ไขลานความคิด 

พราะไปต่อไม่ได้ การจราจรเป็นอัมพาตไปทั่วกรุง พอน้ำลงสิ่งที่ตามมาคือกองขยะกองใหญ่ที่เกลื่อนกลาดเต็มถนน 

พายุครั้งนี้บอกอะไรเราบ้าง ที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะ การวางแผนรับมือน้ำท่วมที่ไม่ดี ? หรือ คนกรุงเทพมักง่าย? เลยทำให้น้ำท่วมกันแน่ เพราะในยุคนี้ที่มีผู้ว่าแต่งตั้งพอเกิดน้ำท่วมขึ้นเมื่อใดก็จะมีกระทู้มากมายบนโลกไซเบอร์โยนบาปให้ชาวกรุงเทพว่ามักง่าย ทิ้งขยะไม่เป็นที่น้ำจึงท่วม แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนหน้านี้จะมีว่าดังขอเซเลบต่างๆอกมาบอกว่าที่น้ำท่วมเพราะผู้นำโง่ วางแผนไม่ดี ที่เด็ดสุดคือมีคนชั่วเยอะ หนักแผ่นดิน น้ำเลยท่วม มาตอนนี้เซเลบเหล่านั้นเงียบกริบ

ลองพิจารณาดูดีดีจะเห็นว่าน้ำท่วมปี 54 เกิดจากพายุเข้าหลายๆลูก และมวลน้ำก็ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตามธรรมชาติ เพียงแต่น้ำมันมากจนเอ่อล้นจนเกิดเป็นวิกฤติ หากแต่ครั้งนั้นชาว กทม. กลับมีเวลามาตั้งอุปกรณ์กั้นน้ำท่วมก่ออิฐฉาบปูนกันให้วุ่น และมีผู้ว่าที่ไม่ยอมทำตามรัฐบาลไม่เปิดประตูระบายน้ำ สุดท้ายบางส่วนก็ต้องจมน้ำอยู่ดี แต่ถึงกระนั้นก็ยังป้องกันกรุงเทพชั้นในที่ถือเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจไว้ได้ แต่น้ำท่วมคืนวันที่ 13-14 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น มันเกิดจากฝนตกที่กรุงเทพโดยตรง จะพายุจะมรสุมอะไรก็ตามมีคนออกมาเตือนกันแล้วว่าท่วมแน่ แต่มีขาใหญ่ออกมาเบรกเอาไว้ว่าอย่าตกใจ “เอาอยู่” แล้วผลเป็นไงล่ะ “เละ ทั้ง กรุง”


ดังนั้นอย่าเทียบปี 60 กับ 54 เลยมันคนละบริบทกัน น้ำท่วมล่าสุดนั้นเกิดจากฝนตกหนัก ในฤดูฝนใช่หรือไม่ ฤดูฝนมีทุกปีใช่หรือไม่ คนกรุงเทพทิ้งขยะกันเยอะเฉพาะปีที่มีน้ำท่วมหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นเป็นปกติของมันอยู่แล้ว ใยไม่วางแผนรับมือ กทม.จัดการกับขยะอย่างไร ชุดลอกท่อระบายน้ำ ขุดลอกคูคลองอย่างไร ทำไมผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของผู้ว่าแต่งตั้งที่เจอปัญหาน้ำท่วม จริงอยู่ที่ปัญหาความมักง่ายของประชาชนส่งผลให้ขยะอุดตัน แต่กระนั้นก็จะมาโทษแต่ประชาชนไม่ได้ ผู้ว่าและทีมบริหารควรจะต้องทำอะไรให้ประชนเห็นถึงการวางแผนรับมือน้ำท่วมให้ดีกว่านี้ นี่ขนาดฝนตกหนักยังขนาดนี้ถ้าหากเกิดมีพายุกระหน่ำจังหวัดบนๆแล้วมีมวลน้ำมาแบบปี 54 แล้วยังใช้วิธีแบบเดิมๆล่ะก็ไม่อยากจะนึกภาพตามเลยจริงๆ #ไขลานความคิด

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.