ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน

“3 ปี รัฐประหารจริงๆ แล้ว ภาพมันก็ชัดเจน สภาพเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย กำลังซื้อของผู้คน มันหดหายไปหมด หดหายไปเยอะมาก สิ่งแรกที่สะท้อนความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจว่าดีขึ้นหรือแย่ลง ก็คือเรื่องกำลังซื้อของผู้คนในตลาด อีกอย่างหนึ่งที่เห็น คือการใช้งบประมาณกันแบบไม่ต้องคำนึงถึงอะไรทั้งสิ้น ในขณะที่บ้านเมืองกำลังประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ ก็สามารถซื้อเรือดำน้ำได้ โดยไม่ต้องผ่านสภา ไม่ต้องชี้แจงอะไร พวกนี้อย่าคิดว่าไม่เกี่ยวกับเรานะ เกี่ยวกับเราแน่นอน คือ งบประมาณ ซึ่งควรจะต้องเป็นการเอางบประมาณมาใช้ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ให้ลำบากน้อยลงนะ...ไม่ใช่ให้ดีขึ้นนะ แต่กลับเป็นเอาเงินไปซื้อ เรือดำน้ำ ซื้อรถถัง และก็ไม่เป็นประโยชน์ใดๆ กับระบบเศรษฐกิจของประเทศเลย

“นอกเหนือจากเรื่องของประชาธิปไตย เรื่องของสิทธิเสรีภาพของผู้คน สิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออก มันสูญหายไปหมด ผู้คนอยู่ด้วยความกลัว อยู่ด้วยความหวาดระแวง ความเป็นประชาธิปไตยมันหายไป สูญสิ้นไปจนเรียกว่าเป็นศูนย์เลย ยิ่งหลายเดือนนี้ เราเห็นการคุกคาม จับกุมตัวคนที่เห็นต่าง คนที่ออกมาแสดงความเห็นที่ต่างจากที่เขาต้องการ เราในฐานะคนไทยคนหนึ่ง เราควรจะต้องมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความไม่เห็นด้วย หรือไม่ยินยอมที่จะรับอำนาจที่มันไม่ถูกต้องอย่างนี้

“พวกเราทั้งหลายที่ต่อสู้ทุกวันนี้ เราย่อมมีความหวัง เพียงแต่ว่ามันต้องใช้ระยะเวลานานในการต่อสู้ อย่าหมดหวัง ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าเด็กรุ่นใหม่ หรือคนรุ่นเก่า เพราะว่าถ้าคุณไม่มีความหวัง คุณสิ้นหวัง ทุกอย่างมันก็จะออกมาในลักษณะสิ้นหวัง การต่อสู้ก็จะไม่มี การดิ้นรน การเรียกร้อง อย่างหนึ่งก็คือต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยมันมาจากการต่อสู้ อำนาจรัฐมันยิ่งใหญ่มากเลย แต่พลังของประชาชนยิ่งใหญ่กว่า ประชาชนหนึ่งคน อาจจะสู้เขาไม่ได้ สิบคนสู้เขาไม่ได้ แต่ถ้าประชาชนเป็นหมื่นเป็นแสน สู้เขาได้แน่นอน อำนาจเผด็จการไม่อาจชนะพลังของประชาชนได้หรอก คุณเชื่ออย่างนั้นไหม?

“สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า เขาขังเราได้แต่กาย แต่จิตวิญญาณมันยังเรียกร้องประชาธิปไตย ในการแสวงหา เสรีภาพ ความเท่าเทียมของผู้คนในสังคมเนี่ย ต้องไม่ให้เขาถูกขังได้ เขาขังเราได้แต่ตัว แต่ขังจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเราไม่ได้”

สามารถ ขวัญชัย ผู้ต้องหาคดีพ.ร.บ.ประชามติ จากการแจกจ่ายใบปลิวที่มีข้อความ “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ในช่วงก่อนการลงประชามติ เคยถูกคุมขังในเรือนจำเป็นเวลา 9 วัน ก่อนได้รับการประกันตัว และศาลพิพากษายกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 24 เม.ย.60

#3ปีแล้วนะ #ผลงานคสช

อ่านเรื่องของสามารถได้ที่
- 'ศาลยกฟ้องคดี “ลุงสามารถ” แปะใบปลิวโหวตโน ชี้ข้อความไม่เข้าองค์ประกอบความผิดพ.ร.บ.ประชามติฯ' (http://www.tlhr2014.com/th/?p=4077)
- 'เปิดคำแถลงปิดคดี “ลุงสามารถ” แปะใบปลิวโหวตโน ก่อนศาลนัดฟังคำพิพากษาพรุ่งนี้'
(http://www.tlhr2014.com/th/?p=4057)
- ''ลมหายใจยังไม่แพ้' ของ 'น็อตตัวเล็กๆ' ที่ยึดสู้สร้างบรรทัดฐานคดีพ.ร.บ.ประชามติฯ'
(https://freedom.ilaw.or.th/SamartPrachamati)

และรอติดตามรายงานปีที่ 3 โดยศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 21 พฤษภาคมนี้


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.