Posted: 12 Oct 2017 09:07 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ ออกแถลงการณ์เร่งปฏิรูปตำรวจโดยให้อัยการตรวจสอบควบคุมการสอบสวนคดีสำคัญ จำเป็น หรือเมื่อได้รับการร้องเรียนตั้งแต่เกิดเหตุ

12 ต.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) หรือ Police Watch ออกแถลงการณ์ ของเครือข่ายฯ ฉบับที่ 7/2560 เรื่อง ให้เร่งปฏิรูปตำรวจโดยให้อัยการตรวจสอบควบคุมการสอบสวนคดีสำคัญ จำเป็น หรือเมื่อได้รับการร้องเรียนตั้งแต่เกิดเหตุ 
 
แถลงการณ์ระบุว่า ตามที่คณะอนุกรรมการด้านการบังคับใช้กฎหมายและระบบการสอบสวนคดีอาญา ในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ได้เห็นชอบในหลักการให้อัยการมีอำนาจตรวจสอบควบคุมการสอบสวนของตำรวจในคดีสำคัญ จำเป็น หรือเมื่อได้รับการร้องเรียนตั้งแต่เกิดเหตุ ซึ่งถือเป็นการปฏิรูประบบงานสอบสวนให้สอดคล้องกับหลักสากลและเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้รัฐแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการที่ตำรวจไม่ยอมสอบสวน หรือสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นธรรมนั้น หลังจากมีมติของเสียงส่วนใหญ่ดังกล่าว กลับมีตำรวจผู้ใหญ่ที่เป็นเสียงส่วนน้อยออกมาให้ข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า อัยการไม่พร้อมที่จะสอบสวนร่วมกับตำรวจตลอด 24 ชั่วโมงนั้น

คป.ตร.เห็นว่า การกระทำในการให้ข่าวเช่นนี้ นอกจากจะเป็นพฤติกรรมที่ไร้มารยาทแล้ว ยังเป็นการให้ข้อมูลเท็จต่อประชาชนเพื่อให้เกิดความสับสนเป็นอุปสรรคต่อการปฏิรูปในประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งนี้ด้วย เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นเพียงการตรวจสอบหรือควบคุมการสอบสวนในคดีสำคัญที่จำเป็น หรือเมื่อมีการร้องเรียนเท่านั้น มิใช่การไปร่วมสอบสวนกับตำรวจแต่อย่างใด ซึ่งคดีที่จำเป็นต้องตรวจสอบเช่นนี้มีเกิดขึ้นไม่มากนัก ซึ่งไม่น่าจะเกิน 5 เปอร์เซ็นต์โดยเฉพาะในชนบท ทั้งนี้อัยการมีอำนาจสั่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อได้รับสำนวนจากตำรวจอยู่แล้ว เพียงแต่ปฏิรูปให้สั่งได้ตั้งแต่เกิดเหตุในคดีสำคัญ หรือ เมื่อมีการร้องเรียน เพื่อป้องกันการบิดเบือนพยานหลักฐาน

นอกจากนั้น การตรวจสอบก็สามารถกระทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีระบบไลน์ หรือหากเห็นว่าจำเป็นต้องไปดูที่เกิดเหตุ ก็อาจไปในวันที่สะดวกก็ได้ แม้กระทั่งจัดผู้ช่วยอัยการไปทำหน้าที่ แต่อยู่ในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบคดีดังกล่าว ซึ่งทางอัยการยืนยันว่ามีความพร้อมและสามารถปฏิบัติได้จริง ผู้ที่ต้องการเห็นกระบวนการยุติธรรมสุจริตเที่ยงธรรมย่อมต้องสนับสนุนกับแนวทางดังกล่าว

คป.ตร.เรียกร้องด้วยว่า ขอให้ตำรวจผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยหยุดให้ข้อมูลเท็จสร้างความสับสนต่อสังคมดังกล่าว อันเป็นการกระทำที่ไม่ต้องการให้เกิดการปฏิรูประบบงานสอบสวนของชาติอันเป็นอำนาจที่ถูกผูกขาดและไร้การตรวจสอบสร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชนมาอย่างยาวนาน และขอให้คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เร่งปฏิรูปงานสอบสวนตามแนวทางดังกล่าว เพื่อให้ระบบงานสอบสวนของชาติมีมาตรฐานสอดคล้องกับหลักสากล และเสียงเรียกร้องของประชาชนที่ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมทางอาญาของประเทศเป็นไปด้วยความสุจริตและมีประสิทธิภาพเป็นที่เชื่อถือของนานาชาติอย่างแท้จริง

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.