'แพทยสภา-ส.นักกฎหมายสิทธิฯ-อังคณา-ชมรมแพทย์ชนบท-จตุพร' ประณามเหตุระเบิดรพ.พระมงกุฏฯ

Posted: 22 May 2017 09:34 AM PDT   (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซท์ประชาไท)

แพทยสภา ชี้สถานพยาบาล เป็นพื้นที่สันติภาพ อันสงวนไว้รักษาผู้เจ็บป่วย ส.นักกฎหมายสิทธิฯ ย้ำใช้กระบวนการยุติธรรมตามปกติ อย่างโปร่งใส อังคณา หดหู่ แม้ในภาวะสงครามยังต้องคุ้มครองสถานพยาบาล จตุพร ย้ำไม่ว่าใครหน้าไหนทำก็ต้องถูกประณาม

22 พ.ค. 2560 จากเหตุระเบิดในช่วงสายวันนี้ (22 พ.ค.60) บริเวณที่เกิดเหตุเป็นห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกษียณอายุราชการ หน้าห้องวงษ์สุวรรณ ภายใน รพ.พระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี กทม. จนมีผู้บาดเจ็บหลายราย นั้น

ล่าสุดมีหน่วยงานองค์กรต่างๆ ออกแถลงการณ์ประณามผู้ก่อเหตุจำนวนมาก ประกอบด้วย
แพทยสภา ชี้สถานพยาบาล เป็นพื้นที่สันติภาพ อันสงวนไว้รักษาผู้เจ็บป่วย

แพทยสภา ในฐานะองค์กรวิชาชีพแพทย์ ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขอให้กำลังใจแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทุกฝ่ายในการแก้ไขสถานการณ์ และดูแลรักษาผู้บาดเจ็บ

แพทยสภา ขอประณามความรุนแรงทุกชนิด ที่กระทำต่อสถานพยาบาล อันเป็นพื้นที่สันติภาพ อันสงวนไว้รักษาผู้เจ็บป่วย ถือว่าเป็นการกระทำที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมที่วิญญูชน ไม่พึงกระทำ
ส.นักกฎหมายสิทธิฯ ย้ำใช้กระบวนการยุติธรรมตามปกติ อย่างโปร่งใส

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ ประณามเหตุระเบิดในโรงพยาบาล และเรียกร้องให้มีการค้นหาความจริงโปร่งใสและเป็นธรรม โดยระบุว่า สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มีความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงดังกล่าว และมีความเห็นว่า 1. สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายเป็นสิทธิมนุษยชนที่สัมบูรณ์ ซึ่งถูกรับรองไว้โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 28 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ดังนั้น ไม่ว่ารัฐหรือบุคคลอื่นใดก็ไม่อาจล่วงละเมิดสิทธิดังกล่าวได้

2. การใช้โรงพยาบาลเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุรุนแรง เป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ อันเป็นหลักการที่ได้รับการยอมรับในทางสากล โดยเฉพาะอนุสัญญาเจนีวาที่กำหนดหลักการมูลฐานสำคัญให้โรงพยาบาลเป็นเขตปลอดภัย การห้ามใช้โรงพยาบาล หรือสถานที่ที่มีเครื่องหมายกาชาดในทางที่ผิด หรือเพื่อประโยชน์แก่คู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศดังกล่าวจะเป็นกติกาที่กำหนดไว้เพื่อใช้ในสภาวะสงคราม แต่ในความขัดแย้งรุนแรงโดยทั่วไปก็ควรเคารพหลักการดังกล่าวด้วยเช่นกัน

3. ในเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว รัฐจำเป็นต้องเร่งค้นหาความจริงที่เกิดขึ้นอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ในกระบวนการค้นหา จับกุมหรือควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดจำเป็นต้องเคารพหลักการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม ที่ถูกกำหนดในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ซึ่งกำหนดให้ห้ามจับกุมหรือควบคุมตัวบุคคลโดยอำเภอใจ ผู้ถูกจับกุมจะต้องได้รับแจ้งถึงเหตุผลในการจับกุม ได้รับแจ้งถึงข้อหาโดยพลัน และบุคคลที่ต้องหาว่ากระทำความผิดต้องได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานในการติดต่อกับทนายความและญาติ

สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน จึงมีข้อเรียกร้องต่อสถานการณ์ดังกล่าวดังต่อไปนี้ 1. ขอประนามการก่อความรุนแรงในพื้นที่โรงพยาบาล ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะเป็นฝีมือของฝ่ายใดและมีวัตถุประสงค์อะไรก็ตาม 2. ขอให้ใช้กระบวนการยุติธรรมตามปกติในการค้นหาความจริงอย่างโปร่งใส และดำเนินการโดยเคารพหลักการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง ด้วยความเคารพต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
อังคณา หดหู่ แม้ในภาวะสงครามยังต้องคุ้มครองสถานพยาบาล

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานความเห็นของ อังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ถึงกรณีเหตุระเบิดดังกล่าว โดย อังคณา กล่าวว่า ตนรู้สึกหดหู่ใจมาก เพราะรพ.พระมงกุฏฯ แม้จะเป็นสถานพยาบาลของทหาร แต่ก็ให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่รักษาเฉพาะแต่ทหารเท่านั้น จะบอกว่าการกระทำเหตุรุนแรงลักษณะเช่นนี้ หากเป็นการกระทำเพื่อฉลองครบรอบ 3 ปี ของ คสช. ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายมากเกินกว่าจะพูด เป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมมาก เพราะโรงพยาบาลไม่ใช่สถานที่ของความขัดแย้ง แม้ในภาวะสงครามยังต้องคุ้มครองสถานพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ และผู้บริสุทธิ์ด้วย

"ขอประณามการใช้สถานพยาบาลเป็นที่ก่อเหตุร้าย ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บต่อผู้ป่วยและญาติที่มารับการรักษาจำนวนมาก การก่อเหตุในโรงพยาบาล ขัดกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ผู้ก่อเหตุจงใจกระทำการด้วยความเหี้ยมโหด ไร้มนุษยธรรม แม้ในพื้นที่ขัดแย้ง หรือสภาวะสงคราม คู่ขัดแย้งก็ไม่สามารถใช้ความรุนแรงต่อสถานพยาบาล หรือบุคคลากรทางสาธารณสุข หรือละเมิดสิทธิในชีวิตและร่างกายของผู้บริสุทธิ์ได้" อังคณา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ขอให้กำลังใจกับบุคคลกรทุกคนของรพ.พระมงกุฏ ขอให้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
ชมรมแพทย์ชนบท ประณาม

ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ด้วยว่า การวางระเบิดในพื้นที่สาธารณะที่ส่งให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องบาดเจ็บล้มตายนั้นถือว่าไร้มนุษยธรรมแล้ว การวางระเบิดในโรงพยาบาลนั้นไร้มนุษยธรรมยิ่งกว่า ชมรมแพทย์ชนบทขอประณามผู้จงใจก่อเหตุในครั้งนี้ และรวมถึงการก่อเหตุทุกกรณีที่เอาชีวิตประชาชนมาเป็นเครื่องมือในการหวังผลใดๆ และขอเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลพระมงกุฏในการทำหน้าที่ดูแลสุขภาพผู้ป่วยอย่างมุ่งมั่นต่อไป


ภาพจากเฟซบุ๊ก ชมรมแพทย์ชนบท
จตุพร ย้ำไม่ว่าใครหน้าไหนทำก็ต้องถูกประณาม

คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า จตุพร พรหมพันธ์ ประธานนปช. กล่าวถึงเหตุระเบิดดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่คนไทยสมควรประณามผู้ก่อเหตุ โรงพยาบาลเป็นสถานที่ไม่ควรก่อเหตุ แม้แต่ในสงครามสถานที่มีเครื่องหมายกาชาด ยังได้รับการละเว้น เจ้าหน้าที่บ้านเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควรไปตรวจดูกล้องวงจรปิด หาหลักฐาน นำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากเหตุการณ์ที่หน้ากองสลาก หน้าโรงละครแห่งชาติ คนก็เคลือบแคลง แล้วมาเกิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎอีก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของกองทัพ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ หากมีการเชื่อมโยงมายังกลุ่มเสื้อแดง จตุพร กล่าวว่า ใครก็ตามไม่ว่าหน้าไหนที่ก่อเหตุต้องได้รับการประณาม เราต้องวิเคราะห์ว่าเหตุที่เกิดเป็น ฝีมือมนุษย์หรืออุบัติเหตุ หากเป็นฝีมือมนุษย์ถือว่าอำมหิตมาก ไม่กลัวถูกเชื่อมโยง เพราะเราไม่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เป็นผลดีกับใคร เป็นผลเสียต่อประเทศ ดังนั้นต้องทำความจริงให้ปรากฏ หาคนผิดมาลงโทษให้ได้


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.