ในการช่วยเหลือและปกป้องผู้หญิงจากภัยคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็น การสอนการเคารพผู้หญิงให้กับเด็กในโรงเรียน การที่ผู้ชายออกมารับฟังปัญหาของผู้หญิง และเป็นสุ้มเสียงในการร้องเรียนเมื่อพบพฤติกรรมที่เข้าข่ายการคุกคามทางเพศ

http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=166098350108213175

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.