Posted: 24 Oct 2017 03:34 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตอบรับคำขอของสื่อโปรพับลิกายอมเปิดเผยรหัสต้นฉบับโปรแกรมหรือซอร์สโค้ดของโปรแกรมซอฟท์แวร์ที่ทางการใช้ในการตรวจวิเคราะห์หลักฐานทางดีเอ็นเอ โปรแกรมดังกล่าวพัฒนาโดยห้องแล็บอาชญวิทยาของนิวยอร์กซิตี้และกลายเป็นที่ถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ประชาชน
24 ต.ค. 2560 ผู้พิพากษาวาเลอรี คาโปรนี จากนิวยอร์กสั่งยกเลิกการคุ้มครองข้อมูลซอร์สโค้ดโปรแกรมที่ชื่อว่า "เครื่องมือเชิงสถิติด้านนิติวิทยาศาสตร์" (Forensic Statistical Tool หรือ FST) ตามคำขอของโปรพับลิกาโดยบอกว่าทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีการเผยแพร่ซอร์สโค้ดดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ GitHub และมีบันทึกของผู้เชี่ยวชาญด้านทนายความในแบบที่ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเปิดให้ผู้คนเข้าอ่านได้ด้วย
คริสโตเฟอร์ ฟลัด หนึ่งในทนายความผู้ต้องการเข้าถึงโค้ดโปรแกรมนี้กล่าวว่าคนที่ถูกระบุไว้ในรายงานของ FST จะสามารถรับรู้ได้ว่ามีความไม่แม่นยำของการประเมินด้วยโปรแกรมตรงจุดไหนบ้าง ทุกคนมีสิทธิที่จะรู้ในเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นคนที่ถูกตัดสินให้มีความผิด ถูกดำเนินคดีในชั้นศาล หรือมีการถอนฟ้อง
ก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ จากนักวิทยาศาสตร์และทนายความที่ระบุว่าซอฟท์แวร์ตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอตัวนี้อาจจะทำให้คนบริสุทธิ์ถูกส่งเข้าคุกได้ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้กำหนดนโยบายในนิวยอร์กซิตี้พยายามผลักดันให้มีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับการตัดสินใจด้วย 'อัลกอริทึ่ม' หรือขั้นตอนวิธีตั้งแต่ประเมินความเสี่ยงช่วงก่อนพิจารณาคดี ไปจนถึงระบบการพยากรณ์เพื่อออกนโยบาย ไปจนถึงระเบียบวิธีในการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาในไฮสคูล
มีการใช้หลักฐานทางดีเอ็นเอเพื่อสืบคดีอาชญากรรมมาเป็นเวลานานแล้ว เช่นการสืบหาตัวฆาตกรจากหลักฐานทางพันธุกรรมทีติดอยู่กับอาวุธในที่เกิดเหตุ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการวิเคราะห์ดีเอ็นเอด้วยวิธีใหม่แต่ก็ถูกวิจารณ์ว่าเป็นวิธีการที่มีความกำกวมและเสี่ยงต่อการผิดพลาด
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ทางโปรพับลิการ่วมกับนิวยอร์กไทม์เผยแพร่ปัญหาความสงสัยเกี่ยวกับเครื่องมือตรวจสอบดีเอ็นเอ FST ที่ถูกออกแบบมาเพื่อดูความเป็นไปได้ว่าจะมีดีเอ็นเอของจำเลยปนอยู่กับสารพันธุกรรมของคนอื่นด้วยหรือไม่ มีการใช้เครื่องมือนี้มาแล้ว 1,350 คดีในช่วง 5 ปีครึ่งที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ทนายความเคยเรียกร้องให้ผู้ตรวจการของรัฐตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีนี้และให้พลิกคดีก่อนหน้านี้ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการใช้ FST กลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง ถึงจะมีการตอบรับแต่ก็ยังไม่มีการประกาศใดๆ ทั้งสิ้นว่าจะมีการตรวจสอบ ขณะที่ตัวแล็บอาชญวิทยานิวยอร์กซิตี้เองไม่ได้ต่อต้านสื่อโปรพับลิกาที่อยากจะให้เผยแพร่ซอร์สโค้ดของโปรแกรม FST แต่ก็ยืนยันว่าเทคโนโลยีของพวกเขาใช้ได้จริง และยินดีจะเปิดเผยซอร์สโค้ดเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิ่งที่คนเคยวิพากษ์วิจารณ์
