FILE PHOTO: A combination photo shows U.S. President Donald Trump (L) in the House of Representatives in Washington, U.S., on February 28, 2017 and FBI Director James Comey in Washington on July 7, 2016.

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาปกป้องการตัดสินใจของตนที่ให้สั่งปลด นายเจมส์ โคมี่ย์ ผอ.สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI โดยบอกว่า

"เหตุผลนั้นง่ายมาก คือนายโคมี่ย์มิได้ทำหน้าที่ดีพอ"

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ ระบุในทวิตเตอร์ว่า "ทุกคนในวอชิงตัน ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดโมแครต หรือพรรครีพับลิกัน ต่างหมดความไว้วางใจในตัวนายโคมี่ย์" และยังบอกด้วยว่า "นายโคมี่ย์จะถูกแทนที่ด้วยคนที่ทำงานได้ดีกว่า และสามารถนำจิตวิญญาณและความภาคภูมิใจกลับมาสู่ FBI อีกครั้ง"

ด้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ กล่าวในวันพุธว่า "ปธน.ทรัมป์ ได้ตัดสินใจอย่างถูกต้องในช่วงเวลาที่เหมาะสม"

ขณะที่รองโฆษกทำเนียบขาว ซาร่าห์ ฮัคเคอร์บี้ แซนเดอร์ส แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่า "ผอ. FBI เจมส์ โคมี่ย์ กระทำความผิดร้ายแรงด้วยการขัดคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ " และว่า "ทุกคนต่างทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน"

Letter - Comey dismissal


อย่างไรก็ตาม มีผู้วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่า การปลดนายโคมี่ย์ครั้งนี้ ยิ่งก่อให้เกิดคำถามถึงการสอบสวนของ FBI ต่อกรณีที่รัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว รวมถึงผลประโยชน์ที่อาจมีร่วมกันระหว่างคณะหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ กับรัสเซีย

อดีต รมต.ยุติธรรมสหรัฐฯ อัลเบอร์โต้ กอนซาเลส กล่าวกับ VOA ว่า "นี่เป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาดเลยของ ปธน.ทรัมป์ หากคิดว่าจะสามารถยุติกระบวนการสอบสวนเรื่องนี้ใน FBI ได้ เพราะจากนี้บรรดาเจ้าหน้าที่ของ FBI และในกระทรวงยุติธรรม จะยิ่งให้ความสนใจต่อกรณีนี้มากยิ่งขึ้น"

ด้าน สว.ไดแอน ไฟน์สไตน์ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า "ตนไม่อยากเชื่อว่า ปธน.ทรัมป์ จะทำเช่นนี้ เพราะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม ขณะที่กำลังมีการสอบสวนกรณีของรัสเซียที่อาจมีส่วนให้ ปธน.ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้ง"

In this Wednesday, May 3, 2017, photo then-FBI Director James Comey pauses as he testifies on Capitol Hill in Washington, before a Senate Judiciary Committee hearing. President Donald Trump abruptly fired Comey on May 9.

ในแถลงการณ์ปลดนายเจมส์ โคมี่ย์ เมื่อวานนี้ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า "มีความจำเป็นที่จะต้องรื้อฟื้นความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ที่มีต่อหน่วยงานระดับสุดยอดทางด้านกฎหมายให้กลับมา หลังจากหลายเดือนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย"

ขณะที่จดหมายแจกแจงเหตุผลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เจฟฟ์ เซสชั่น และรองรัฐมนตรียุติธรรม ร้อด โรเซนสไตน์ ระบุว่า "นายเจมส์ โคมี่ย์ ได้สร้างความผิดพลาดครั้งใหญ่ เกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีอีเมล์ของนางฮิลลารี่ คลินตั้น"

นอกจากนี้ รองรัฐมนตรียุติธรรม โรเซนสไตน์ ยังกล่าวหานายโคมีย์ว่าขัดขืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา หลังจากที่เขาออกมาประกาศว่าไม่ควรดำเนินคดีกับอดีต รมต. คลินตั้น สืบเนื่องจากกรณีอีเมล์ดังกล่าว

ด้าน สว.จอห์น แมคเคน จากพรรครีพับลิกัน ให้ความเห็นว่า "แม้การแต่งตั้งและปลดผู้อำนวยการเอฟบีไอนั้น อยู่ในอำนาจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ตนผิดหวังกับการตัดสินใจของ ปธน.ทรัมป์ ในครั้งนี้"

Demonstrators gather outside the White House in support of an investigation of Donald Trump, May 10, 2017.

ขณะเดียวกัน เวลานี้กำลังมีเสียงเรียกร้องในรัฐสภาสหรัฐฯ ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการอิสระขึ้นมาสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว

ครั้งล่าสุดที่มีคำสั่งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไล่ผู้อำนวยการเอฟบีไอ ออกจากตำแหน่ง เกิดขึ้นในสมัยประธานาธิบดีบิลล์ คลินตั้น เมื่อ 24 ปีก่อน ที่ได้ไล่นายวิลเลี่ยมส์ เซสชั่น ผอ.เอฟบีไอในขณะนั้น ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากปัญหาด้านจริยธรรม

แต่สำหรับกรณีล่าสุดนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า คล้ายกับเหตุการณ์ที่อดีตประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ไล่ผู้สืบสวนพิเศษ Achibald Cox ออกจากตำแหน่ง เมื่อปี ค.ศ.1973 หรือเมื่อ 44 ปีก่อน ระหว่างที่เขากำลังสืบสวนข้อเท็จจริงในคดีอื้อฉาว 'วอเตอร์เกต' ซึ่งรัฐสภากำลังเตรียมที่จะมีมติลงโทษให้ออกจากตำแหน่ง

ก่อนจะลงเอยด้วยการลาออกของประธานาธิบดีนิกสันในเวลาต่อมา!


source ;- http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=065999459708214971


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.