นาธานเนียล อดัมส์ นักวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมจากบริษัทให้คำปรึกษาด้านนิติวิทยาศาสตร์ในโอไฮโอลองพิจารณาโค้ดโปรแกรม FST แล้วพบว่าโปรแกรมนี้มีปัญหาด้านความแม่นยำและควรได้รับการตั้งคำถามอย่างหนัก
ทำให้ในวันที่ 25 ก.ย. โปรพับลิกาและองค์กรคลินิคเพื่อเสรีภาพสื่อและเสรีภาพในการเข้าข้อมูลข่าวสาร (MFIA) สังกัดวิทยาลัยกฎหมายเยลส์เรียกร้องให้มีการระงับคำสั่งคุ้มครองข้อมูลซอร์สโค้ด FST และให้มีการเผยแพร่ต่อประชาชน โดยระบุว่าการคุ้มครองเช่นนี้ไม่ดีต่อความโปร่งใสของประชาชน
ฮันนาห์ บล็อคห์-เวห์บา ผู้อำนวยการทนายของ MFIA เปิดเผยว่าการตัดสินใจเปิดซอร์สโค้ดให้เข้าถึงในครั้งนี้ทำให้โปรพับลิการายงานเรื่องที่ประชาชนกังวลได้ การที่ผู้บังคับกฎหมายหันมาใช้เครื่องมืออัลกอริทึมในระบบสอบสวนอาชญากรรมมากขึ้นมันก็ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สื่อและประชาชนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จะทำให้ทราบว่ารัฐบาลกำลังทำอะไรอยู่และตรวจสอบรัฐบาลได้
ในการใช้งานก่อนหน้านี้ยังมีผู้พิพากษาบางรายที่มองว่าหลักฐานจาก FST นั้นใช้ไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือมาร์ค ดวิเยอร์แห่งบรูคลิน ผู้ที่เคยปฏิเสธ FST มาแล้วสองคดีในปี 2557 และอีกสองคดีในปีนี้ โดยบอกว่าชุมชนวิทยาศาสตร์ยังมีข้อกังขาเกี่ยวกับเครื่องมือตัวนี้ และในตอนนี้รัฐนิวยอร์กก็เลิกใช้ไปแล้ว รวมถึงไม่มีแล็บอื่นที่ใช้เครื่องมือนี้เลย
ก่อนหน้านี้โปรแกรม FST เองก็เคยมีปัญหาจากที่ยูจีน เลียน ผู้นำฝ่ายเทคนิคของแล็บดีเอ็นเอเคยตรวจพบว่ามีปัญหาทางคณิตศาสตร์ใน FST จนอาจจะทำให้ส่งผลต่อการวิเคราะห์จนต้องนำซอฟท์แวร์ออกชั่วคราวและนำไปโปรแกรมใหม่ ถึงแม้ว่าจะมี "การตรวจเช็คการทำงาน" ของโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ก่อนนำมาใช้อีกครั้งแต่เจ้าหน้าที่แล็บก็ไม่ได้บอกกับคณะกรรมการตรวจสอบและไม่มีการศึกษาเพื่อตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบก่อนการนำมาใช้อีกครั้ง ทำให้มีการวิจารณ์เรื่องการขาดความโปร่งใสของแล็บนี้
นอกจากนี้นักการเมืองนิวยอร์กซิตี้บางคนยังเรียกร้องให้มีการพิจารณาเรื่องอัลกอริทึมและผลกระทบจากมันอีกครั้ง รวมถึงมีการเสนอกฎหมายให้หน่วยงานภาคของทุกเมืองต้องเผยแพร่ซอร์สโค้ดสำหรับอัลกอริทึมที่นำมาใช้ในการตัดสินใจ เนื่องจากเคยมีกรณีที่อัลกอริทึมมีอคติทางเชื้อชาติ เจมส์ แวคคา ประธานกรรมการและผู้เสนอร่างกฎหมายนี้กล่าวว่าอัลกอริทึมฟังดูเป็นเครื่องมือที่มีความเป็นวัตถุวิสัยแต่พวกเราก็ต้องรับรู้ว่าอัลกอริทึมเป็นเพียงแค่การสมมติฐานด้วยรหัสโปรแกรมเท่านั้น การออกแบบโปรแกรมเหล่านี้อาจจะมีอคติและการประมวลข้อมูลทั้งหมดเองก็อาจจะมีข้อผิดพลาดได้
เรียบเรียงจาก
Federal Judge Unseals New York Crime Lab’s Software for Analyzing DNA Evidence, ProPublica, 20-10-2017
แสดงความคิดเห็น